จับแล้ว "เหน่ง "แก๊งค้ายายิงสู้ตำรวจสายไหม

จับแล้ว "เหน่ง "แก๊งค้ายายิงสู้ตำรวจสายไหม

48809 ม.ค. 68 21:02   |     Tum1

จับแล้ว "เหน่ง "แก๊งค้ายาเสพติด ยิงสู้ตำรวจสายไหม จนมุมหลังหนีกบดานประเทศเพื่อนบ้าน

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 9 ม.ค. 68 พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 , พ.ต.อ.สุรพงค์ ธรรมพิทักษ์ รอง ผบก.น.2 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม พร้อม พ.ต.ท.ดิษยเดช ยิ้มแย้ม รอง ผกก.สส.สน.สายไหม , พ.ต.ท.ปราโมทย์ อรชุน สว.สส.สน.สายไหม และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.สายไหม ร่วมกันจับกุมตัวนายอภิวัฒน์ หรือ เหน่ง (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ชาว จ.สมุทสาคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่จ.1651/2567 ลง 16 ธ.ค. 67 ความผิดฐาน

  • ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายฯ
  • มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืน
  • พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่
  • ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย
  • ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้น

โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 8 ม.ค.68 เวลาประมาณ 11.02 น. บริเวณจุดตรวจบุคคลและพาหนะสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ต.มีชัย อ.เมือง จ.หนองคาย 


คดีนี้ สืบเนื่องจากกรณี เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ของวันที่ 22 ต.ค. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสน.สายไหม ขับรถไล่จับแก๊งยาบ้าไกลกว่า 10 กม. หลังพบรถเก๋งต้องสงสัยมีชาย 2 คน หญิง 1 คน อยู่ในรถภายในซอยสายไหม 57 เขตสายไหม กทม. จึงเรียกตรวจแต่ไม่หยุดซ้ำยังเร่งเครื่องหนี ชนรถชาวบ้านและรถสายตรวจที่จอดขวางเสียหายนับ 10 คัน 

ระหว่างทางยังยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเปิดทางหนี สุดท้ายเสียหลักจนมุมชนกำแพงในซอยสายไหม 10 ก่อนจับกุมนายวุฒิศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี คนขับได้คารถ และทำการปิดล้อมพื้นที่นานกว่า 6 ชม. ก่อนจับกุม น.ส.นันทนา (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ภรรยาของนายอภิวัฒน์ หรือ เหน่ง (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี คนร้ายที่หลบหนีไปได้ จากการตรวจค้นรถพบของกลาง ยาไอซ์ 1 กก. กับ ยาบ้า 1.6 แสนเม็ด


ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ นายอภิวัฒน์ และทำการสืบสวนมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด กระทั่งได้รับแจ้งจากสายลับว่า บุคคลตามหมายจับนี้หลบหนีการจับกุมไปอาศัยอยู่ที่ สปป.ลาว เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานงานกับทางการ สปป.ลาว เพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมตัว กระทั่งทางการ สปป.ลาว สามารถจับกุมตัวได้ พร้อมของกลางอาวุธปืน 4 กระบอก , กระสุนปืนขนาดต่างๆกว่า 60 นัด , โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง และถูกดำเนินคดีในส่วนของทาง สปป.ลาวเรียบร้อยแล้ว ก่อนประสานส่งมอบตัวผู้ต้องหารายนี้ ให้ทางการไทย ผ่านช่องทางด่าน ตม.จว.หนองคาย



จากการสอบสวน นายอภิวัฒน์ เบื้องต้นรับว่า ตนเป็นคนขนย้ายยาเสพติดที่ตรวจยึดได้จริง ซึ่งก่อนหน้าที่จะถูกตำรวจไล่จับ ได้ส่งยาในลักษณะนี้มาแล้ว 5 ครั้ง ส่วนยาที่ยึดได้เป็นการส่งครั้งที่ 6 และในวันเกิดเหตุ ตนพกปืนมาด้วย 2 กระบอก โดยเป็นคนยิงใส่ตำรวจ ขณะถูกไล่จับกุมไปจำนวน 5 นัด เพื่อเปิดทาง จังหวะที่ถูกไล่มาถึงหลังตลาดเซฟวันโก ซึ่งไม่มีไฟได้กระโดดลงรถ แล้วเดินปะปนไปในกลุ่มลูกค้า ก่อนเดินมาเรียกแท็กซี่บริเวณแยก คปอ. 

โดยได้ไปพักกับเพื่อนย่านพระราม 2 คืนหนึ่งก่อนเรียกแท็กซี่เดินทางมาต่อรถที่ จ.สระบุรี ไป จ.นครราชสีมา และต่อรถไปจ้างเรือข้ามฝากไปประเทศลาว ที่ จ.หนองคาย และเข้าทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในประเทศลาว จนมาถูกจับกุม ส่วนอาวุธปืนอีก 2 กระบอก เป็นของเพื่อนที่ทำงานร้านอาหาร ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจลาว จับพร้อมกัน


อย่างไรก็ตาม จากการตรวจประวัตินายอภิวัฒน์ ผู้ต้องหาในคดีนี้ พบว่าปี 53 ถูกจับข้อหาเสพยาเสพติดประเภท 1 ท้องที่ สภ.เมือง สมุทรสงคราม , ปี 55 ถูกจับข้อหาพยายามฆ่า ในท้องที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร และมาถูกจับในคดีนี้ - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง