ผัวทาสยาอ้างเมียกับพ่อเลี้ยงมีอะไรกัน อาละวาดขู่ฆ่า-ขว้างขวดใส่ ลูกเมียอยู่บ้านไม่ได้ หนีตายหัวซุน
ผัวทาสยาอ้างเมียกับพ่อเลี้ยงมีอะไรกัน อาละวาดขู่ฆ่า-ขว้างขวดใส่ ลูกเมียอยู่บ้านไม่ได้ หนีตายหัวซุน

ผัวทาสยาอ้างเมียกับพ่อเลี้ยงมีอะไรกัน อาละวาดขู่ฆ่า-ขว้างขวดใส่ ลูกเมียอยู่บ้านไม่ได้ หนีตายหัวซุน เมียเผยต้องการหย่าผัวทาสยา เคยพาเข้าป่าลึกอ้างตนมีความสัมพันธ์กับพ่อเลี้ยง ลูกทั้ง 2 คนไม่ใช่ลูกของเขา หวั่นความปลอดภัย
(9 มี.ค.68) จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ มาที่หลัง อย่าหวังที่หนึ่ง ได้โพสต์คลิปขอความช่วยเหลือในกลุ่ม หนองแคมีดี (รักษ์หนองแค) โดยมีข้อความว่า “ขอความช่วยเหลือค่ะ ตัดสินใจเลิกกับสามี เพราะสามีกล่าวหาเราเสียหาย และทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ด้วยเรื่องคิดว่าเรามีอะไรกับพ่อเลี้ยงค่ะและติดยานรกค่ะ หลังจากนั้นก็พยายามดักรอหลังเราเลิกงานเพื่อจะทำร้ายบ้าง และแทบทุกวันจะเอาขวดแก้วมาป่าที่บ้านตามในคลิป เป็นเวลา 3-4 เดือนแล้ว แจ้งตำรวจถี่มาก แต่ก็ยังจับไม่ได้ค่ะ ต้องการความช่วยเรื่องฟ้องหย่า ห่วงเรื่องความปลอดภัย และทำลายทรัพย์สินเสียหายรวมถึงรถยนต์ที่ขับอยู่เป็นชื่อของเราค่ะ” โดยมีการแชร์ในกลุ่มโซเซียล และเพจต่างๆเป็นจำนวนมาก พร้อมคอมเมนต์ แสดงความเห็นใจกันเป็นจำนวนมาก
ซึ่งในคลิปจะเห็นได้ว่านายแสบ(ผู้ก่อเหตุ) ขับรถกระบะเข้ามาจอดหน้าบ้าน และนำขวดที่เตรียมมาขว้างปา เข้ามาในบ้านบ่อยมาก ทั้งใช้เท้าแตะไปที่แผ่นไม้อัดหน้าบ้านจนแตกกระจาย โดยก่อเหตุทั้งกลางวันและกลางคืน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านที่เกิดเหตุ ม.2 ต.ตลิ่งชัน อ.เมือง จ.สระบุรี พบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นทาว์เฮ้าน์ชั้นเดียว ปลูกอยู่ริมถนน ประตูรั้วถูกล็อกใส่กุญแจ ภายในบริเวณพื้นบ้านด้านในมีเศษขวดที่แตกกระจายเกลื่อนพื้นเป็นจำนวนมาก ประตูกระจกแตกเนื่องจากถูกขวดขว้างใส่ ภายในถุงขยะดำขังพบเศษขวดที่แตกอีกเป็นจำนวนมาก
ผู้นางสาวสุดารัตน์ (อ้อย) อายุ 35 ปี และนายสำรอง (พ่อเลี้ยง) อายุ 53 ปี เจ้าของบ้าน โดยทางนางสาวสุดารัตน์ (อ้อย) เล่าว่า ตนเองแต่งงานกับนายปริญญา (แสบ) อายุ 38 ปี ทำงานอยู่โรงงานแห่งหนึ่งในพื้น อ.หนองแค มา 16 ปี มีลูกสาวด้วยกัน 2 คนอายุ 15 ปีและ 12 ปีโดยได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว
จากนั้นนายแสบเริ่มมีนิสัยที่เปลี่ยนไป โดยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ตนเองพยายามบอกให้เลิก และสามีก็รับปากว่าจะเลิก แต่กลับไปเสพหนักขึ้นทุกวันจนมีอาการคลุ้มคลั่งหนัก หลังจากตนเองเลิกงานก็ขับรถไปรับตนเองโดยขังลูกสาวทั้ง 2 คนไว้ในบ้าน และเลี้ยวพาตนเองเข้าไปในป่าลึก จากนั้นก็เอามีดขึ้นมาขู่ตนเอง โดยกล่าวหาว่าตนเองมีสัมพันธ์กับพ่อเลี้ยงของตนเอง และกล่าวหาว่าลูกทั้ง 2 คนไม่ใช่ลูกของตนเอง ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าเขาคิดได้อย่างไร
ซึ่งพ่อเลี้ยงของตนเองก็เลี้ยงตนเองมาตั้งแต่เล็กๆ ตนเองก็ไม่ค่อยได้คุยกับพ่อนานๆถึงจะคุยกันสักครั้ง ตนเองพยายามคุยเกลี้ยกล่อมให้นายแสบสามีพาตนเองออกจากป่า เนื่องจากเกรงว่านายแสบจะก่อเหตุที่ตนเองไม่คาดถึงขึ้นได้ และเมื่อกลับมาบ้านนายแสบก็ยังอาละวาดไม่หยุด เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา โดยนายแสบจะอาละวาดไม่หยุดจนตนเองต้องหอบลูกหนีแยกกันอยู่
ซึ่งหลังจากตนเองถูกทำร้ายร่างกายก็ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.แก่งคอย และพูดคุยกันเพื่อที่จะขอหย่าแต่ทางนายแสบก็ไม่ยอมหย่าให้ นายแสบนำรถกระบะมิตซูมิตชิ ที่ออกเป็นชื่อตนเองไปให้ด้วยและยังขับมาก่อเหตุขว้างขวดใส่บ้านตนเองจนตนเองและลูก พร้อมด้วยพ่อเลี้ยงอยู่ไม่ได้ต้องหนีไปอาศัยอยู่บ้านญาติ นายแสบยังคงเข้ามาเอาขวดขว้างทำลายข้าวของภายในบ้านอยู่ตลอด หลายต่อหลายครั้ง
ตอนนี้ตนเองและลูกอยู่ด้วยความหวาดระแวง เกรงว่านายแสบจะเข้ามาทำร้ายตนเองและลูกๆ และตนเองก็ต้องทำงานหาเงินเลี้ยงลูกอีก 2 คนจึงอยากให้นายแสบเข้ามาหย่าให้ตนเอง เพื่อที่จะได้ต่างคนต่างอยู่ และหยุดพฤติกรรมแบบนี้ ตนเองไม่รู้จะทำอย่างไร ตนเองพยามยามจะพึ่งเจ้าหน้าที่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เขาก็ทำหน้าที่ของเขาอยู่ ตัวเองต้องมาหลบหนีอีก ซึ่งตนเองห่วงในความปลอดภัยของลูกและตนเอง เนื่องจากว่านายแสบกล่าวหาว่าลูกไม่ใช่ลูกของเขา
ตอนนี้ตนเองต้องการที่จะเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับเขา หรือเรียกให้มาคุยกันถึงเรื่องที่หย่ากัน ตนเองเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย ทุกวันนี้อยู่ด้วยความหวาดระแวงหนีหัวซุกหัวซุน ซึ่งตนเองก็ยังได้บันทึกเสียงการพูดคุยกันระหว่าตนเองกับนายแสบที่มีการพูดคุยขู่อาฆาตฆ่าตนเอง โดยจะยิงตนเองและพ่อเลี้ยงให้ตายด้วยกันทั้งคู่ และการพูดคุยกันเพื่อที่จะหย่ากันโดยนายแสบจะขอเอารถกระบะไว้ และพร้อมที่จะหย่าให้
ทางด้านนายสำรอง (พ่อเลี้ยง) เล่าว่า ตอนนี้ตนเองได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายแสบ(ลูกเขย)ในข้อหาทำร้ายทรัพย์สินภายในบ้าไว้ที่ สภ.เมืองสระบุรี ถึง 3 ครั้งแล้วคือเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 25 ม.ค.และเมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บอกว่าจะออกหมายเรียกให้ก่อน 2 รอบและจะออกหมายจับให้ในครั้ง 3 แต่ตอนนี้ตนเองไม่รู้ว่าเรื่องของตนเองไปถึงไหนแล้ว
โดยส่วนตัวตนเองต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ(ลูกเขย)มาดำเนินคดี เพราะว่าตนเองทนไม่ไหวแล้ว ลูกเขยของตนเองมีทำลายข้าวของถึง 3 รอบแล้ว ในส่วนที่ตนเองถูกลูกเขยกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์กับลูกสาวนั้น ไม่เป็นความจริง ตนเองไม่เคยคิดที่จะทำแบบนั้นเพราะว่าตนเองเลี้ยงลูกมาตั้งแต่ยังเล็กๆอยู่ ส่วนการที่ลูกเขยมาทำลายทรัพย์สินตนเองมองว่ามันไม่ถูกต้องจะโกรธกันก็อย่ามาทำลายทรัพย์สินเสียหาย