เปิดแช็ตเสียว อดีตครูวิทยากรขอดูของลับลูกชาย โพสต์เตือนภัยโรงเรียนอื่น โดนขู่ฟ้อง พ.ร.บ.คอมฯ

เปิดแช็ตเสียว อดีตครูวิทยากรขอดูของลับลูกชาย โพสต์เตือนภัยโรงเรียนอื่น โดนขู่ฟ้อง พ.ร.บ.คอมฯ

242625 เม.ย. 68 22:52   |     Tum1

ผู้ปกครองเปิดแช็ตเสียว อดีตครูวิทยากรขอดูของลับลูกชาย โพสต์เตือนภัยโรงเรียนอื่น โดนขู่ฟ้อง พ.ร.บ.คอมฯ

(25 เม.ย.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความในกลุ่มข่าวท้องถิ่น “กลุ่มข่าวคนโคราชบ้านเอ็ง” เปิดเผยภาพแช็ตสนทนาระหว่างครูอัตราจ้างชายรายหนึ่ง ที่เคยสอนวิชาคณิตศาสตร์ อยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา โดยแช็ตคุยกับลูกชายของเธอ ในลักษณะไม่เหมาะสม ทั้งการชวนคุยเรื่องส่วนตัว ชวนไปนอนด้วยกัน และใช้ข้อความที่อาจตีความได้ถึงการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ โดยโพสต์ระบุว่า ครูรายนี้หมดสัญญาจ้างกับโรงเรียนของลูกชายแล้ว และเกรงว่าอาจย้ายไปสอนที่โรงเรียนอื่น จึงออกมาเตือนภัยผู้ปกครองท่านอื่นให้ระมัดระวัง พร้อมแสดงความห่วงใยว่า “เด็กบางคนอยากได้เกรด สิ่งของ อาจตกเป็นเหยื่อได้”

ภายหลังการเผยแพร่เรื่องดังกล่าว มีผู้ปกครองและชาวโซเชียลฯจำนวนมาก เข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงกังวล และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบพฤติกรรมครูรายนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำกับเด็กนักเรียนคนอื่น


อย่างไรก็ตาม หลังเรื่องราวถูกเผยแพร่ออกไป ผู้ปกครองคนดังกล่าวเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ถูกครูรายนั้นขู่ฟ้องตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยอ้างว่า การนำแช็ตมาเผยแพร่เป็นการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคล ทำให้เรื่องราวยิ่งได้รับความสนใจในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง



ล่าสุดวันนี้ ทีมข่าวเดินทางไปพบ น.ส.ทิพย์ (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี แม่น้องบอม (นามสมมุติ) เปิดใจว่า เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ลูกชายคนเล็กได้เดินมาบอกกับตนเองว่า พี่ชายมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง หลังพบความผิดปกติตนจึงได้ไปสอบถามลูกชาย ที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.4 ลูกชายจึงเล่าให้ฟังว่า รู้สึกกลัว หลังถูกครูคนหนึ่งเคยสอนที่โรงเรียนติดต่อทางเฟซบุ๊กมาพูดคุย ตนจึงได้เปิดอ่านข้อความแช็ตทั้งหมด ปรากฏว่า ครูคนดังกล่าวมีพฤติกรรมขอดูของลับ อีกทั้ง บอกให้ลูกชายถ่ายภาพอวัยวะเพศส่งให้ และชวนลูกชายให้ออกมาหาตอนกลางคืน 

เมื่อตนเห็นข้อความ ถึงกับตกใจ ไม่คิดว่าคนเป็นครูจะมีพฤติกรรมแบบนี้ ซึ่งตนไม่เคยเจอครูคนนี้ เพิ่งมารู้จักจากลูกชายที่เล่าให้ฟัง และไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับลูกของตน และทราบว่า ก่อนหน้านั้นก็มีพฤติกรรมทำกับเด็กผู้ชายแบบนี้มาหลายคนแล้ว รวมทั้งเพื่อนของลูกชาย ก็ถูกครูคนนี้ทักข้อความหาชวนคุยในเรื่องลามกด้วย 


หลังจากตนทราบเหตุการณ์ ได้ติดต่อสอบถามไปยังครูคนดังกล่าว ตนบอกว่าจะไปแจ้งความดำเนินคดี ครูคนนี้ ยังข่มขู่อีกว่า ถ้าหากไปแจ้งความหรือเอาข้อความแช็ตไปเปิดเผยในโซเชียลฯ จะดำเนินคดีกับตนเอง ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งตนมองว่า ครูคนนี้ไม่มีความจริงใจและสลดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีแม้คำขอโทษ หนำซ้ำยังมาข่มขู่จะฟ้องคดีอีก จากนั้น ได้โทรสอบถามกับคุณครูคนอื่น บอกว่า เพิ่งจะรู้เหมือนกันว่าครูคนนี้มีพฤติกรรมแบบนี้ แต่ไม่รู้ว่าจะทำยังไง เนื่องจาก ครูคนนี้ได้หมดสัญญาจ้างแล้ว ช่วงก่อนปิดเทอมที่ผ่านมา 


อยากจะฝากถึงผู้ปกครอง ให้สอดส่องดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิด และอยากจะฝากถึงครูที่มีพฤติกรรมแบบนี้ ขอให้นึกถึงจรรยาบรรณและรักในการเป็นครู ให้รักลูกศิษย์เหมือนลูกตัวเอง ไม่ใช่มากระทำกับลูกแม่เช่นนี้ ซึ่งได้เดินทางมายัง สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ยืนยันว่า จะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุดกับครูคนดังกล่าว เพื่อไม่อยากให้ไปก่อเหตุกระทำกับเด็กนักเรียนอีก 



ขณะที่ น้อมบอม อายุ 15 ปี เปิดเผยว่า ช่วงกลางดึก 2-3 วันที่ผ่านมา ระหว่างที่กำลังนอนเล่นเกมกับเพื่อน ครูอาร์ม (นามสมมุติ) ได้ทักเฟซบุ๊กมาหา ตนคิดว่าทักมาเล่นด้วยหรือถามไถ่ระหว่างปิดเทอม พอคุยไปสักพักเริ่มคุยเรื่องไม่เหมาะสม ขอดูรูปหน้าท้อง ขอดูอวัยวะเพศ ชักชวนให้ออกจากบ้านให้ไปหา ตนจึงได้ทักไปถามเพื่อนที่เรียนด้วยกัน เพื่อนก็บอกว่า ครูคนนี้ทักมาพูดคุยในลักษณะเดียวกัน พอรู้แบบนี้ตนจึงได้แกล้งเล่นด้วยตามที่ครูอาร์มได้พูดมา เพื่ออยากจะรู้ว่าครูอาร์มจะเอายังไงต่อ 

ตอนนั้น รู้สึกตกใจและกลัวมาก ไม่คิดมาก่อนว่าครูที่สอนจะกล้าพูดคำไม่เหมาะสมหรือทำพฤติกรรมแบบนี้ ซึ่งที่ผ่านมา เวลาที่ครูอาร์มกำลังสอนตนในห้องเรียน ก็จะมีพฤติกรรมชอบนั่งจ้องตัวเอง เหมือนเล็งตนไว้แล้ว


ด้านครูอาร์ม ที่ปรากฏในข้อความคุยแช็ตขอดูของลับเด็กชาย ม.4 ได้ติดต่อขอชี้แจงกับทีมข่าว ระบุว่า ตนไม่ได้เป็นครูอัตราจ้าง แต่ถูกจ้างมาในฐานะวิทยากร มีสัญญาจ้างการทำงาน 2 เดือน และตอนนี้ได้หมดสัญญาที่โรงเรียนดังกล่าวไปแล้วช่วงปิดภาคเรียน

ส่วนข้อความและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับผิดที่ใช้คำพูดไม่เหมาะสม เป็นแค่การพูดคุยหยอกล้อกับเด็กเท่านั้น ไม่ได้จริงจังอะไร อยากให้สังคมเข้าใจ และไม่อยากให้ใช้คำว่าครู เพราะอาจจะดูรุนแรงเกินไป เนื่องจาก ตนไม่ใช่ครู และวันที่แช็ตข้อความไปหานักเรียนก็ไม่ได้สอน หรือเป็นวิทยากรที่โรงเรียนนั้นแล้ว - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง