รวบเยาวชนเลือดร้อน! เขม่นกันตอนติดไฟแดง ก่อนตามไปตีกัน แทงเจ็บ 1 ตาย 1

รวบเยาวชนเลือดร้อน! เขม่นกันตอนติดไฟแดง ก่อนตามไปตีกัน แทงเจ็บ 1 ตาย 1

98008 เม.ย. 68 10:45   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

รวบเยาวชนเลือดร้อน! เขม่นกันตอนติดไฟแดง ก่อนตามไปตีกันจนมือมีดวัย 17 ชักมีดแทงเจ็บ 1 ตาย 1 ครอบครัวสุดสะเทือนใจ

(8 เม.ย. 68) ที่ สถานีตำรวจภูธรบางปะอิน สาขา สินทิวาธานี พ.ต.อ.อดิเรก โปธิปัน ผกก.สภ.บางปะอิน พ.ต.อ.พีรพัสส์ ชูช่วย ผกก.กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.กฤษฎา บุญศิริ รอง ผกก.สส.สภ.บางปะอิน นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เข้าควบคุมตัว นายเจมส์ อายุ 17 ปี ได้ภายในบ้านพักในพื้นที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาทำการสอบสวน หลังจากได้ลงมือก่อเหตุแทงกลุ่มวัยรุ่นที่เขม่นกันมาตอนขับขี่รถจักรยานยนต์มาเจอกันบนถนนโรจนะ ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลสามเรือน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.00 น.วันนี้ 7 เมษายน 2568

 

นายเจมส์ อายุ 17 ปี ผู้ก่อเหตุเล่าว่า ตนเองและเพื่อนมาเที่ยวในงานเปียก ภายในตลาดแกรนด์ พื้นที่อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยาขากลับจอดรถติดไฟแดงบนถนนโรจนะเจอกับกลุ่มผู้เสียชีวิต ที่คาดว่ามางานเดียวกัน ก็หันไปยิ้มให้ เขาก็ตึงใส่คว้าขวดที่ตะกร้าหน้ารถจะปาใส่ตน ตนบอกว่าตนมาเล่นน้ำ พี่จะมาเล่นตนเลยเหรอ จากนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไร จนมาถึงจุดเกิดเหตุเขาก็เรียกรถเพื่อนตนจอด และก็รุมต่อยเพื่อนตน เขามารถจักรยานยนต์กัน 10 กว่าคัน ตนไปกัน 4 คัน ตนก็ลงไปห้ามบอกว่าอย่าทำเพื่อนตน เขาก็กันมาใส่ตน ตนก็ควักมีดที่พกมา ซึ่งพึ่งซื้อมาจากออนไลน์ มาได้ประมาณ 3 – 4 วัน แทงเข้าไปที่คนที่ปรี่เข้ามาไป 1 คน ตนก็กันไปหาอีกคนซึ่งเป็นผู้เสียชีวิต กำลังต่อยกับเพื่อนตนบอกว่าพอแล้วเขาก็ไม่ฟัง ตนก็เลยแทงไป 1 ที่ อีก 1 คนแล้วก็แยกย้ายกลับบ้าน รับสารภาพว่าเป็นคนแทง แทงไป 2 คน แต่ไม่รู้ว่าเป็นไรมาก จนมาถูกตำรวจจับกุมได้ในที่สุด มารู้ว่าเขาเสียชีวิตก็รู้สึกเสียใจ เพราะตนป้องกันตัว และมารู้ตอนแม่บอกว่าเป็นญาติห่างๆ ก็รู้เสียใจ แต่ด้วยไม่รู้จักกันเพราะห่างกันจนมาทราบทีหลัง

ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 02.30 น.วันที่ 7 เมษายน 2568 ร.ต.อ.ถาวร แสงใสย์ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบางปะอิน รับแจ้งเหตุว่ามีผู้บาดเจ็บถูกอาวุธมีดแทงได้รับบาดเจ็บ 2 คน 1.นายอดิศร อายุ 19 ปี ถูกแทงเข้าข้างหลัง 1 แผล 2.นายณัฐนนท์ อายุ 18 ปี ถูกแทงเข้าที่หน้าอกซ้าย รักษาตัวอยู่ รพ.วังน้อย แต่ 1 ในผู้บาดเจ็บ นายณัฐนนท์ หรือมิ๊ก อายุ 18 ปี เสียชีวิตในเวลาต่อมา 

พ.ต.อ.อดิเรก โปธิปัน ผกก.สภ.บางปะอิน จึงร่วมกับ พ.ต.อ.พีรพัสส์ ชูช่วย ผกก.กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.กฤษฎา บุญศิริ รอง ผกก.สส.สภ.บางปะอิน นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาข่าวหาข้อมูลตามกล้องวงจรปิดและกล้องตามจุดต่างๆจนพบว่า กลุ่มวัยรุ่นมีกัน 2 กลุ่มและผู้ก่อเหตุที่แทงคือ นาย เจมส์ อายุ 17 ปี จึงนำกำลังเข้าไปเชิญตัวมาสอบสวนจนให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง 

พ.ต.อ.อดิเรก โปธิปัน ผกก.สภ.บางปะอิน กล่าวว่า ได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 02.30 น.ว่ามีคนโดนแทงไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลวังน้อย แต่พื้นที่แทงหรือที่เกิดเหตุ เป็นพื้นที่อำเภอบางปะอิน จึงออกตรวจสอบใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ก็สามารถรู้ตัวมือแทง และในส่วนผู้ก่อเหตุทั้งหมด ซึ่งมีเจมส์ เป็นเยาวชนเป็นคนลงมือ 

อยากฝากน้องๆเยาวชน กรณีอย่างนี้การกระทำอะไรอยากให้คิดเยอะๆ เพราะจะหมดอนาคต ในส่วนของการดำเนินคดี ก็ว่าไปตามกฎหมาย ทั้งนี้น้องก็พึ่งมาทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นญาติห่างๆ ซึ่งทางครอบครัวมือแทงยังไปรดน้ำศพมาก็มารู้ทีหลังว่าลูกชายตนเอง 

ทั้งนี้ครอบครัวผู้เสียชีวิต นางทองหมอก อายุ 46 ปี เดินทางมาที่ สถานีตำรวจภูธรบางปะอินเพื่อดำเนินการเรื่องลูกชาย เปิดเผยว่า ตนเองมารู้ตอนน้องถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว มีหลานโทรมาบอกเพื่อนน้องโทรมาบอกน้องมิ๊กโดนแทงอยู่ที่โรงพยาบาลวังน้อย ก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นเยอะ ไม่รู้ว่าน้องไปไหน เพราะรู้ว่าน้องออกมาทํางานพาร์ทไทม์ ช่วงปิดเทอม ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้เรื่องราวว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะตอนแรกน้องยังไม่เสียทางโรงพยาบาลปั๊มหัวใจขึ้นมาจนประมาณ ตี 5 น้องเสียเลือดเยอะ ทำให้ปั๊มหัวใจรอบสอง แต่น้องก็ไม่กลับมา อยากฝากวัยรุ่นทำอะไรขอให้คิดอะไรมากกว่านี้ ให้นึกถึงหัวอกพ่อแม่ ไม่ได้โกรธแค้นอะไรกันมาทำไมต้องเอาถึงชีวิต 

ส่วนทางด้าน นางฐา อายุ 48 ปี เล่าว่า ตนเองยังไม่รู้เรื่องอะไรมารู้อีกทีก็ตำรวจไปที่บ้านแล้ว ยังไม่ได้บอกอะไร ซึ่งตนเองก็ไม่รู้อะไรเรื่องราวเกิดอะไรขึ้น ลูกก็ยังไม่บอก ลูกแค่เมื่อคืนลูกออกไปเที่ยวบ้านป้า  

ทั้งนี้ พ.ต.อ.อดิเรก โปธิปัน ผกก.สภ.บางปะอิน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ทางพนักงานสอบสวน จะทำการสอบสวนผู้ก่อเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมว่ามีใครเกี่ยวข้องร่วมด้วยอีกหรือไม่ก็ว่ากันไปตามขั้นตอนกระบวนการของกฎหมายต่อไป

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat