รวบกรรมการฯ บ.มหาชน ที่แท้เป็นแค่คนงานก่อสร้าง

รวบกรรมการฯ บ.มหาชน ที่แท้เป็นแค่คนงานก่อสร้าง

120307 ก.ย. 67 17:46   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ตำรวจตามรวบกรรมการฯ บริษัทมหาชน หลังเจอ ก.ล.ต.แจ้งความไม่ส่งงบการเงินบริษัท เจ้าตัวบอกไม่เคยรู้เรื่องบริษัท เป็นแค่คนงานก่อสร้าง คาดเจอสวมชื่อ-สวมบัตร

(7 ก.ย. 67) เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เข้าจับกุมตัวนายไพวัลย์ อายุ 57 ปี ที่บ้านพักในพื้นที่แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม.


ตามหมายจับศาลอาญา 2 หมาย ในความผิดฐาน “บริษัทฝ่าฝืนกฎหมายโดยไม่จัดทำและส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานภายในระยะเวลาที่คณธกรรมการกำกับตลาดทุนประกาศกำหนด” และ “เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัทมีหน้าที่สั่งการหรือกระทำการใดๆ เพื่อให้บริษัทจัดทำและนำส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนประกาศกำหนด แต่บริษัทฝ่าฝืนกฎหมายโดยไม่จัดทำและนำส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนประกาศกำหนด”


การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก กก.3 บก.ปอศ. ได้รับการร้องทุกข์กล่าวโทษจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ขอให้ดำเนินคดีกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง ซึ่งมี นายทรงฤทธิ์ฯ (ปัจจุบันหลบหนี) และนายไพวัลย์ (ผู้ต้องหา) เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ หลังจากบริษัทดังกล่าวไม่จัดทำและส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานภายในระยะเวลาที่กำหนด


 

โดยบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ที่มีหุ้นสามัญจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีหน้าที่ต้องส่งงบการเงิน และรายงานเกี่ยวกับฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์


อีกทั้งยังเคยเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น (Warrant) แม้ภายหลังตลาดหลักทรัพย์ได้เพิกถอนหุ้นสามัญของบริษัทฯ ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนแล้ว แต่ปรากฏว่ายังคงมีผู้ถือหุ้นจำนวนกว่า 1,124 ราย จึงมีหน้าที่ต้องจัดทำและนำส่งงบการเงินประจำปี 2565 และรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานประจำปี 2565 ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 แต่เมื่อครบกำหนด ผู้ต้องหากลับเพิกเฉยไม่ได้ดำเนินการตามหน้าที่แต่อย่างใด


ทางด้านนายไพวัลย์ ได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยบอกว่าตนไม่เคยมีและไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทหรือการบริหารบริษัท เป็นเพียงคนงานก่อสร้าง มีค่าแรงวันละ 400 บาทเท่านั้น คาดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นตนอาจถูกนำบัตรประชาชนสวมชื่อหรือแอบอ้างชื่อเป็นกรรมการบริษัท


ทั้งนี้ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนภัย ในการประกอบธุรกิจของบริษัทมหาชนที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 จะกำหนดให้มีหน้าที่ในการจัดทำงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทฯ หากเพิกเฉย ละเลยไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ ย่อมต้องได้รับโทษทางอาญาตามที่กฎหมายกำหนด หากประชาชนมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมาย สามารถแจ้งมาได้โดยตรงที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง Website : https://cib.go.th/ หรือ Facebook ตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง