สาวขาขาดร้องประกันเบี้ยวจ่าย อ้างทำกับเจ้าอื่นแล้วไม่ยอมบอก

สาวขาขาดร้องประกันเบี้ยวจ่าย อ้างทำกับเจ้าอื่นแล้วไม่ยอมบอก

185005 ก.ค. 67 17:52   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

สาวร้องเจออุบัติเหตุเลื่อยไฟฟ้าสะบัดใส่ขา หมอตัดสินใจตัดทั้ง 2 ข้างเพราะรักษาไม่ได้ กลายเป็นคนพิการแล้วยังโดนบริษัทประกันปฏิเสธไม่จ่ายเงิน อ้างผู้เสียหายทำประกันไว้หลายเจ้าแต่ไม่ยอมบอก

(5 ก.ค. 67) ที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายประดิษฐ์ อายุ 33 ปี พร้อม น.ส.โชติกา อายุ 30 ปี ภรรยาสาวซึ่งพิการขาขาดทั้ง 2 ข้าง เดินทางมาจากจังหวัดอุดรธานี นำเอกสารหลักฐานต่างๆ เข้าร้องเรียนกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิ, ว่าที่ ร.ต.รภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธาน, และนายชาญชัย ฉายบุ ที่ปรึกษามูลนิธิ เพื่อขอให้ช่วยเหลือครอบครัว


โดย น.ส.โชติกาประสบอุบัติเหตุขาทั้ง 2 ข้างถูกเลื่อยไฟฟ้าแฉลบใส่ แพทย์ตัดสินใจตัดขาทั้งสองข้างออกจนกลายเป็นคนพิการ แต่พอแจ้ง บ.ประกันภัย เพื่อขอเคลมประกันที่ทำไว้ กลับถูกปฏิเสธ โดยอ้างว่าผู้เสียหาย ทำประกันภัยไว้หลายบริษัท จงใจปกปิดข้อมูล จึงต้องนำเรื่องมาร้องเรียนเพื่อขอให้ทางมูลนิธิช่วยเหลือด้วย



น.ส.โชติกา เล่าด้วยเสียงเศร้าว่า ปัจจุบันตนอยู่กินกับสามีมานาน มีลูกสาว 2 คน อายุ 5 ขวบและ 3 ขวบ ตนกับสามีประกอบอาชีพค้าขาย ที่บ้านตนเองในจังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา ตนกับน้องชายตัดต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ข้างรั้วบ้านโดยใช้เลื่อยไฟฟ้า ระหว่างที่กำลังตัดต้นไม้อยู่จนต้นไม้ใกล้จะขาดตอนนั้นตนจึงเอามือเพื่อที่จะผลักต้นไม้ให้ล้มลงไปด้านข้างซึ่งเป็นทุ่งนา เลื่อยไฟฟ้าที่น้องชายถืออยู่สะบัดมาโดนขา 2 ข้างของตนเองจนลึกเห็นกระดูก สามีรีบนำตัวตนเองส่งโรงพยาบาลกุดจับ ก่อนถูกส่งต่อที่โรงพยาบาลกรุงเทพในตัวจังหวัดอุดรธานี แพทย์ต้องทำการตัดขาทั้งสองข้างออกเนื่องจากไม่สามารถทำการรักษาได้ ทำให้ตนกลายเป็นคนพิการทันที


ต่อมาตนได้ทำเรื่องและติดต่อไปที่บริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่ง ซึ่งตนได้ทำอุบัติเหตุ PA ไว้ วงเงิน 10 ล้านบาท นอกจากนี้ตนเองยังมีกรมธรรม์อีก 5 เล่มที่ทำไว้กับอีกหลายบริษัท รวมแล้ว 6 เล่ม วงเงิน 29 ล้านบาท ปรากฏว่าทางบริษัทประกันชีวิต  ซึ่งเป็นบริษัทแรกที่ตนติดต่อไปได้ปฏิเสธการจ่ายเงินที่ตนทำไว้และอ้างว่าตนเองมีกรมธรรม์หลายเล่ม ถือเป็นการปกปิดข้อมูลจึงไม่อยู่ในเงื่อนไขที่จะรับผิดชอบ 



การปฏิเสธดังกล่าวทำให้ตนเองรู้สึกเสียใจ ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ตนทำประกันสุขภาพ เนื่องจากมีโรคกระเพาะเลยใช้สิทธิ์เบิกค่ารักษาพยาบาลบ่อย จึงไม่สามารถทำประกันสุขภาพได้อีกเลยเปลี่ยนมาทำเป็นแบบประกันชีวิตและทุพพลภาพ หากประสบอุบัติเหตุตายหรือพิการครอบครัวจะได้ไม่ลำบาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาถูกบริษัทปฏิเสธเช่นนี้


ส่วนข้อกังขาที่สังคมมี ที่กล่าวหาว่าตนตัดขาตัวเองเพื่อเอาเงินประกันนั้น ตนต้องกลายมาเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต น้องชายก็ต้องมาเสี่ยงติดคุกเพราะถูกตำรวจดำเนินคดีข้อหาประมาททำให้ตนได้รับบาดเจ็บสาหัส คงไม่มีใครทำเรื่องแบบนี้ไปเพื่อหวังเงินประกันหรอก


ลูกสาวตนเองก็ถามทุกวันว่าขาแม่หายไปไหน ทุกวันนี้เวลาไปไหนกับสามี ก็มีแต่คนมอง ตนอยากขอความเห็นใจจากสังคมและบริษัทประกันภัยให้เข้าใจถึงความสูญเสียที่ตนกับครอบครัวได้รับในครั้งนี้ด้วย 


ทางด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า หลังทราบเรื่องตนได้มอบหมายให้นายชาญชัย ที่ปรึกษามูลนิธิ นำผู้เสียหายขึ้นรถเดินทางไปที่สำนักงานคณะกรรมการและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สำนักงานใหญ่ กรุงเทพ เพื่อให้เรียกคู่กรณีทางบริษัทประกันภัยมาเจรจรเจรจาไกล่เกลี่ย ในเรื่องที่เกิดขึ้น หากไม่มีการรับผิดชอบหรือชดใช้ ตนจะพาผู้เสียหายไปร้องสำนักงานอัยการสูงสุด ทันที



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง