รถพ่วงเสยรถประกวดงานบุญบั้งไฟ ดับ 1 เจ็บ 3 ราย

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 มิ.ย.68 พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุทัยธานี ได้รับแจ้งอุบัติเหตุบนถนสายอุทัยธานี-มโนรมณ์ ก่อนถึงตัวเมืองอุทัยธานี 1 กิโลเมตร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมอาสามูลนิธิกู้ภัยอุทัยธานี เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้สอบถาม นายนราชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ให้ข้อมูลว่า ได้เดินทางมาจาก จ.ร้อยเอ็ด เพื่อที่จะนำรถที่ประดับตกแต่งมาประกวดในงานประเพณีบุญบั้งไฟที่ จ.อุทัยธานี ประจำปี 2568 จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 21-22 มิ.ย.68 ซึ่งจัดขึ้นบริเวณอ่างเก็บน้ำทับเสลา ต.ระบำ อ.ลานสัก โดย อบจ.อุทัยธานี เป็นผู้จัดงาน 

พอขับเลยวัดท่าซุงมาแล้วก็แวะกินข้าวกันข้างทาง หลังจากที่กินข้าวเสร็จ กำลังจะออกรถโดยเตรียมตัวขึ้นรถแล้ว คนขับรถประดับตกแต่งที่เรียกกันว่า "พ่อใหญ่เบิ้ม" อายุ 70 ปี (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลเพราะคนที่มาด้วยกันก็ไม่รู้และยังติดต่อญาติไม่ได้) กำลังก้มดูตรวจความเรียบร้อยก่อนจะออกรถ จากนั้นก็ได้ยินเสียงดังสนั่นจากด้านหลัง พบว่ามีรถบรรทุกพ่วงชนเข้าอย่างแรง 

โดยมากันทั้งหมด 6 คน ซึ่งได้รับบาดเจ็บ 3 คน ทางอาสากู้ภัยเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลอุทัยธานี อาการ 2 คนบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนอีกคนมีแผลฉีกขาดค่อนข้างสาหัส ส่วน "พ่อใหญ่เบิ้ม" นั้นเสียชีวิตคาที่ ถูกล้อรถทับอยู่ และรถประดับตกแต่งยังไหลไปชนรถที่จอดไว้ข้างหน้า ยี่ห้อฮฮอนด้า สีบรอนซ์ ทอง ทะเบียน XXฉ-XX73 อุทัยธานี เคราะห์ดีที่ไม่มีใครอยู่ในรถ

ด้านนายกฤษณะ (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี คนขับรถพ่วง ทะเบียน X4-XX31 นครสวรรค์ เปิดเผยว่า ได้ขับรถเปล่ามาเพื่อจะไปบรรทุกข้าวที่ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ มากับภรรยาและลูกสาววัย 5 ขวบ พอมาถึงบริเวณดังกล่าว ลูกสาวได้ยื่นโทรศัพท์มือถือให้ และให้เปิดเพื่อดูการ์ตูน จึงรับโทรศัพท์มือถือจากลูกที่นั่งอยู่ด้านหลัง พอหันมาดูถนนรถก็ชนอล้ว เจ้าตัวยืนยันว่า ไม่ได้ดื่มสุรามา แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จะทำการตรวจวัดแอลกอฮอล์ หลังจากที่เคลียพื้นที่เสร็จแล้ว เพราะรถได้ขวางถนนอยู่ จากนั้น จะนำตัวไปยัง สภ.เมืองอุทัยธานี เพื่อสอบปากคำและตั้งข้อกล่าวหาต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า รถที่ประดับตกแต่งที่มาถูกชนนั้น มาประกวดงานประเพณีบุญบั้งไฟทุกปี และได้แชมป์ประเภทสวยงามทุกปี แต่น่าเสียดายในปีนี้ไปไม่ถึงงานประกวดที่ อ.ลานสัก ทางตำรวจกำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อเป็นหลักฐาน ส่วนทาง "พ่อใหญ่เบิ้ม" นั้น ญาติที่อยู่ จ.ร้อยเอ็ดก็ยังไม่รู้ว่า "พ่อใหญ่เบิ้ม" เสียชีวิต เพราะจากการสอบถามผู้ที่มากับรถ ไม่มีใครรู้ แม้กระทั่งเบอร์โทรศัพท์ของครอบครัวพ่อใหญ่เบิ้ม - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน