รวบ 2 อิหร่านร่วมกันปล้นทรัพย์หนุ่มเวียดนาม 150,000 บาท

รวบ 2 อิหร่านร่วมกันปล้นทรัพย์หนุ่มเวียดนาม 150,000 บาท

36207 ม.ค. 68 16:01   |     Tum1

รวบ 2 ชายหญิงชาวอิหร่าน ร่วมกันปล้นทรัพย์หนุ่มเวียดนาม 150,000 บาท หลังกดเงินสดมานั่งเล่นริมถนนย่านเยาวราช

เมื่อวันที่ 7 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.วิทวัส เข่งคุ้ม ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 พร้อมด้วย ตำรวจ สน.พลับพลาไชย 2 ได้จับกุม 1.MR.AMER HOSSEIN NIAZIFAR อายุ 34 ปี สัญชาติอิหร่าน กับ MISS SAFIEH LATIF DAVOUD อายุ 35 ปีสัญชาติอิหร่าน ในข้อหา "ร่วมกันปล้นทรัพย์ ฯ" ริมถนนเยาวราช แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 6 ม.ค.68 เวลาประมาณ 22.45 น.ที่ผ่านมา หลังจาก นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติชายชาวเวียดนาม อายุ 27 ปี ขอความช่วยเหลือให้จับกุมคนร้ายร่วมกันชิงทรัพย์ ที่บริเวณหน้าโรงแรมรอยัลโฮเทล ถนนเยาวราช เมื่อวันที่ 6 ม.ค.68 เวลาประมาณ 22.36 น.

เมื่อตำรวจชุดจับกุมทราบเรื่อง จึงได้รีบเดินทางเพื่อไประงับเหตุ เมื่อเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ พบผู้เสียหาย 2 คน กำลังวิ่งไล่คนร้าย ซึ่งมีลักษณะเป็นชาวต่างชาติชายและหญิง จำนวน 3 คน ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ไล่ติดตามและสามารถควบคุมคนร้ายก่อเหตุ เป็นผู้ชายและหญิงไว้ได้ จำนวน 2 คนดังกล่าว 


จากการสอบถามเบื้องต้น พบว่า ผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คนเป็นบุคคลสัญชาติอิหร่าน ไม่สามารถสื่อสารเป็นภาษาไทยได้ ตำรวจจึงได้ประสานขอล่ามใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร และควบคุมตัวคนร้ายทั้ง 2 คน ไปที่ สน.พลับพลาไชย 2 พร้อมกับแนะนำให้ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อร้อยเวรสอบสวน ที่ สน.พลับพลาไชย 2 



สอบถาม ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติเวียดนาม ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปกดเงินสดจำนวน 150,000 บาท มาไว้ในกระเป๋าคาดเอว จากนั้น ได้นั่งเล่นอยู่บริเวณหน้าโรงแรมรอยัลโฮเทล ถนนเยาวราช ต่อมา ได้มีคนร้ายเป็นชาวต่างชาติชาย 2 คนและหญิง 1 คน ทำทีเข้ามาพูดคุยด้วย ก่อนจะขอดูเงินในกระเป๋า ซึ่งตนได้ให้ดู 

จากนั้น คนร้ายได้เข้ามายื้อแย่งเงินในกระเป๋าและหยิบเงินออกไปได้ แต่ตนได้แย่งกลับคืนมาได้จำนวน 100,000 บาท ก่อนที่คนร้ายทั้ง 3 คน จะเข้ามาบีบคอตนและกระชากคอเสื้อ จับคอแล้วได้ยกตัวตนขึ้น ทำให้ไม่สามารถขยับตัวได้ คนร้ายอีก 1 คน ได้เงินไปจำนวน 50,000 บาทและหลบหนีไปได้ 


ต่อมาตำรวจชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนและตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่า เมื่อวันที่ 6 ม.ค.68 เวลา 22.28 น. ตามเวลากล้องโรงแรมรอยัลโฮเทลฯ พบผู้เสียหายนั่งอยู่บริเวณหน้าโรงแรม จากนั้นได้มีคนร้ายเป็นชาวต่างชาติ 3 คน ได้เดินเข้ามาหาผู้เสียหาย ทำทีขอดูโทรศัพท์และกระเป๋าจากผู้เสียหาย โดยคนร้ายซึ่งหลบหนีไป ได้ยื้อแย่งกระเป๋าจากผู้เสียหายจริง และได้เงินไปจำนวน 50,000 บาทหลบหนีไป



จากการตรวจสอบ คนร้ายเป็นชายและหญิงชาวอิหร่าน ทั้ง 2 คน พบเอกสารใบอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานในราชอาณาจักร จากการตรวจสอบผู้ต้องหาที่ 1 ( MR.AMER) พบว่าใบอนุญาตฯได้สิ้นสุดแล้ว ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 (MISS SAFIEH) มีเอกสารใบอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร 

จากการสอบถาม MR.AMER และ MISS SAFIEH ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ซึ่งไม่สามารถพูดและเข้าใจภาษาไทยได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ประสานล่ามแปลภาษาอังกฤษ ใช้ในการสื่อสารกับผู้ถูกจับ ผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา จากนั้นได้ให้ ผู้เสียหายทั้ง 2 คน ชี้ยืนยันผู้ก่อเหตุ ยืนยันว่าคนร้ายทั้ง 2 กับคนร้ายที่หลบหนี เป็นผู้ร่วมก่อเหตุปล้นทรัพย์จริง  

ตำรวจชุดจับกุม มีหลักฐาน เชื่อได้ว่า ผู้ก่อเหตุชาวอิหร่านทั้ง 2 คน พร้อมกับพวกที่หลบหนี ได้ก่อเหตุจริง เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาที่ 1 ว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันปล้นทรัพย์ , เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทย โดยการอนุญาตสิ้นสุด” ส่วน ผู้ต้องหาที่ 2 กล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันปล้นทรัพย์”  ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง