ป้า-หลานช้ำ สูญเกือบ 4 ล้าน เจอมิจฯ แบบเดียวกับ “ชาร์ลอต”

ป้า-หลานช้ำ สูญเกือบ 4 ล้าน เจอมิจฯ แบบเดียวกับ “ชาร์ลอต”

30912 ธ.ค. 67 16:32   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ป้า-หลานสุดช้ำเจอมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจดีเอสไอ วีดิโอคอลล์หลอกแบบเดียวกับที่ “ชาร์ลอต” เจอ สูญเงินเก็บทั้งชีวิตเกือบ 4 ล้านบาท

(12 ธ.ค. 67) ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านที่อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานีถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกแค่ครึ่งวันสูญเงินเกือบ 4 ล้านบาท ทั้งป้าและหลานชายทุกข์ใจหนักมาก เพราะเป็นเงินจากการทำงานเก็บมาทั้งชีวิตของครอบครัว


ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนางอภัย อายุ 56 ปี ชาวบ้านบ้านกุดค้า หมู่ 10 ต.ทุ่งฝน อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี และนายรพีภัทร อายุ 17 ปี หรือน้องน้ำ หลานชายนางอภัย นำเอกสารใบแจ้งความกับตร.สภ.ทุ่งฝนและเอกสารการโอนเงินไปยังบัญชีม้าของแก๊งคอลเซ็นเตอร์จำนวน 4 บัญชี คือบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี นายอภิชาติ สิทธิญาณ, ธนาคารกรุงศรี ชื่อบัญชี น.ส.น้ำฝน  คำฝอย, ธนาคารกรุงเทพฯ ชื่อบัญชี นายภีมากร รสสุคนธ์สกุล, และธนาคารอาคารสงเคราะห์ ชื่อบัญชี Kusuma changot โดยโอนไปทั้งหมด 12 ครั้ง ครั้งละ 49,9900 บาท, ครั้งละแสน, ครั้งละล้านบาทเศษก็มี รวมโอนเงินไปทั้งหมด 12 ครั้ง สูญเงินให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จำนวน 3,412,642 บาท


นางอภัย บอกว่า ตนเองกับสามีเก็บเงินมาทั้งชีวิต เงินที่สูญไปเป็นเงินเก็บที่สามีไปทำงานเมืองนอกมากว่า 18 ปีและเงินที่ตนเองไปทำงานที่ จ.ระยอง เก็บหอบรอมริบมาเรื่อยๆ จุดเริ่มต้นคือเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรเข้าเบอร์หลานชายอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ บอกว่า หลานชายไปเกี่ยวข้องกับคดีอะไรสักอย่าง จะมีการจับกุม ให้โอนเงินไปตรวจสอบ


โดยตอนแรกหลานชายก็ตกใจนึกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฯ จริง เขารู้ชื่อ รู้หมายเลขบัตรประชาชนหมด ตอนแรกยังไม่บอกย่า หลานก็แอบโอนเงินจากย่าไปให้เขา โอนไปครั้งแรก 49,999 บาท และโอนต่อไปเรื่อยๆ ล้านกว่าบาท ทีนี้หลานก็มาบอกย่าว่า ย่าๆ มีเจ้าหน้าที่ฯ โทรมาบอกว่ามีคดี ตนก็เลยเชื่อไปกับหลาน ไม่อยากให้หลานเจอคดี มีเงินฝากประจำอยู่อีก 2 ล้านบาทก็พาหลานชายไปเบิกในวันนั้น เวลาหกโมงเย็น 


พอได้เงินออกมาแล้วเอาเข้าบัญชีหลานชายโอนไปให้เขาอีก ยังไม่พอพวกนี้ยังโทรมาบอกว่ามีบ้านมีรถหรือมีทรัพย์สินอีกไหม ให้เอาไปจำนำจำนองได้เงินสดโอนมาตรวจสอบอีก แต่ทีนี้หลานชายคิดว่าถูกหลอกแน่ จึงไม่ทำตามเขา และหลานชายโทรไปก็ไม่รับสายอีกเลย อยากจะวิงวอนและขอความเมตตาจากเจ้าหน้าที่ฯ ติดตามจับกุมให้ด้วย ป้าอยากได้เงินคืนแม้ความหวังจะริบหรี่ ป้าและหลานยกมือไหว้แถมน้ำตาคลอ


นายน้ำ บอกว่า  เริ่มต้นมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาที่เบอร์ของตนเอง เมื่อประมาณ 10 โมงเช้าวันที่ 9 ธ.ค.67 เป็นผู้หญิง อ้างว่าชื่อ ร.ต.อ.ประภัสสร อ้างเป็น DSI จากนั้นให้แอดไลน์ เป็นภาพตำรวจจริงๆ เขาก็ถามว่า นายรพีภัทร์ใช่ไหม ตอนแรกตนก็ไม่เชื่อ เขาบอกว่าไปเกี่ยวข้องกับคดีเกี่ยวข้องนายศรัทธา ต้องมีการดำเนินคดี ตอนนี้อายัดบัญชีไว้แล้ว ปลายสายเขาก็บอกว่าถ้าไม่เชื่อลงเข้าแอพธนาคารดู ปรากฏว่าแอพธนาคารก็เข้าไม่ได้จริงๆ


จากนั้นเขาก็โอนสายไปให้กับ ร.ต.อ.บุญมี อ้างว่าอยู่ สภ.เมืองนครราชสีมา  เขาก็โชว์เอกสาร และส่งมาให้ดูด้วย เป็นคำสั่งลับทางราชการลับพิเศษของตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโยลีและหนังสืออายัดบัญชี  ห้ามแพร่งพรายข้อมุลนี้ให้กับใคร แม้แต่ ตร.ในพื้นที่ พร้อมกับแจ้งว่าตนเองมีคดีเกี่ยวกับกับนายศรัทธา หากไม่อยากถูกดำเนินคดีต้องโอนเงินไปตรวจสอบ หากไม่ดำเนินการจะมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ถึงขั้นนั้นแล้วช่วยไม่ได้


ด้วยความตกใจเพราะเขารู้ชื่อ ถามบัตรประชาชนก็บอกหมายเลขถูก แอพธนาคารก็เข้าไม่ได้ ตนเองจึงเอาแอพธนาคารของย่าโอนเงินเข้าบัญชีตัวเองเพื่อโอนไปให้เขา ช่วงที่คุยกับเขาเขาไม่ยอมวางสายเลยตั้งแต่สิบโมงเช้าถึงหกโมงเย็น  โอนไปทั้งหมด 12 ครั้ง 4 บัญชี  รวมเป็นเงิน 3,412,642 บาท และจากการที่คุยกับเขา เขาบอกว่าเกี่ยวข้องคดีกับนายศรัทธา และเมื่อดูข่าวลักษณะเดียวกันกับพี่ชาร์ลอต ออสตินที่สูญเงิน 4 ล้านบาท ลักษณะตรงกันแบบนั้นเลย



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง