ทลายเครือข่ายเว็บพนัน Bangkok 198 พบเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาทต่อเดือน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน Bangkok 198 พบเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาทต่อเดือน

40007 ม.ค. 68 17:26   |     Tum1

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน Bangkok 198 พบเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาทต่อเดือน ยึดของกลางเพียบ รวบตัวผู้บริหารการเงินเว็บฯ วัย 29 ปี

(7 ม.ค.68) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. สั่งการให้ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รรท.ผบก.สอท.3 , พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 นำกำลังชุดสืบสวน เปิดปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมาย 2 จุด ทลายเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ Bangkok 198 ในพื้นที่ จ.นนทบุรี และ จ.พิษณุโลก

จุดแรก ตำรวจนำหมายศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ ค. 6/2568 เข้าค้นบ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านเดอะแพลนท์ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จุดที่สอง นำหมายค้นศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ ค.1/2568 ค้นบ้านในพื้นที่หมู่ 8 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นที่ตั้งของเครือข่ายของเว็บพนัน Bangkok 198


ผลการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายสิทธิเดช (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นผู้บริหารการเงินเว็บพนันดังกล่าว และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 37/2568 ได้ที่บ้านพักในพื้นที่ จ.พิษณุโลก พร้อมตรวจยึดของกลางทั้ง เงินสด 9.4 ล้านบาท , รถยนต์ 3 คัน , สมุดบัญชีธนาคาร 11 เล่ม , บัตรเอทีเอ็ม 11 ใบ , Notebook , เอกสารและอุปกรณ์ต่างๆ รวม 35 รายการ



พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ตำรวจชุดสืบสวน กก.1 บก.สอท.3 ตรวจพบเว็บไซต์ Bankkok 198 ซึ่งเป็นเว็บพนันรายใหญ่ โดยเปิดให้บริการเกี่ยวกับการเล่นพนันออนไลน์ อาทิ หวย สล๊อต พนันฟุตบอล ยิงปลา และบาคาร่า มีรูปแบบการโอนเงิน เพื่อเข้าเล่นพนันออนไลน์ผ่านระบบบัญชีธนาคารในประเทศ รูปแบบอัตโนมัติ โดยการแจ้งถอนเงินผ่านเว็บไซต์โดยตรง และมีแอดมินของเว็บไซต์ โดยมีการเปิดเว็บไซต์ให้เล่นมานานกว่า 6 เดือน มีสมาชิกผู้เล่นกว่า 15,000 คน พบมียอดเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาทต่อเดือน 

ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติฐานออกหมายค้นและหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องในเครือข่ายเว็บพนันรายนี้ ทั้งผู้บริหารการเงินและกลุ่มบัญชีม้า รวม 4 หมายจับ ก่อนนำกำลังเข้าค้นเป้าหมายและจับกุมตัวนายสิทธิเดช พร้อมของกลางทั้งหมด รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธ


อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้แจ้งข้อหานายสิทธิเดช กระทำผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศ โฆษณา หรือชักชวน โดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และ สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน” ก่อนคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.3 ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง