ไฟไหม้บ่อขยะเนื้อที่ 50 ไร่ คาดฝีมือคน

เมื่อช่วงสาย วันที่ 8 ก.พ.68 ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 บ้านชำโสม ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ่อทิ้งขยะ ได้ประสานหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.กบินทร์ ลงทำการระงับเหตุ เบื้องต้น จุดที่ได้รับแจ้งเป็นลานทิ้งขยะของ อบต.กบินทร์ มีเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ พบกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เห็นได้ในระยะไกลมากกว่า 4 กม.โดยบริเวณลานทิ้งขยะดังกล่าว พบกองขยะแบ่งออกมากกว่า 3 กองขนาดใหญ่ ส่วนมากเป็นเศษถุงพลาสติก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงได้อย่างดี เจ้าหน้าที่ทั้งหมดยังไม่สามารถที่จะควบคุมเพลิงได้ ต้องรอให้รถแบคโฮเข้ามาทำการเกลี่ยกองเพลิง ก่อนจะมีการสกัดเพลิง 

คาดว่า จะใช้เวลาในการควบคุมเพลิงในครั้งมากกว่า 10 ชั่วโมง จากการตรวจสอบภาพมุมสูง พบว่า กลุ่มควันไฟได้พวยพุ่งขึ้นเป็นระยะๆ บวกกับลมที่กระโชกมา ซึ่งกลุ่มควันได้ลอยเข้าไปยังฟาร์มไก่ของผู้ประกอบการที่อยู่ด้านหลังบ่อขยะ ผู้ประกอบการหวั่นว่า ไก่อาจจะน็อกตายได้ เนื่องจากสำลักควัน

จากการสอบถาม นายวินัย นามพิลา อายุ 42 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 บ้านชำโสม กล่าวว่า หลังรับแจ้ง ได้มาตรวจสอบ ก่อนประสานทางรถดับเพลิงของ อบต.กบินทร์ มาทำการดับเพลิง โดยเพลิงได้กระจายออกเป็นวงกว้าง จึงได้ประสานทางรถดับเพลิงของอบต.ย่านรี และ อบต.เขาไม้แก้ว ลงพื้นที่ช่วยเหลือ ซึ่งไฟขยายวงกว้างและระอุอยู่บริเวณฐานด้านล่างของกองขยะ จึงได้ประสานรถแบคโฮ เข้ามาทำการเกลี่ยขยะ ก่อนที่จะมีการใช้น้ำฉีด 

ส่วนสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ชาวบ้านแจ้งว่า เกิดเพลิงไหม้ช่วงบริเวณกลางกองขยะ ตนจึงคิดว่าน่าจะเป็นฝีมือของมนุษย์ จึงอยากจะฝากถึงคนที่มาเก็บขยะว่า อย่าได้จุดไฟ เพราะช่วงนี้ก็มีการรณรงค์ในเรื่องของฝุ่น PM 2.5 ด้วย และเป็นมาตรการของทางจังหวัด จึงขอวอนว่าอย่าจุดไฟเผา เพราะเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชน และบริเวณด้านหลังบ่อขยะตรงนี้ ก็จะเป็นฟาร์มไก่ของชาวบ้าน

ส่วนนายณัฐพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ของฟาร์มไก่ที่อยู่ใกล้บ่อขยะ ระบุว่า ปีนี้ตนได้รับผลกระทบในเรื่องควันไฟมาแล้ว 2 รอบ ซึ่งรอบแรก เป็นช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยกลุ่มควันไฟลอยมาทางฟาร์มไก่ของตน แต่ดีที่ทางเจ้าหน้าที่ สามารถระงับเหตุได้เร็ว ส่วนครั้งนี้กลุ่มควันไฟลอยมาเยอะ และมีความเสี่ยงในเรื่องควันไฟที่จะลอยเข้าบริเวณเล้าไก่ของตน จะผลกระทบของไก่ที่เลี้ยงไว้จำนวน 2 แสนตัว อาจน็อกตายได้ 

อยากกราบวิงวอนถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าควรที่มาตรการที่รัดกุมและการป้องกันมากกว่านี้ เพื่อไม่ให้ชาวบ้านหรือผู้ประกอบการ ได้รับผลกระทบในเรื่องกลุ่มควันไฟ และควรตรวจสอบด้วยว่า ไฟไหม้เกิดจากสาเหตุอะไร

ด้านนายธรรมรัฏฐ์ งามแสง นายอำเภอกบินทร์บุรี หลังจากได้รับแจ้งได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และได้ให้เจ้าหน้าที่ไปแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี ให้ลงตรวจสอบและเร่งติดตามผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ เนื่องจากว่าเป็นคำสั่งของทางจังหวัดที่ห้ามไม่ให้มีการเผาอย่างเด็ดขาด - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน