ล้อมจับช้างป่าเขาอ่างฤาไน ยังไม่ใช่ “ไอ้งาเดียว” ตัวร้าย

(3 ม.ค. 68) ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี รายงานว่าสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ปราจีนบุรี ร่วมกับสำนักบริหารพื้นที่ที่ 2 (ศรีราชา) นำกำลังให้เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ เลขชุดจิตอาสาเฝ้าระวังช่างป่า อบต. เขาไม้แก้ว 100 นาย จับขนย้ายเจ้างาเดียวช้างป่าจากเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเขาอ่างฤาไน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ที่ออกมาหากินอยู่ในพื้นที่ ต.วังท่าช้างและ ต.เขาไม้แก้วตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา

และคาดว่าน่าจะเป็นช้างป่าที่ทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิตเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2567 ในไร่อ้อย ซึ่งช้างตัวนี้มีพฤติกรรมดุร้ายไม่กลัวคน และออกหากินทั้งกลางวันและกลางคืน สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก เร่งจับขนย้ายช้างป่าตัวนี้ออกจากนอกพื้นที่โดยเร็ว เกรงว่าจะทำร้ายชาวบ้านได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตอีก

ในการจับขนย้ายช้างป่าในครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ชุดยิงยาสลบ 2 ทีม หากพบตัวช้างจะทำการยิงยาซึม และใช้เจ้าหน้าที่ 4 ทีม ทีมละ 20 นาย ใช้เชือกคล้องขาทั้ง 4 ข้าง ผลักดันรถบรรทุกของกรมอุทยานฯ

นายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผอ.สบ. 2 (ศรีราชา)กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังมาเพื่อจับขนย้ายช้างป่าจากเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเขาอ่างฤาไนออกจากพื้นที่การเกษตรของประชาชน 3 ภารกิจ คือจับขนย้ายช้างป่าตัวนี้ซึ่งไม่ยอมเข้ากลุ่มจะหากินในไร่อ้อยของชาวบ้าน, ผลักดันช้างป่าที่มาอาศัยอยู่ในป่าสะเดาออกจากพื้นที่ให้หมด, และเฝ้าดูช่องทางออกของช้างที่อยู่ในเขตรั้วไม่ให้ออกมาด้านนอกอีก ซึ่งหากปล่อยไว้อาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนต่อไป

ในวันนี้หากจับขนย้ายช้างป่าได้จะนำไปปล่อยในพื้นที่ชั้นในของเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเขาอ่างฤาไน โดยจะทำคอกกักขังไว้ เพื่อไม่ให้ช้างป่าที่มีนิสัยดุร้ายออกมาด้านนอกได้อีก

หลังจากเริ่มปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ทั้งหมดทยอยกันไปตามจุดต่างๆ ที่ได้รับมอบหมาย และเริ่มออกค้นหา เป่าหมายคือช้าง 2 ตัวคือ ไอ้งาเดียวและไอ้งาคู่ ที่ค่อนข้างที่จะดุร้าย โดยเฉพาะไอ้งาเดียว ที่เคยกระทืบชาวบ้านที่ออกไปรับจ้างกรีดยางเสียชีวิตมาแล้ว

จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น.ทีมบินโดรนบินสักพักก็เห็นช้างตัวหนึ่งเดินอยู่ในไร่อ้อย จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่อีกหลายชุดที่ออกค้นหา จนกระทั้งสามารถยิงสยาซึมได้เข็มที่1 แต่ว่าช้างที่ถูกยิงไม่ไม่สิ้นฤทธิยังคงเดินไปมาอยู่ในไร่อ้อย พร้อมกับชุดที่ไล่ต้องใช้รถไถนาขับตามไปจนกระทั้งยิงยาซึมอีก 1 ครั้ง

จนกระทั่งใกล้รุ่งช้างตัวดังกล่าวได้ยืนสงบนิ่งอยู่ในไร่อ้อย แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังคงไม่ประมาท เห็นช้างยืนแต่ยังมีปฎิกิริยาอาจจะทำร้ายจึงได้ยิงยาซึมอีกเข็ม รวมแล้วทั้งหมด 5 เข็ม ช้างจึงสงบลง ตรวจสอบพบว่าไม่ใช่ไอ้งาเดียว แต่เป็นไอ้งาคู่

การปฏิบัติการครั้งนี้มี นาวาอากาศตรีอรรถพล เจริญชัญชัยสา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว๋ป่าและพันธุ์พืชเดินทางมาสังเกตการณ์ทำงานของเจ้าหน้าที่ในการจับขนย้ายช้างออกจากพื้นที่