ลั่นไม่เรียกหมอ ขอเรียก “ไอ้เxี้x” ถูกหลอกชีวิตพัง

ลั่นไม่เรียกหมอ ขอเรียก “ไอ้เxี้x” ถูกหลอกชีวิตพัง

70923 พ.ย. 67 19:36   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ผู้เสียหายเดือดถูกหลอกลงทุนร่วมกับเพื่อน 170 ล้าน เสียบ้านไป 1 หลัง ชีวิตพังต้องอยู่อย่างยากลำบาก ลั่นไม่ขอเรียกว่าหมอแต่จะเรียก “ไอ้เxี้x” - เตรียมยื่นคัดค้านไม่ให้ศาลให้ประกันตัว ลูก-เมีย “หมอบุญ”

(23 พ.ย. 67) เวลา 15.00 น. ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบปากคำ นางจารุวรรณ อายุ 79 ปี น.ส.นลิน อายุ 51 ปี ภรรยาและบุตรสาวของ นพ.บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาร่วมในคดีที่มีการกล่าวหาว่า นพ.บุญ หลอกลวงผู้เสียหายหลายร้อยคนให้ลงทุนในโครงการต่างๆ มูลค่าความเสียหายหลายพันล้านบาท ได้มีผู้เสียหายจำนวนหนึ่ง เดินทางมายื่นขอคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จะหลบหนี


นายหมี อายุ 40 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่าตนเองได้ร่วมลงทุนกับเพื่อนผ่านโบรกเกอร์บริษัทดังรายหนึ่ง โดยตนเองถูกชักชวนให้ไปลงทุนร่วมกับเพื่อนตนเองลงทุนไป 70 ล้านบาทเพื่อนลงทุนไป 100 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 170 ล้านบาท


ก่อนหน้านี้ตนไม่รู้จักกับนพ.บุญ เป็นการส่วนตัว แต่เห็นผ่านสื่อโฆษณา และเป็นหมอที่มีชื่อเสียง คิดไม่ถึงว่าจะมีพฤติกรรมเช่นนี้ โดยส่วนใหญ่จะอ้างว่าจะนำไปลงทุนโครงการเวลเนสริมแม่น้ำ พระราม 3 และโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง และ อ้างว่าจะนำไปลงทุนซื้อถุงมือทางการแพทย์ ในช่วง โควิด-19 / นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายรายอื่นอีกหลายราย มีผู้เสียหายรายหนึ่งเสียหายมูลค่าสูงสุดถึง 2,000 ล้านบาท ในการลงทุน และเชื่อว่ามูลค่าความเสียหายทั้งหมดน่าจะสูงถึง 20,000 ล้านบาท


ทั้งนี้โบรกเกอร์ และนายแพทย์บุญอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยร้อยละ 8% ต่อปี ซึ่งช่วงแรกมองว่าไม่สมเหตุสมผล แต่นายแพทย์บุญนำหุ้นของโรงพยาบาลธนบุรี มาใช้ในการค้ำประกันเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ ซึ่งผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งที่ได้หุ้น และยังไม่ได้หุ้นดังกล่าว และจากการตรวจสอบย้อนหลังหุ้นในตลาดหลักทรัพย์พบว่าหุ้นดังกล่าวเหลือเพียงหุ้นที่เป็นชื่อของลูก และภรรยาของ นายแพทย์บุญเท่านั้น ยังพบว่านายแพทย์บุญถือหุ้นอยู่เพียงเล็กน้อย 


ส่วนกรณีของลูกสะใภ้ของนายแพทย์บุญที่ตำรวจกันไว้เป็นพยานแต่ไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา นายหมีระบุว่าตนเองรู้สึกแปลกใจที่ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา เพราะเชื่อว่า ลูกสะใภ้คนนี้มีส่วนรู้เห็นในขบวนการนี้เนื่องจากในเวลาจำนองหุ้น ตนเองได้เข้าไปร่วมระหว่างการโอนหุ้นด้วย พบว่ามีการใช้บัตรประชาชนตัวจริง และยืนยันทางโทรศัพท์กับเจ้าของหุ้นซึ่งมีพยานเป็นเจ้าหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์ และเชื่อว่าทุกคนมีส่วนร่วมในกระบวนการนี้


ส่วนกรณีที่ลูกสาว และภรรยาปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็น และถูกปลอมลายเซ็นนั้น นายหมี ระบุว่าไม่เชื่อเพราะเป็นครอบครัวเดียวกันน่าจะมีส่วนรู้เห็น และที่ตนเดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลวันนี้เพื่อต้องการคัดค้านการประกันตัวของสองแม่ลูก เพราะ เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี เช่นเดียวกับนายแพทย์บุญที่หลบหนีไปตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 67 และเชื่อว่า ทรัพย์สินถูกส่งไปยังนายแพทย์บุญเป็นที่เรียบร้อย


นายหมีระบุอีกว่า ตนมองว่าการที่นายแพทย์บุญไปเสวยสุขอยู่ที่ ต่างประเทศ นายหมี มองว่า เป็นการกระทำที่ “จัญไร” เพราะตนเองได้รับความเดือดร้อนจากการที่นำเงินไปลงทุน บ้านจะถูกยึด และต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะถามว่าหลังจากนี้ถ้าหากเจอนายแพทย์บุญยังจะเรียกคำนำหน้าว่า “หมอ” หรือไม่ นายหมี ระบุว่าขอไม่เรียกว่าหมอแต่จะเรียกว่า “ไอ้เxี้xบุญ”


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

หมายจับ "หมอบุญ" - ครอบครัว รวมพวก 9 คน หลอกลงทุนธุรกิจการแพทย์

แฉพฤติกรรมแก๊ง"หมอบุญ"ลวงลงทุน 5 บิ๊กโครงการ เชิดเงิน 7.5 พันล้านบาท

อดีตภรรยา "หมอบุญ" พร้อมลูกสาว มอบตัวแล้ว ทนายเผยโดนปลอมลายเซ็น


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง