เจ้าของแมวร้องถูกเพื่อนบ้านวางยาเบื่อ หักคอแมวตาย 2 ตัว

จากกรณีผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากเจ้าของแมวที่ตนเองได้เลี้ยงเอาไว้ว่า ลูกแมวของตนเอง 2 ตัว ได้ถูกหญิงวัยกลางคนซึ่งเป็นเพื่อนบ้านอาศัยอยู่ติดกัน ได้แอบมาวางยาเบื่อและหักคอจนเสียชีวิตหลังกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ แต่ทางเพื่อนบ้านปฎิเสธและไม่ยอมรับสารภาพว่า ตนเองไม่ได้เป็นคนฆ่าแมวแค่นำแมวไปปล่อยหลังบ้านเท่านั้น เป็นสาเหตุได้ร้องทุกข์สื่อเข้ามาเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับแมวของตนเอง

(28 มี.ค.67) นายอ็อด อายุ 49 ปี เจ้าของแมว เล่าว่า หลังเกิดเหตุจึงได้สอบถามเพื่อนบ้านสาเหตุที่ลงมือฆ่าแมวของตนเอง แต่เพื่อนบ้านกลับปฎิเสธว่าไม่ได้เป็นคนลงมือฆ่าแมว ตรวจสอบพบว่าบ้านเลขที่ 25 เป็นบ้านของหญิงวัยกลางคนที่เป็นผู้ก่อเหตุหักคอแมวนั้น ประตูหน้าบ้านปิดสนิทไม่มีใครอยู่บ้าน จากนั้นนายอ็อดได้มอบหลักฐานเป็นภาพแมวและคลิปกล้องวงจรปิด ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะพูดคุยสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น 

ล่าสุดนางสาวศิรพันธ์ งามพร้อมวงษ์ ประธานมูลนิธิบ้านหมายิ้ม ตัวแทนกลุ่มวอชด็อกไทยแลนด์สงขลา หลังทราบเรื่องจึงได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อเข้าแจ้งความเอาผิดหญิงวัยกลางคนที่ก่อเหตุหักคอลูกแมวจนเสียชีวิตและยังไม่เจอซากของลูกแมว 

โดยทาง พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สมเกียรติ์ คำสุวรรณ สว.(สอบสวน) สภ.หาดใหญ่ รับเรื่องดังกล่าวซึ่งผู้ก่อเหตุจะมีความผิดตาม พรบ.คุ้มครองสัตว์ มาตรา 20,31 ในข้อหาห้ามมิให้ผู้ใดกระทําการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร (ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี หรือ ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ) พร้อมเชิญนายอ็อดเจ้าของแมวสอบปากคำเหตุการณ์ดังกล่าว

โดยทาง นางสาวศิรพันธ์ งามพร้อมวงษ์ ประธานมูลนิธิบ้านหมายิ้ม และตัวแทนกลุ่มวอชด็อกไทยแลนด์สงขลา เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้คลิปเราก็นั่งดูคลิป ภาพมันก็ค่อนข้างชัดเจนที่มีการบีบคอเข้าข่ายการทารุณกรรมสัตว์ ตามมาตราที่ 20 วันนี้เราจึงเดินทางมาเผื่อดำเนินคดี เพราะเหตุการณ์แบบนี้มันเป็นภาพที่หดหู่ ที่ต้องดำเนินคดีเผื่อเอาเป็นเยี่ยงอย่างว่าในอนาคตมันจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เราก็ไม่ได้สนับที่จะให้เป็นแบบนี้ ก็เลยมาแจ้งความเผื่อจะดำเนินคดี ตอนเห็นคลิปเราก็รู้สึกหดหู่มาก และทำไมถึงได้ใจร้ายแบบนี้ เนื่องจากลูกแมวในคลิปก็เป็นลูกแมงที่ตัวเล็กมาก เป็นอะไรที่คนรักสัตว์ใจสลายอยู่แล้ว 

ทางเราจะลงพื้นที่ไปพูดคุยสอบถามสาเหตุ แล้วจะดูว่าผู้กระทำผิดจะตอบเรายังไง คือจังหวะในคลิปที่เราเห็น เราก็เห็นว่ามีการบีบคอ เรื่องหักมันก็เป็นไปได้ตรงนี้เราก็ต้องให้ความยุติธรรมเขานิดนึง ให้เล่าว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องแมว แล้วตอนนี้แมวตัวนั้นอยู่ตรงไหน เพราะหายไปตั้งแต่วันเกิดเหตุ รวมก็ 5 วันแล้ว

ต่อมา นางสาวศิรพันธ์ พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุที่บ้านเลขที่ 25 ภายในซอยแก้วสนิท ชุมชนบ้านทุ่งเสา ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวอยู่ติดกันกับบ้านเจ้าของแมว เบื้องต้นพบว่าบ้านหลังผู้ก่อเหตุล็อคกุญแจปิดประตูบ้านสนิทไม่มีใครอยู่บ้าน ทราบชื่อเล่นผู้ก่อเหตุชื่อ นางสาวจอย อายุประมาณ 45-50 ปี 

จากนั้นนางสาวศิรพันธ์ ได้เดินดูรอบๆบ้านและหลังบ้านที่ทางผู้ก่อเหตุได้อ้างกับเจ้าของแมวว่าได้นำลูกแมวไปทิ้งหลังบ้าน ระหว่างเดินสำรวจหลังบ้านพบว่าด้านหลังบ้านเป็นพื้นที่หน้าบ้านร้างไม่ได้เป็นป่าหญ้ารกทึบตามที่คาดการณ์ไว้ หากลูกแมวจะวิ่งออกไปอีกทางนั้น คงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากมีสุนัขจำนวนหลายตัวนอนเฝ้าทางออกอีกทางอยู่ ซึ่งปกติวิสัยของลูกแมวจะร้องหาแม่แมวจนกว่าแม่แมวจะมา หรือ ร้องหาเจ้าของแมว จะร้องจนกว่าคนในบ้านจะเปิดประตูและไม่มีทางที่ลูกแมวจะเดินไปที่อื่นแน่นอนโดยเฉพาะลูกแมวที่ยังกินนมแม่มันอยู่ 

ส่วนทาง พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ เปิดเผยว่า หลังทางนางสาวศิรพันธ์ เข้าแจ้งความเอาผิดผู้ก่อเหตุและสอบปากคำเจ้าของแมว เบื้องต้นได้สั่งการให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินการออกหมายเรียกก่อน 2 ครั้ง และหากไม่มาก็จะดำเนินการออกหมายจับทันทีและตอนนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนหาชื่อนามสกุลจริงตัวผู้ก่อเหตุเพื่อที่จะตามตัวมาสอบปากคำได้ง่าย แต่ขณะนี้ทราบว่าทางผู้ก่อเหตุไม่อยู่บ้านมาหลายวันแล้วตั้งแต่ช่วงหลังเกิดเหตุ ก็ได้สั่งให้ชุดสืบสวนเฝ้าอยู่พื้นที่รอบๆบ้านของผู้ก่อเหตุ เพื่อจะนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย 

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นรู้สึกสะเทือนใจโดยเฉพาะกลุ่มคนที่รักแมวและสุนัขพยายามเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีแบบเด็ดขาด แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องให้ความเป็นธรรมตัวผู้ก่อเหตุด้วย แต่ถึงอย่างไรต้องรอสอบปากคำผู้ก่อเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งนึง 

นอกจากนี้ มีรายงานว่าช่วงกลางดึกที่ผ่านมานางสาวจอยผู้ก่อเหตุหักคอลูกแมว ได้กลับมาที่บ้านพร้อมกับใส่ชุดขาวเดินมาขอโทษเจ้าของแมว แต่ทางเจ้าของแมวไม่รับคำขอโทษและให้ไปพูดกับเจ้าหน้าที่ว่าสาเหตุเพราะอะไรถึงทำร้ายลูกแมวได้ลงคอและถามหาลูกแมวว่าได้เอาไปไหน แต่ทางนางสาวจอยกลับนั่งเงียบไม่ยอมตอบคำถามอะไร ตอบแค่เพียงว่า ตนเองได้เอาลูกแมวไปทิ้งหลังบ้าน