จับแก๊งหลอกติดตั้งแอปฯดูดเงิน สูญกว่า 5 แสนบาท

จับแก๊งหลอกติดตั้งแอปฯดูดเงิน สูญกว่า 5 แสนบาท

42621 ก.พ. 68 19:25   |     Tum1

ตำรวจไซเบอร์ จับกุมแก๊งหลอกข้าราชการบำนาญ อ้างช่วยเหลือรับเงินบำเหน็จ สุดท้ายลวงติดตั้งแอปฯดูดเงิน สูญ 5.4 แสนบาท

วันที่ 21 ก.พ.68 เวลา 16.00 น. ที่บริเวณชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ บช.สอท. (เมืองทองธานี) นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์ จับกุมแก๊งหลอกข้าราชการบำนาญ อ้างช่วยเหลือรับเงินบำเหน็จดำรงชีพ สุดท้ายลวงติดตั้งแอปพลิเคชันดูดเงิน เสียหายมากกว่า 500,000 บาท

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 16 ก.พ.68 ได้มีสามีของผู้เสียหายวัย 66 ปี ซึ่งได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกโครงการ Seniors' Community Cyber Police และได้ร่วมรับฟังบรรยายจาก ผบช.สอท. โดยได้ขอความช่วยเหลือเนื่องจากถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลวงให้ติดตั้งแอปฯดูดเงิน จนสูญเงินกว่า 540,000 บาท 


โดยภรรยาวัย 66 ปี ได้รับโทรศัพท์ ซึ่งโทรมาที่เครื่องของสามี โดยปลายสายเป็นหญิง แจ้งว่า เป็นอาจารย์ อ้างว่าสามีของตน ยังไม่ได้รับเงินบำเหน็จดำรงชีพ จากกองคลังของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง และจะช่วยลงทะเบียนให้ เพื่อให้ได้รับเงินบำเหน็จก้อนนี้ ผู้เสียหายจึงอาสาทำแทนสามี จึงได้แจ้งหมายเลขโทรศัพท์ให้คนร้าย จากนั้น คนร้ายได้ส่งลิงก์มาทาง SMS ให้เพิ่มเพื่อนทางไลน์ ชื่อ “กองบริหารการคลัง” ต่อมา ได้มีการวิดีโอคอล แต่ไม่ได้แสดงใบหน้าให้เห็นภาพของคนร้าย 

จากนั้น คนร้ายได้ส่งลิงก์ให้ดาวน์โหลด อ้างว่า เพื่อประสานกับกรมบัญชีกลางของกระทรวงการคลัง เป็นผู้ดำเนินการต่อ ก่อนส่งอีกลิงก์ปรากฏรูปและข้อความว่า “Digital Pension - แอปพลิเคชันใน Google play ระบบบำเหน็จบำนาญและสวัสดิการรักษาพยาบาล” ทำให้หลงเชื่อว่า เป็นแอปฯของกระทรวงการคลังจริง จึงได้ติดตั้งลงโทรศัพท์ โดยระหว่างติดตั้ง ระบบค้างอยู่ที่ 20% ระหว่างนี้คนร้ายได้โทรไลน์มาพูดสายตลอด เป็นเวลาประมาณ 35 นาที เพื่อดึงดูดความสนใจ



ระหว่างนั้น สามีร่วมพูดคุยอยู่ด้วย คนร้ายจึงได้บอกให้ผู้เสียหายโอนเงินจากบัญชีของสามี เข้าบัญชีธนาคารของภรรยา เพื่อสะดวกแก่การตรวจสอบ และคนร้ายยังสอบถามเลขบัตรประชาชนของผู้เสียหาย จึงมั่นใจว่าเป็นมิจฉาชีพและได้กดวางสายไป ตรวจสอบพบว่า โทรศัพท์มือถือไม่สามารถทำรายการได้ และไม่สามารถปิดเครื่องได้ ก่อนพบข้อความว่า มีเงินถูกโอนออกจากบัญชีภรรยา จำนวน 540,000 บาท

จากการสืบสวนเบื้องต้น พบว่า มีการโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของคนร้ายแถวที่ 1 จำนวน 1 ครั้ง ชื่อบัญชี นายภูวนัย เป็นจำนวนเงิน 540,000 บาท และมีบัญชีธนาคารที่รับโอนเงินจากผู้เสียหายอีกหลายบัญชี น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด


ล่าสุดวันที่ 20 ก.พ.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันจับกุม นายภูวนัย (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ในข้อหา "ร่วมกันลักทรัพย์โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน , โดยทุจริตหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็รนเท็จฯ , เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบและข้อมูลคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน , ทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข แก่ทรัพย์สินของผู้อื่น และเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากฯ" โดยควบคุมตัวได้บริเวณริมถนนเทศบาล 7 หมู่ 3 ต.โพทะเล อ.โพทะเล จ.พิจิตร นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน






      


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง