รวบบัญชีม้า พบมีหมายจับ 4 หมาย

รวบบัญชีม้า พบมีหมายจับ 4 หมาย

67321 มิ.ย. 68 17:35   |     Tum1

CIB รวบสาวบัญชีม้า พบมีหมายจับ 4 หมาย รวมถึงที่เกี่ยวกับคดียาเสพติดด้วย

(21 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พ.ต.ท.อภิชาติ อินยอด สว.กก.6 บก.ปทส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส. 2 บก.สส.ภ.9 , เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ.และเจ้าพนักงานตำรวจ กก.3 บก.ปคบ. ร่วมกันจับกุม น.ส.วิภาดา (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ตามหมายจับของศาลอาญา ที่ จ.590/2567 ลงวันที่ 19 เม.ย.67 ที่หน้าสถานีรถไฟแห่งหนึ่ง อ.เมือง จ.พัทลุง โดยกล่าวหาว่า 

  • ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น  
  • ทุจริตหรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จฯ 


โดยตำรวจชุดจับกุม ได้ออกสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในพื้นที่รับผิดชอบ และสืบทราบ น.ส.วิภาดา ซึ่งเป็นบุคคลหาตามหมายจับ ของศาลจังหวัดสงขลา ที่ 32/2568 ลงวันที่ 16 ม.ค.68 , คดีหมายเลขดำที่ ย334/2567 , คดีหมายเลขแดงที่ ย332/2567 ความผิดต่อประมวลกฎหมายยาเสพติด และหมายจับบัญชีม้าอีก 3 หมายจับ มาทำธุระที่บริเวณตลาดหน้าสถานีรถไฟแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้รายงาน 

ให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้ประสานกับชุดที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมประชุมวางแผนเพื่อดำเนินการจับกุมตัว 

จากนั้น จึงได้เดินทางไปตรวจสอบสถานที่ดังกล่าว พบ น.ส.วิภาดา จึงได้เข้าไปแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่และแจ้งความประสงค์ให้ทราบ พร้อมแสดงหมายจับให้ น.ส.วิภาดา ดูและให้อ่านด้วยตัวเอง


  

น.ส.วิภาดา ยอมรับว่า เป็นบุคคลเดียวกันกับในหมายจับนี้จริง และไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ น.ส.วิภาดาฯ ทราบ ซึ่งเจ้าตัวให้การรับสารภาพ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัว มาจัดทำบันทึกการจับกุมและบันทึกการควบคุมตัวที่ สภ.เมืองพัทลุง ก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง และส่งศาลแขวงสงขลา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


คดีที่ 1 เมื่อประมาณ วันที่ 28 ต.ค.66 ผู้เสียหายได้รู้จักกับบุคคลในเฟซบุ๊ก ต่อมาถูกชักชวนให้เข้าร่วมลงทุน “ผลักดันสินค้าออกต่างประเทศ" มีการโอนเงิน 13 ครั้ง รวมความเสียหาย 353,696.40 บาท และคนร้ายแจ้งว่าได้ตรวจบัญชีผู้เสียหายมีความเสี่ยงสูง จะต้องโอนเงินอีกจำนวนเงิน 100,000 บาท แต่ผู้เสียหายไม่ได้หลงเชื่อ และไม่โอนเงินไปอีก และเชื่อถูกหลอก จึงมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.บวรมงคล ให้ดำเนินคดี 

คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 28 ต.ค.66 ได้มีเบอร์โทรศัพท์โทรสุ่มเข้ามายังผู้กล่าวหา อ้างว่า ติดต่อมาจากศูนย์ของ Tiktok เพื่อเสนองานชักชวนให้กดหัวใจ เพื่อโปรโมทและเพิ่มยอดวิว มีการโอนเงินเป็นค่าลงทุน ทั้งหมด 5 ครั้ง รวม 240,000 บาท ปรากฏว่าเมื่อผู้กล่าวหาทำกิจกรรมครบหมดแล้ว ไม่มีเงินเข้าในระบบการถอนเงินแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าถูกหลอ และมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดี 

 คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 16 ก.ค.66 น.ส.มณฑิตา (สงวนนามสกุล) ผู้เสียหายได้ใช้บัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊ก เข้าร่วมกลุ่ม “ซื้อขาย Coach MK Tory และสินค้าแบรนด์เนมแท้ มือ 1 มือ 2” เพื่อโพสต์ขายสินค้า การแอดไลน์เข้าร่วมกลุ่มขายของ และต้องโอนเงินเพื่อสมัครสมาชิก ก่อนรู้ว่าถูกหลอก สูญเงินรวม 14,735 บาท จึงแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง 

คดีที่ 4 ความผิดต่อประมวลกฎหมายยาเสพติด และจำเลยทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาศาล มีพฤติการณ์หลบหนี ให้จับตัวจำเลยมาเพื่อสอบถาม กรณีผิดเงื่อนไขคุมประพฤติ ตามหมายจับของแขวงสงขลา รวมมูลค่าความเสียหายที่โอนเข้าบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาเป็นเงิน 66,235 บาท 


สอบถามคำให้การเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ตามหมายจับของศาลแขวงสงขลา ส่วนหมายจับอื่นให้การปฏิเสธ และไม่ทราบว่า มีผู้ใดนำบัญชีธนาคารของตนไปใช้ และตนก็ไม่เคยมอบบัญชีธนาคารให้กับผู้ใด กระทั้งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดังกล่าว - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat