ชายโดนล้วงกระเป๋าที่หัวลำโพง เดินเท้า-ปั่นจักรยาน 700 กิโล กลับบ้านที่อุดรฯ

ชายโดนล้วงกระเป๋าที่หัวลำโพง เดินเท้า-ปั่นจักรยาน 700 กิโล กลับบ้านที่อุดรฯ

198128 เม.ย. 67 19:47   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ชายหอบกระเป๋าขึ้นรถไฟที่หัวลำโพงเพื่อกลับบ้าน เผลอหลับเจอกรีดประเป๋า ไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว ตัดสินใจเดินเท้าเปล่ากลับบ้าน เจอรปภ.ที่สระบุรีใจดีให้จักรยานปั่นกลับบ้าน ระยะทางไกลกว่า 700 กิโล เมื่อถึงอ.หนองหาน พลเมืองดีเห็นน่าสงสารพาไปส่งถึงบ้าน ญาติโห่ร้องสุดดีใจหลังประกาศตามหาคนหายนึกว่าตายไปแล้ว ยิ่งกว่าคนเหล็กจริงๆ

(28 เม.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา เวลา 22.00 น. มีพลเมืองไปเจอชายปั่นจักรยานอยู่ริมถนนสายอ.หนองหาน-อ.กุมภวาปี ถนนสาย 2350 แถวบ้านหนองบัวแดง ต.หนองไผ่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี จึงสอบถามทราบชื่อคือนายเดช หรืออุ๊ด อายุ 50 ปี บอกว่า เดินทางมาจาก จ.เพชรบุรี เพื่อกลับบ้านช่วงสงกรานต์ที่บ้านเมืองนาซำ ต.นาไหม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี และได้มาขึ้นรถไฟที่หัวลำโพงเมื่อวันที่ 9 เม.ย.67 ที่ผ่านมา แต่ตอนรอรถไฟที่หัวลำโพงเผลอหลับถูกคนร้ายล้วงกระเป๋าเอาเงินสด และเอกสารสำคัญไปรวมทั้งโทรศัพท์มือถือด้วย ไม่เหลือเงินติดต่อซักบาท 


คนร้ายเหลือไว้ให้เพียงแผ่นยันต์สีทองและกระเป๋าเสื้อผ้าเอาไว้ให้ดูต่างหน้า จึงตัดสินใจเดินเท้าเปล่าจะกลับบ้าน เดินมาเรื่อยๆ วันละประมาณ 60-70 กิโล เหนื่อยก็พัก อาบน้ำก็ลำคลองทุ่งนาข้างทาง หากจะกินน้ำก็กินน้ำที่ก๊อกล้างหน้าที่ปั๊ม พอเดินทางถึงสระบุรี มีรปภ.พี่ใจดีเอาจักรยานให้ปั่นกลับบ้านและเอาเงินสดให้จำนวนหนึ่ง ก็ปั่นมาเรื่อยอีกไม่ไกลก็จะถึงบ้านแล้ว พลเมืองจึงได้แจ้งจิตอาสามารับเพื่อส่งกลับบ้านทันที


ต่อมานายวีระพลฯ แอดมินเพจบ้านดุงอัปเดต ได้เดินทางมารับนายอู๊ด ที่สี่แยกอ.หนองหานและพาไปส่งถึงบ้านที่บ้านเมืองนาซำ ต.นาไหม อ.บ้านดุง พอลงจากรถตู้ ทั้งญาติพี่น้องและชาวบ้านโห่ร้องด้วยความดีใจ พากันผูกข้อต่อแขนรับขวัญกลับบ้าน ซึ่งญาติๆนึกว่านายอุ๊ดตายไปแล้ว หลังจากติดต่อไม่ได้ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.67 ที่ผ่านมา 


ด้านภรรยาที่จ.เพชรบุรีไม่เห็นสามีกลับถึงบ้าน ไปแจ้งความประกาศคนหาย และนั่งรถขึ้นมาจากบ้านที่จ.เพชรบุรีตามหาสามี ก็ไม่เจอ วันนี้ภรรยาดีใจแทบขาดใจเมื่อเห็นสามีตัวเป็นๆ หลังจากหายจากบ้านเกือบ 20 วัน นับถือน้ำใจคนไทยที่ช่วยเหลือกัน และที่สำคัญนับถือหัวใจลุงอุ๊ดเดินเท้าเปล่าและปั่นจักรยานกลับบ้านระยะทางกว่า 700 กิโลคนเหล็กจริงๆ


ส่วนคอหวยก็ไม่พลาดข่าวคนหายเกือบ 20 วันสุดท้ายได้กลับบ้าน ส่องไปที่หมายเลขรถจักรยานที่พี่รปภ.ที่จ.สระบุรีใจดีให้นายอุ๊ดปั่นกลับบ้าน เห็นเลขตรงคานจักรยาน 596 ส่วนคอจักรยานเลข 24 ใกล้หวยออกลุ้นกันสักงวดเผื่อโชคใหญ่หล่นทับ


นายเดชหรืออุ๊ด บอกว่า ตนไปทำงานรับจ้างก่อสร้างอยู่ที่บ้านภรรยาที่อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ก็อยากกลับบ้านเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไทยมาเยี่ยมญาติพี่น้อง ก่อนมาภรรยาให้เงินติดตัวมา 1,100 บาทนั่งรถโดยสารจากอ.บ้านแหลม มาถึงสถานีรถไฟ จำไม่ได้ว่าบางเขนหรือบางซื่อ ช่วงเย็นวันที่ 9 เม.ย.67 ซื้อตั๋วรถไฟน่าจะออกประมาณสามทุ่มครึ่ง ก็ไปนอนรอแถวสถานีฯ ก่อนนอนกินข้าวเหนียวส้มตำเกิดง่วงนอนเลยนอนเล่น ตื่นขึ้นมาปรากฎว่ากระเป๋าสตางค์ถูกฉีกทิ้ง ทั้งเงินบัตรประชาชน รวมทั้งตั๋วรถไฟหายไปหมด ตกใจมาก เดินไปหาตร.แถวนั้นเพื่อขอความช่วยเหลือ ตร.ก็บอกว่า "มึงมีปัญญามา มึงก็มีปัญญากลับบ้านได้" ตนเห็นตร.พูดแบบนั้นก็เลยเดินออกมา  


จึงตัดสินใจเอาไงเอากัน ขอเดินกลับบ้านแล้วกัน ก็เดินมาเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก พอมาถึงสระบุรี ก็เดินไปขอน้ำกินกับพี่รปภ.คนหนึ่งน่าจะเป็นโรงงานไก่ รปภ.ก็ถามว่าจะไปไหนอย่างไร ตนก็เล่าให้เขาฟัง เขาสงสารก็เลยยกจักรยานให้ บอกว่าปั่นกลับบ้านพร้อมให้เงินมาจำนวนหนึ่ง ก็ปั่นมาเรื่อยๆ จักรยานเกิดยางรั่ว เงินก็ไม่มี ก็ได้จากพระที่ออกบิณฑบาต และชาวบ้านที่สงสารให้ ทีละ 10 20 100 เอาไว้ซื้อข้าวกินมาเรื่อยๆ ปกตินนอนตามศาลาริมทางกลางวัน กลางคืนค่อยเดินและปั่นจักรยานเพราะอากาศไม่ร้อน ส่วนที่ว่าทำไมไม่แวะตำรวจให้เขาช่วย ตอนนั้นตนมืดไปหมด และเคยไปขอความช่วยเหลือที่สถานีรถไฟแล้วเห็นเขาบอกมามีปัญญามาก็มีปัญญากลับบ้าน เลยไม่กล้าไปขอความช่วยเหลืออีก  


ตอนแรกว่าจะกลับเพชรบุรี ก็ไม่อยากกลับเพราะภรรยาก็ไม่มีตังค์ จึงตัดสินใจต้องกลับบ้านที่อุดร ก่อนเดินมายกมือขึ้นท่วมหัว ยังไงต้องกลับบ้านไปตายเอาดาบหน้า ตอนเดินทั้งเหนื่อยทั้งท้อ คิดในใจหิวต้องแวะวัด นอนข้างศาลา กินผักกระถิน กินน้ำที่เหลือตกอยู่ข้าง ตนคิดเสมอใจว่า ยังไงต้องตายบ้านเกิด แม้ขาเดินไม่ไหว แต่ใจต้องสู้ ตนต้องมาหาพี่สาวและญาติๆ ให้ได้ ดีใจที่ได้กลับมาถึงบ้านแล้ว เหมือนตายแล้วเกิดใหม่เลย ขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือทั้งพระ ชาวบ้าน และลุงรปภ.ที่ให้จักรยานปั่นกลับบ้าน ชาตินี้ตนจะไม่ลืมพระคุณเลย ลุงอุ๊ดพูดไปก็น้ำตาไหลสะอื้นร้องไห้ออกมา


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง