หนุ่มใหญ่จิตป่วนแทงคนดับ อ้างโดนติดตาม GPS

(7 ก.ย. 67) ช่วงสายวันนี้ ตำรวจ สน.ห้วยขวาง รับแจ้งเหตุ ชายถูกแทงเสียชีวิต ที่ ซ.ประชาสงเคราะห์ 39 แขวง และ เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร จึงรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

จุดเกิดเหตุอยู่ชั้น 2 ของ แฟลตพักอาศัย พบร่างของนายนาวิน อายุ 25 ปี นอนเสียชีวิตจมกองเลือด มีรายงานแจ้งว่าผู้ตายมีปากเสียงกับ นายน้อย อายุ 42 ปี ผู้พักอาศัยในตึกเดียวกัน โดยนายน้อยเป็นชายสติไม่ดีและพบว่ามีประวัติการเสพยามาก่อน ได้ลงมือใช้มือทำครัวความยาวประมาณ 24 นิ้ว เเทงนาย นาวิน และหลบหนีไป

นางเอ(นามสมมติ)  แม่ของนายน้อยเปิดเผยว่า ลูกเคยรักษาตัวที่ รพ.สมเด็จเจ้าพระยา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านจิตเวช หลายครั้งเกี่ยวกับเรื่องอาการป่วยทางประสาท อีกทั้งลูกเคยเสพยาเสพติดมาก่อน แต่ตนคิดว่าที่ลูกเป็นเช่นนี้เพราะเล่นของ บวกกับในช่วงที่บวชอยู่ก็ไม่ได้ลาสิกขาบทตามขั้นตอน อาจจะทำให้ของเข้าตัว จึงทำให้สติไม่ดี

ต่อมาเจ้าหน้าที่ติดตามควบคุมตัวนายน้อยได้ที่ซอยประชาสงเคราะห์ 47 ก่อนควบคุมตัวไปที่ สน.ห้วยขวาง ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าทำไมถึงลงมือเเทงนาย นาวิน  นายน้อยกล่าวว่า ผู้ตายได้ใช้ไม้เบสบอลตีที่ประตูหน้าห้องของตนหลายรอบแล้ว จึงได้มีการออกไปทะเลาะวิวาทและต่อสู้กัน  จึงใช้มีดเเทงไป 2-3 ครั้ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.ห้วยขวาง และสืบหาพยานหลักฐานต่อไป

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายน้อยสอบปากคำนานกว่า 4 ชั่วโมง จึงได้นำตัวไปยังห้องคุมขัง สน.ห้วยขวาง ทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับนายน้อยอีกครั้ง นายน้อยอ้างว่าตนไม่รู้จักกับผู้ตาย และบอกด้วยว่าตนเป็นทหารมาจากสหรัฐอเมริกา ประจำกองร้อยชาลี และเคยเป็นนักเรียนนายร้อยในประเทศไทย ก่อนจะถูกส่งไปร่วมรบที่อ่าวเปอร์เซีย

นอกจากนี้เขายังเล่าด้วยว่า ตนได้พบกับผู้ตายในสงครามซูดานที่ผ่านมา โดยผู้ตายได้ติดตามเขาผ่านสัญญาณ GPS ซึ่งผู้ตายเป็นนักโทษในเรือนจำ นายน้อยยังอ้างอีกว่า ตนมียศ “พลเอกยัดตั๊ม ยัดซูเมอร์” และเป็นทหารมาหลายปีแล้ว

ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าในการสอบปากคำผู้ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกวน โดยนายน้อยอ้างว่าตนเป็นทหารจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งตำรวจสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากปัญหาทางจิต จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายน้อยเคยเข้ารับการรักษาอาการทางจิตที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และเตรียมนำตัวผู้ก่อเหตุไปตรวจสุขภาพจิตอีกครั้ง ก่อนจะส่งตัวดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป