แม่แบงค์ เลสเตอร์ ร้องถูกไล่ออกจากงาน แจงไม่ได้ทอดทิ้งลูก

(3 ม.ค.68) จากกรณีการเสียชีวิตของ นายธนาคาร หรือ แบงค์ เลสเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์ ที่เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน เนื่องจากถูกจ้างดื่มเหล้าให้หมดแบน แลกกับเงิน 30,000 บาท 

ที่เพจสายไหมต้องรอด เขตสายไหมนางวนิดา แม่ของแบงค์ เลสเตอร์ เปิดเผยว่า วันนี้มาร้องขอความเป็นธรรมจากสายไหมต้องรอด หลังเกิดเรื่อง น้องแบงค์เสียชีวิต ได้มีสื่อทางโซเชียลบางสื่อที่นำเสนอว่าเขานั้นติดเหล้า ดื่มเหล้า ทำให้ต่อมา ได้ถูกบริษัทรักษาความปลอดภัยที่เขาทำงานเป็น รปภ.อยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งไล่ออกจากงาน เนื่องจากบริษัทไปทราบว่าลูกบ้านพูดถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งยืนยันว่าข่าวที่ออกไปนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เขาไม่เคยดื่มเหล้า สามารถให้หาหลักฐานมายืนยันได้ 

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เคยมีปัญหากับลูกบ้านเรื่องที่เขาคอยตรวจตราการเข้าออกหมู่บ้านเคร่งครัดเกินไป และพอมีเรื่องน้องแบงค์ บริษัททราบข่าวจากลูกบ้านว่าเขาดื่มเหล้า จึงเป็นที่มาที่เขาถูกไล่ออก อีกทั้งไปสมัครงานใหม่หลายที่ ก็ไม่มีคนรับเพราะให้เหตุผลว่า ในตอนนี้ไม่มีงานสำหรับผู้หญิง 

ส่วนกรณี ข่าวที่ออกมาว่าเขาไม่เลี้ยงดูน้องแบงค์ ยืนยันว่าไม่ได้ทอดทิ้ง ทุกเดือนยังส่งเงินให้น้องแบงค์กับยายเดือนละ1,500 บาท โดยโอนให้ผ่านทางน้าของน้องแบงค์ แต่ยายไม่ทราบ และน้าเพิ่งมาบอกตอนที่น้องแบงค์เสียแล้ว ขณะที่กรณีที่บอกว่า หลังงานศพน้องแบงค์แม่ซื้อไอแพด ยืนยันได้ว่าเป็นแทปเล็ตของแม่ ที่ซื้อไว้ก่อนที่จะเกิดเรื่อง และเป็นเงินที่ซื้อเองในราคาหลักพันบาท ขณะที่เงินจากการเสียชีวิตน้องแบงค์แม่ไม่รู้เรื่อง เพราะไม่ได้รับเงินส่วนนี้มา เงิน5หมื่นบาท ก็คืนให้ยายไปแล้ว 

ทั้งนี้แม่ของแบงค์เลสเตอร์ยังยืนยันอีกว่าตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ที่แบงค์ถูกชักชวนให้ทำคอนเทนต์ลงโซเชียลหรือการถูกกันแกล้งต่างๆแม่ไม่เคยทราบเรื่องมาก่อนรวมถึงญาติๆคนอื่นๆก็ไม่ทราบเรื่องและแบงค์ไม่เคยเล่าให้แม่ฟังเนื่องจากรู้ว่าหากเล่าแบงค์รู้นิสัยว่าแม่เป็นคนยังไงซึ่งแม่จะไม่ยอมที่ผ่านมารู้เพียงแค่ว่าลูกขายพวงมาลัยเพื่อหาเงิน

ส่วนกรณีที่ในช่วงบ่ายวันนี้ 3 ม.ค.68 ทางเอ็ม เอกชาติจะเข้าพบพนักงานสอบสวนตำรวจไซเบอร์ แม่ระบุว่าหากพบว่า มีส่วนกระทำน้องแบงค์ ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายผิดว่าไปตามผิด 

ทางด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่าหลังจากที่ได้รับการร้องเรียนจากแม่ของแบงค์ในวันนี้จะให้ทีมงานประสานไปยังบริษัทนายจ้างของแม่เพื่อพูดคุยขออย่าให้ไล่แม่ออกจากงาน เนื่องจากแม่ก็ยืนยันไม่ได้ทำตามที่ถูกกล่าวหา รวมถึงอาจมีการพิจารณาในการช่วยเหลือในเรื่องเงินเพิ่มเติม