"นิกร"คาด 2 สาเหตุ อุบัติเหตุรถทัวร์ศึกษาดูงานฯ พร้อมเปิด 7 เส้นทางเสี่ยงสำหรับรถบัส 2 ชั้น

(26ก.พ.68) นายนิกร จำนง ที่ปรึกษาคณะกรรมการพิจารณาศึกษาแนวป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนรัฐสภา แถลงแสดงความเสียใจต่ออุบัติเหตุรถบัสศึกษาดูงานของเทศบาลบึงกาฬพลิกคว่ำบนถนนสาย 304 บริเวณเขาศาลปู่โทน ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 19 ราย บาดเจ็บ 32 คน 

นายนิกร ระบุว่า จากเหตุการณ์นี้รถที่เกิดอุบัติเหตุนั้นเป็นรถโดยสารไม่ประจำทางหมวด 30 ซึ่งลักษณะของรถบัสเป็นประเภทเดียวกับรถบัสนักเรียนจากจังหวัดอุทัยธานีที่เกิดเพลิงไหม้บนถนนวิภาวดี - รังสิต ซึ่งรถลักษณะนี้เป็นรถโดยสารไม่ประจำทาง เป็นลักษณะเช่าเหมาคันและเป็นรถบัสขนาด 2 ชั้นที่มักเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้งและควบคุมยาก 

นายนิกร กล่าวต่อไปว่า โดยจากการสันนิษฐานของตนเองในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านประสานงานบริหารจัดการรณรงค์และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการป้องกันอุบัติเหตุ น่าจะเกิดจาก 2 สาเหตุ คือ 

1. ความเหนื่อยล้าของคนขับรถที่มักจะใช้เวลากลางคืนในการเดินทาง คนขับรถนั้นไม่ชำนาญเส้นทางโดยเฉพาะเส้นทางที่มีทางโค้งอันตราย โดยเฉพาะทางหลวงหมายเลข 304 ตรงจุดเกิดเหตุมักเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง เพราะจุดดังกล่าวมีความลาดชัน และคนขับรถอาจมีทักษะในการขับที่ไม่ดีพอ อาจมีการแตะเบรกทำให้เกิดเบรกไหม้ส่งผลให้ไม่สามารถควบคุมรถได้ 
2. ลักษณะของรถที่เกิดอุบัติเหตุเป็นรถบัส 2 ชั้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นประเภทรถที่มีปัญหามาโดยตลอด เพราะจากการตรวจสอบพบว่าศูนย์ถ่วงของรถนั้นมีปัญหา ความสูงของรถ 4.3 เมตรนั้น ไม่สามารถทรงตัวอยู่บนถนนที่มีความคดเคี้ยวได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางคณะกรรมการฯได้เคยทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังบริษัทผู้ประกอบการรถไม่ประจำทางแบบเหมาคันไม่ให้วิ่งในเส้นทางโค้งอันตราย ประกอบไปด้วย 1.ตาก - แม่สอด 2.พิษณุโลก - เพชรบูรณ์ 3.กบินทร์บุรี - ปักธงชัย 4.กระบี่ - พังงา 5.เชียงใหม่ - แม่ฮ่องสอน 6.รังสิต - สระบุรี 7.สายเอเชีย - ช่วงอ่างทอง - สิงห์บุรี - ชัยนาท 

นายนิกร ยังได้ขอประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนที่จะไปยังเส้นทางดังกล่าวหลีกเลี่ยงการเช่ารถบัส 2 ชั้น เพราะมองว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมีส่วนประกอบของลักษณะรถไปเกี่ยวข้อง โดยในวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ นี้ จะนำเรื่องอุบัติเหตุรถบัสดูงานเทศบาลบึงกาฬเข้าประชุมในคณะอนุกรรมการด้านโครงสร้างพื้นฐานและยานพาหนะ โดยมีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย เป็นประธาน เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง ก่อนจะสรุปและส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

นายนิกร ยังได้แสดงความเห็นว่า ในอนาคตผู้ประกอบการรถโดยสารไม่ประจำทางหมวด 30 จะต้องเพิ่มวงเงินประกันให้มากกว่าปัจจุบันที่มีวงเงินประกันอยู่ที่ 10 ล้านบาท โดยจากกรณีนี้ มีผู้เสียชีวิตมากถึง 18 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก หากแบ่งเงินเยียวยาแล้วผู้เสียชีวิตจะได้เงินเยียวยาเพียงแค่ 500,000 บาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่น้อยกว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้น 

"อีกทั้ง ผู้บาดเจ็บ 31 คน อาจได้รับเงินเยียวยาไม่เพียงพอต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยในเรื่องนี้ได้เคยหารือกับนายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ซึ่งอยู่ในระหว่างพิจารณาหาแนวทาง" นายนิกร ระบุ 

ข่าวเวิร์คพอยท์23