อ.อ๊อด วิเคราะห์สาเหตุเพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษา

อ.อ๊อด วิเคราะห์สาเหตุเพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษา

72601 ต.ค. 67 15:59   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

อ.อ๊อด วิเคราะห์สาเหตุเพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษา แนะผู้ประกอบการควรดูแลสภาพรถให้ดี หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเป็นเคสสุดท้ายของบ้านเรา

จากกรณีเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ที่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต หน้าอนุสรณ์สถาน จ.ปทุมธานี โดยคันที่เกิดเหตุคือ รถคันที่ 2 มีครู 6 ราย ออกมาได้ 3 ราย และนักเรียน 38 ราย ออกมาได้ 16 ราย รวมทั้งหมดในรถมี 44 ราย ออกมาได้ 19 ราย เบื้องต้นได้นำส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาล 8 ราย 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

รวมช่องทางช่วยเหลือผู้ปกครองนักเรียนที่ไปทัศนศึกษาแล้วประสบเหตุ

ญาติโพสต์ ตามหา "น้องนะโม" จากเหตุรถบัสไฟไหม้ ใครเห็นแจ้งด่วน

สธ.เผยไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา ครู-นักเรียนรวม 44 คน เบื้องต้นพบออกจากรถได้ 19 คน


(01 ต.ค.67) รองศาสตราจารย์ ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี ม.เกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความระบุว่า สาเหตุหลัก คือ ยางซ้ายหน้าแตก ก่อนเสียหลัก ไปชนกะแบริเออร์แล้วประตูรถบัส เปิดไม่ออก นอกจากนี้ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า เคสนี้ต้องแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง เป็นอุบัติเหตุที่ค่อนข้างสะเทือนใจ สำหรับการเกิดเพลิงไหม้บนรถบัสในครั้งนี้ เพลิงไหม้เกิดได้หลักๆทางวิทยาศาสตร์มีอยู่ 3 อย่างองค์ประกอบ 1. เชื้อเพลิง 2. ออกซิเจน หรืออากาศที่อยู่รอบๆ และ 3. ประกายไฟหรือแหล่งกำเนิดไฟ


เคสนี้เท่าที่ทราบ ยางรถระเบิด ล้อหน้าและมีการเสียดสีกับแบริเออร์ จนเกิดความร้อนสูง เชื้อเพลิงไม่ว่าจะเป็นที่ยางรถยนต์ ลุกลามเผาไหม้ มายังห้องเครื่อง ที่มีทั้งแก๊สมีทั้งน้ำมัน ลุกลามเข้าไปในรถที่มีเชื้อเพลิงอ่อนทั้งพลาสติก พอลิเมอร์ PVC กระดาษ เบาะ อะไรต่างๆ


ส่วนออกซิเจนคืออากาศที่อยู่บริเวณรอบๆ เลยทำให้เกิดไฟลุกโหมไปจากด้านหน้าไปด้านหลัง จะเห็นได้ว่าเด็กๆพยายามที่จะหนีเอาตัวรอดออกมาประตูด้านหน้า แต่ว่าเป็นจุดที่อยู่ใกล้กับการเกิดเพลิงไหม้ จึงวิ่งกรูไปด้านหลัง ซึ่งประตูด้านหลังจะปิดล็อคทำงานยาก ถ้าไม่มีสติ ไม่สามารถไปเปิดด้านหลังได้ ก็จะไปออกันอยู่ตรงนั้น 


ส่วนอุบัติเหตุในเรื่องอื่นๆ ที่น่าจะเป็นไปได้ เช่น ท่อไอดีของห้องเครื่องรถยนต์เกิดการร้าว ท่อนำน้ำมันหรือแก๊สเข้าไปยังห้องเผาไหม้เกิดการเสื่อมสภาพ ทำให้น้ำมันรั่วซึมออกมา เมื่อเจอกับตัวเครื่องที่ร้อนๆ ก็เกิดเพลิงไหม้ขึ้นมาได้ ตอนนี้ต้องให้ทางพิสูจน์หลักฐานพิสูจน์ และสิ่งสำคัญคือการตรวจอัตลักษณ์บุคคลว่าร่างที่อยู่บนรถบัส 10 ร่าง ที่โดนไฟไหม้เกรียมจำเป็นต้องตรวจ DNA หรือ ทันตกรรมเรื่องฟัน หรือสิ่งของต่างๆที่พอจะหลงเหลือให้พิสูจน์ทราบว่าร่างคือเด็กคนไหนบ้าง


สุดท้ายขอเตือนผู้ประกอบการต้องดูแลรถของตนเองให้อยู่ในสภาพพร้อมเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครื่องยนต์ เรื่องของท่อไอดี สายยางเรื่องของการนำของเหลว เชื้อเพลิงเข้าสู่เครื่องยนต์ ต้องอยู่ในสภาพที่ใหม่พร้อมใช้งานรวมถึงยางรถ ต้องหมั่นดูแลว่ายางนั้นเสื่อมสภาพหรือไม่ สิ่งสำคัญก็คือสติ ที่จะต้องมีในการแก้ไขเฉพาะหน้า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเป็นเคสสุดท้ายของบ้านเรา

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง