ศาลธัญบุรีให้ประกัน"ต้า โอริโอ้"กับพวก คนละ 1 เเสนบาท คดีร่วมกันทำร้าย โดยใช้อาวุธ

(30 ม.ค.68) พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ควบคุมตัวนาย คือนายวิทิต หรือ ต้า อายุ 27 ปี นายอัครวินท์ หรือ วิน อายุ 19 ปี นายศิวกร หรือ ไอซ์ อายุ 28 ปี และนายเป็นไท หรือ เจา อายุ 18 ปี ไปขออำนาจศาลจังหวัดธัญบุรีขออำนาจฝากขังผัดแรกในข้อหา "ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้รับบาดเจ็บสาหัส" และเสพยาเสพติด ท้ายคำร้องได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน 

ระหว่างที่ควบคุมตัวไปขึ้นรถ นายต้ามีท่าทีนิ่งเฉย ลอยหน้าลอยตา พร้อมกับยืนยันว่า "รุ่นน้องของตนถูกกระทำก่อน รู้สึกผิดอยากขอโทษเพียงนิดเดียว ไม่คิดว่าตัวเองเป็นศาลฯ เตี้ย แต่สิ่งที่ทำลงไปไม่ได้คิดว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุ" 

ส่วนนายศิวกร หรือ ไอซ์ อายุ 27 ปี ที่มีหมายจับของ สภ.ควนมีด จังหวัดสงขลา ในข้อหาฉ้อโกง พูดเพียงสั้น ๆ ว่า ตนยอมรับแค่เรื่องของฉ้อโกงเท่านั้น ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นสวมหน้ากากอนามัย นั่งก้มหน้า ไม่ตอบคำถามใด ๆ

ม.ค.ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี พนักงานสอบสวน สภ.อ.คลองหลวง นำตัว นายอัครวินท์ อายุ 19 ปี 5 เดือน , นายวิทิต อายุ 28 ปี 2 เดือน , นายเป็นไท อายุ 18 ปี 7 เดือน ผู้ต้องที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ และได้รับอันตรายสาหัส, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือจำยอมต่อสิ่ง โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้อื่น หรือของผู้ที่สาม โดยขู่เข็ญหรือใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ, ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร" มายื่นคำร้องฝากขังครั้งเเรกต่อศาลเป็นเวลา 12 วัน 

คำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เวลาประมาณ 22.00 น. ขณะผู้กล่าวหาพักอยู่กับแฟนสาวที่อาคารหอพักได้มีสายโทรศัพท์ทางไอจี นายศิวกรโทรเข้ามาที่โทรศัพท์ของผู้กล่าวหา เมื่อรับสายปรากฏว่าเป็นเสียงของนายอัครวินท์

บอกให้ผู้กล่าวหาลงมาคุยกันข้างล่างอาคารคอนโด ผู้กล่าวหาจึงเดินลงไป เมื่อผู้กล่าวหาลงไปถึงชั้นล่างคอนโด พบ นายเป็นไทในมือถืออาวุธมืดเดินมาหาผู้กล่าวหา แล้วค้นตัวผู้กล่าวหา จากนั้นนายเป็นไทบอกให้ผู้กล่าวหาเดินตามไปยังบริเวณด้านข้างอาคารคอนโดที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงบริเวณที่เกิดเหตุพบนายกรรณชนก พยาน ยืนอยู่ และมีนายศิวกร นายอัครวินท์ และนายวิทิตยืนอยู่ด้วย จากนั้นคนร้ายทั้ง 4 คน ได้ชักอาวุธปืนพก ไม่ทราบขนาดออกมาจากเอวของแต่ละคน และได้บังคับให้ผู้กล่าวหาไปนั่งลงบริเวณมุมกำแพง ผู้กล่าวหากลัวจะถูกทำร้าย จึงนั่งนั่งลงตามคำสั่งแล้ว

นายวิทิตได้เข้ามาชกต่อยผู้กล่าวหากับนายกรรณชนกจนได้รับบาดเจ็บ และเอาอาวุธปืนมาจ่อที่หัวของนายกรรณชนก จากนั้นนายกรรณชนกได้วิ่งหนีออกจากที่เกิดเหตุ โดยมีนายวิทิตวิ่งตามไป สักครู่นายวิทิตได้กลับมาที่เกิดเหตุ แล้วจากนั้นนายเป็นไท , นายศิวกร , นายวิทิต ได้ร่วมกันใช้ท่อนเหล็กเข้ามารุมตีผู้กล่าวหาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แพทย์ผู้ตรวจรักษาให้ความเห็นว่าจากการบาดเจ็บดังกล่าว ผู้กล่าวหาต้องใช้ระยะเวลารักษาตัวประมาณ 6 สัปดาห์ หากไม่มีภาวะแทรกซ้อน

จากนั้นคนร้ายทั้งหมดได้พากันขบรถยนต์หลบหนีออกไปทางด้านถนนหลโยธิน ผู้กล่าวหาและพยานได้เข้ารับการรักษาและมาแจ้งความในคดีนี้

ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การ ผู้ต้องหาที่ 1,3 และ 4 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนแล้ว แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 6 ปากเป็นประจักษ์พยานและพยานแวดล้อม

ท้ายคำร้องกรณีผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวพนักงานสอบสวนขอคัดค้าน เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงเชื่อว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี

ผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตปล่อยชั่วคราว ตีราคาประกันคนละ 1 เเสนบาท เเละมีคำสั่งห้ามผู้ต้องหาเข้าใกล้ผู้เสียหาย เเละนัดรายงานตัวอีกครั้ง 24 เม.ย. 2568 เวลา 09.00 น.