จับเพิ่ม! แก๊งปล้นไม้พะยูงหน่วยป้องกันรักษาป่าฯ บ้านกุดตะขาบ

จับเพิ่ม! แก๊งปล้นไม้พะยูงหน่วยป้องกันรักษาป่าฯ บ้านกุดตะขาบ

24814 พ.ย. 67 23:06   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

จับเพิ่ม! แก๊งปล้นไม้พะยูงหน่วยป้องกันรักษาป่าฯ บ้านกุดตะขาบ ปัดไม่รู้ไม่เห็น แค่ขับรถไปยกไม้

(14พ.ย.67) พ.ต.ท.ผล แก้วนามอม สว.กก.3 บก.ปทส. นำกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สกลนคร จับกุม นายเอ(นามสมมติ) อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสว่างแดนดิน ข้อหาว่ากระทำความผิดฐาน“ร่วมกันปล้นทรัพย์ฯ , ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืนฯ , โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายและร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ , ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นฯ , ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนฯ ได้ที่บริเวณศาลาที่พักประชาชนหน้าที่ว่าการอำเภอบุ่งคล้า อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ  

 

การจับกุมสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วาริชภูมิ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายบุกรุกเข้าไปหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สน.2 บ้านกุดตะขาบ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร ได้จับเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยมัดไว้และได้ร่วมกันลักเอาไม้พะยูง จำนวน 7 ท่อน , โทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง และอาวุธปืน จำนวน 7 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน 


เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนสอบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิด จนกระทั่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับต่อศาล ต่อมาศาลจังหวัดสว่างแดนดินได้อนุมัติหมายจับให้ทำการจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.บึงกาฬ


ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งว่าพบตัวผู้ต้องหาปรากฏตัวอยู่บริเวณที่ว่าการอำเภอบุ่งคล้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามจับกุม เมื่อมาถึงพบผู้ต้องหาจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตนและแสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาทราบ ก่อนที่จะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาพร้อมให้การว่า ได้รับการติดต่อจากนายนา ซึ่งรู้จักกันมาก่อน ให้นำรถกระบะไปรับนายไฟว์และนายนาและบุคคลอีก 3 คน ไม่ทราบชื่อสกุลจริง รวมเป็น 6 คน แบ่งเป็นชาย 5 คน และผู้หญิง 1 คน ตามจุดนัดพบให้ไปช่วยบรรทุกไม้แต่ไม่ทราบว่าจะไปที่ไหน


ผู้ต้องหาให้การต่อไปว่า โดยในเวลา 17.00 น. ให้ไปรอที่สถานีบริการน้ำมันพังโคน เมื่อไปถึงสถานีบริการน้ำมันพังโคนนายไฟว์และนายนาลงจากรถไปขึ้นรถของนายอาท โดยรถตนเองเหลือ 4 คน รถนายอาท มี 3 คน และเวลา 19.00 น.ให้ไปพบกันที่สถานีบริการน้ำมันวาริชภูมิ และรออยู่บริเวณนั้นจนกระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น. นายนาบอกให้ขับรถตามนายอาทให้เข้าไปเอาไม้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สน.2 บ้านกุดตะขาบ อ.วาริชภูมิจ.สกลนคร 


"เมื่อไปถึงนายนาซึ่งไปถึงก่อนเปิดประตูหน่วยป้องกันรักษาป่าฯและพาไปเอาไม้ ขณะเข้าไปไม่พบใครอยู่ในสถานที่ดังกล่าว ตนและคนแก่และผู้หญิงช่วยกันยกไม้ขึ้นรถตนเองประมาณ 10 กว่าท่อน แล้วก็ออกมา" ผู้ต้องหา ระบุ


ผู้ต้องหา บอกอีกว่า ส่วนกลุ่มนายอาท นายไฟว์ นายนา และอีกคนไม่ทราบชื่อและไม่รู้จัก ทำอะไรต่อในสถานที่ดังกล่าวไม่ทราบ ผู้ต้องหาก็ขับรถออกมาเอาไม้ลงไว้ที่บ้านน้ำจั่น ต.น้ำจั่น อ.เซกา จ.บึงกาฬ และรอให้เฒ่าแก่ซื้อไม้มารับไม้ โดยนายอาทเป็นคนติดต่อเฒ่าแก่คนซื้อ 


ผู้ต้องหา ระบุต่อไปว่า ซึ่งรออยู่ 2 วัน โดยรอทั้งหมด 7 คน ในจุดที่เอาไม้ลงและตอนเช้าได้ยินนายอาทพูดว่าเอาปืนมาจากหน่วยป้องกันรักษาป่าและได้เอาไปคืนแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเป็นปืนอะไร จำนวนเท่าไหร่ จากนั้นตอนเช้าของอีกวันก็มีรถตู้สีบรอนซ์มาขนเอาไม้ 


"เห็นมีคนเดียวที่มากับรถตู้ดังกล่าว จำทะเบียนไม่ได้ จากนั้นก็ช่วยกันยกไม้ขึ้นรถตู้ไป จากนั้นก็แยกย้ายกันไป และไม่สามารถติดต่อนายอาทและนายนาได้ จนมาเห็นในทีวีว่านายอาทถูกจับ" ผู้ต้องหา ระบุ 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง