รพ.รักษาผิดชีวิตเปลี่ยน สาว PR ร้องสื่อ ท้องนอกมดลูกเข้ารักษารพ.เอกชนถูกหมอฉีดยาจนแพ้หนัก

รพ.รักษาผิดชีวิตเปลี่ยน สาว PR ร้องสื่อ ท้องนอกมดลูกเข้ารักษารพ.เอกชนถูกหมอฉีดยาจนแพ้หนัก

64003 มี.ค. 68 15:06   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

รพ.รักษาผิดชีวิตเปลี่ยน สาว PR ร้องสื่อ ท้องนอกมดลูกเข้ารักษารพ.เอกชนถูกหมอฉีดยาจนแพ้หนัก เผยความในใจทั้งน้ำตาในวันที่นอนรพ.กลับถูกพยาบาลจับกลุ่มนินทาจนกลายเป็นตัวตลกในสายตา ด้านมารดาวอนหมอผู้เชี่ยวชาญอนุเคราะห์หาทางรักษาลูก

(3 มี.ค.68) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพักหลังหนึ่ง ในตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเข้าพูดคุยและเยี่ยม น้องแนน สาววัย 35 ปี ที่เธอล้มป่วยกะทันหันจากผลค้างเคียงของการแพ้ยาจนทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนไปหนักมาก โดยเราพบว่าสภาพร่างกายเธอนั้นมีลักษณะของอาการไหม้จนเกิดแผลตามทั่วร่างกาย ใบหน้าบวม ผมร่วงจนหมดศีรษะ 

   

นางสาวแนน เล่าทั้งน้ำตาว่า ก่อนหน้านี้ประมาณต้นเดือนปลายปีที่ผ่านมาเธอตรวจครรภ์แล้วพบว่ามีการตั้งครรภ์ จึงไปฝากครรภ์กับทางโรงพยาบาลรัฐตามปกติ ต่อมาช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ตนรู้สึกปวดท้องรุนแรง จึงไปโรงพยาบาลเอกชนตามสิทธิ์ของประกันสังคม จึงมีการอัลตร้าซาวด์ให้ และเจอถุงการตั้งครรภ์ แต่เขาบอกว่ามันดูแปลกๆ จึงนัดมาอีกวัน ให้ตนมาเจอหมอสูติ หมอก็ยืนยันว่า ตนท้องนอกหมดลูก แล้วก็บอกว่า ก้อนเลือดมันยังไม่แตกต้องทำการรักษา ด้วยการฉีดยาละลายก้อนเลือด ให้มันฝ่อ แล้วหมอก็มีการบอกว่าผลข้างเคียงจะมีอาการคลื่นไส้ และอาเจียน ตนก็รับรู้แล้ว


ตนมีประวัติแพ้ยา พวกยาฆ่าเชื้อ และย่าบลูเฟ่น และมีบัตร เวลามาที่นี่ทุกครั้งตนก็จะยื่นบัตรการแพ้ยาให้ ซึ่งเขาก็น่าจะรู้ หลังจากที่เขาบอกแบบนั้น ตนก็ได้นอนโรงพยาบาล ช่วงประมาณ 6 โมง เขาก็มาฉีดยาให้ และบอกว่ามีผลข้างเคียงแค่เรื่องนี้ และมีการงดน้ำงดอาหารอยู่ 2 วัน ก่อนที่จะมาฉีดให้ พอช่วงประมาณ 00.00 น. ก็มีเลือดออกมา 


ตนเริ่มมีอาการกระสับกระส่ายตัวร้อนและหนาว และประมาณ 02.00 น.ก็มีเลือดออกมาอีก ตนเรียกพยาบาลให้มาดู เขาเอาผ้าอนามัยมาใส่ให้ และพอผ่านไปอีกวัน เข้าวันที่สองเขาก็มาฉีดยาให้เหมือนเดิมอีกหนึ่งเข็ม และอาการก็เป็นเหมือนเดิม และมีก้อนเลือดออกมา ตนก็ได้มีการโทรหาแฟน บอกว่าก็เลือดออกมาแล้วนะ ตนก็โล่งแล้ว แต่ก็ยังมีไข้อยู่ แต่ก็กินยา 


หลังจากวันนั้นตนก็มีการนอนพัก อีก 2 วัน จนครบ 4 วัน หมอก็มีการมาตรวจและถามอาการว่าดีขึ้นหรือไม่ ตนก็บอกว่าดีขึ้นแล้ว แต่จะทำอะไรแรงไม่ได้ หมอก็เลยอนุญาตให้กลับบ้านได้ และอีกวันก็นัดมาฉีดยาตัวนี้อีกหนึ่งเข็ม ตนก็ฉีดปกติ และเขามีบอกว่าให้นั่งพักก่อนครึ่งชั่วโมง ตนก็นั่งอยู่ปกติกับแฟน แต่เหมือนได้ยินพยาบาลในห้องพูดว่าฉีดยาตัวนี้เลยเหรอ ตนก็งงว่ายาตัวนี้มันคือยาอะไร ทำไมต้องตกใจ 


พอตนกลับมาบ้านช่วงประมาณสามทุ่ม ตนก็มีอาการไข้ขึ้นและหนาวสั่น หลังจากนั้นก็เช็ดตัว และตนก็เริ่มอ้วก จึงอดทนมาถึงเช้าและโทรบอกโรงพยาบาลว่าตนมีอาการแบบนี้ ทางโรงพยาบาลจึงบอกว่าให้รีบกลับไปที่โรงพยาบาล เพราะเดี๋ยวน้ำตาลในเลือดต่ำ เดี๋ยวเกิดอาการช็อก ตนจึงรีบกลับไปแอดมิดที่โรงพยาบาล แล้วเขาก็มีการเข้ามาตรวจเหมือนเดิม มีการอัลตร้าซาวด์ปกติ และตนก็ได้งดน้ำงดอดอาหารอีกหนึ่งวัน และมีการฉีดยาฆ่าเชื้อให้ 


พอนอนโรงพยาบาลต่อได้อีก 3 วัน ตนมีอาการตุ่มขึ้นและมีน้ำหนอง และอาการอ้วกก็เริ่มมา ตนก็รู้ได้ทันทีว่าตนแพ้ จึงบอกพยาบาล พยาบาลจึงบอกว่าให้รอพบหมอและบอกหมออีกครั้ง พอหมอเข้ามาตรวจจึงบอกอาการนี้กับหมอ เพราะตนเริ่มอ้วกและไอออกมาเป็นเลือด แต่เขาบอกกับตนว่าตนเจ็บคอให้หาของเย็นกิน แต่เขาก็พูดดี ตนก็ตอบไปว่าค่ะ 


ตนจึงให้แฟนไปซื้อไอติมมา แต่ตนกินหมดเลยไม่ได้ เพราะปากและหน้าตนบวม จมูกก็เริ่มมีเลือดออก หมอก็เลยมีการให้หยุดยาฆ่าเชื้อ 2 ตัวนี้ และมาให้ยาอีกตัวหนึ่ง เพื่อล้างสารยาพวกนี้ออกให้หมด จนพวกอาการแพ้ตนเริ่มดีขึ้น แต่จะมีอาการปวดแสบปวดร้อนมาแทน จนตนไม่ไหวจึงต้องโทรตามญาติ คือร่างกายตนไม่ไหวแล้วกับทางโรงพยาบาลตนก็ถามทุกวัน ว่าตนเป็นอะไร ทำไมถึงเป็นแบบนี้ เขาก็บอกว่าตนแพ้ยา และญาติพี่น้องก็มาถามอีกว่าตนแพ้ยาอะไร เขาบอกว่าเขาหาสาเหตุไม่ได้ 


แล้วเขาเอาเลือดของตนไปวิจัย แล้วพอญาติพี่น้องไปถามอีกเขาก็บอกว่าตนติดเชื้อบ้าง เป็นอีสุกอีใสบ้าง ตนมีการเถียงกันกับหมอว่าอีสุกอีใสตนเป็นแล้ว เพราะมันเป็นได้แค่ครั้งเดียว ญาติก็ยืนยันให้ว่าตนเป็นแล้ว แล้วเขาก็เอาหนองไปวิจัย จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้คำตอบเลยว่าตนเป็นอะไร 


ตนยืนยันว่าก่อนหน้านี้ตนไม่ได้เป็นอะไร ตนแข็งแรงดี แค่มีเรื่องท้องนอกมดลูกอย่างเดียว ก่อนออกจากโรงพยาบาล ตนมีการพูดคุยและสอบถามกับหมอว่าเรื่องผมของตนที่มันร่วงไปกับผิวหนังของตนจะทำอย่างไร เพราะตนทำงานบริการ เขาก็บอกว่า ตนเหมือนได้รับยาคีโม ตนจึงถามว่ายาคีโมแบบไหน เขาจึงบอกว่ามันไปทำการฆ่าเม็ดเลือดขาว จนผมตนร่วงหมด เหมือนทำนองว่าต้องรักษาประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี


ตนอยากถามโรงพยาบาลว่าตนจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมเมื่อไหร่ พอตนไปตรวจเรื่องผม เขาก็บอกว่า มันไม่มียารักษา เป็นโรงพยาบาลมีประกันสังคมทำไมถึงไม่มียารักษา ตนต้องหยุดงาน ภาระตนก็มี แล้วตนนอนโรงพยาบาลอยู่ 1 เดือน ตนก็ไม่ได้อะไร แฟนก็เที่ยวไปหาทุกวัน พอวันที่ตนได้กลับบ้าน ตนก็ดีใจ แต่ตนก็ทำอะไรไม่ได้ ทำอะไรก็เขียวไปหมดทั้งตัว ขาก็ชาตามตัวก็ชา พอสภาพเป็นแบบนี้ ตนก็ไม่รู้ว่าจะหาอะไรมารักษา


ตอนแรกตนก็คิดว่า ที่ผมตนร่วงเพราะตนไม่ได้สระผม แต่เวลาเพียงแค่ 4 วัน ผมตนร่วงหมดเลย ทั้งหัว และตนก็ไม่ได้คิดว่าจะถ่ายรูปเก็บไว้ ในตอนนั้น


นางสาวแนน ยังเปิดความในใจอีกว่า ขณะนอนรักษาตัวที่รพ.กลับพบว่าถูกพยาบาลพูดคุยถึงอาการของตนเอง จนกลายเป็นตัวตลกในสายตาของพยาบาล ซึ่งทำให้เธอช้ำใจและเครียดกับเรื่องดังกล่าว


ขณะที่มารดาของน้องแนน ได้ยืนยันว่าตัวน้องเป็นคนแข็งแรง พวกตนได้มีการไปร้องกับหน่วยงานสาธารณสุข และสคบ. แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแล ทางโรงพยาบาลก็ไม่มี เคยไปรพ.ให้แค่ยาวิตามินมา แล้วมีการนัดอีกหนึ่งเดือน ถึงจะมีการให้ไปเจออีกครั้ง ตอนนี้มีการไปแจ้งความแล้ว ตัวตนเองสงสารลูก ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาเป็นปกติอีกเมื่อไหร่ ร่างกายเขาก็ไม่เหมือนเดิม เราไม่รู้ว่าวันข้างหน้าเขาจะเป็นแบบไหน มันจะมีอะไรตามมาอีกหรือไม่ 


วันแรกที่ไปเจอลูกที่โรงพยาบาล สภาพลูกดูแย่มาก ตนก็มีการไปถามหมอ ว่าทำไมคนไข้อาการทรุดลงขนาดนี้ หมอก็บอกว่า น้องน่าจะเป็นไข้มาจากบ้าน เป็นอีสุกอีใส ตนก็ถามว่าแน่ใจนะว่าน้องเป็นอีสุกอีใส เพราะน้องเคยเป็นอีสุกอีใสมาแล้ว พอไปถามอีกครั้ง เขาบอกว่าแพ้ยา เขาก็บอกว่ารักษาไปตามขั้นตอนที่หมอบอก เขาพูดแค่นั้น

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง