แม่ "พีม มือสาดน้ำซุป" ยันไม่มีเงินประกันตัว บอกอยากให้ลูกอดทน และใช้ชีวิตที่เหลือต่อไปให้ได้

(11 ก.พ. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศช่วงเช้า ที่ สภ.คลองหลวง โดยพบว่าล่าสุดมีผู้ต้องหาในกรณีเหตุความรุนแรงของกลุ่ม LGBTQ สาดน้ำซุป รวมทั้งสิ้น 8 ราย คือ นายรษิภา (พีม) , นายชคัทพล (โอชิ) , นายนพคุณ (จั๊ก) , นายดลลธี (พอล) , น.ส.อุ้มบุญ (อุ้มบุญ) , น.ส.กันยาพัชร (พิมเจล) , น.ส.วรัญญา (แบม) , นายภราดร (ไอซ์)

โดย 2 ราย พีม กับ โอชิ เบื้องต้นวันนี้จะครบกำหนดส่งตัวฝากขังศาลธัญบุรี หลังจากที่เลื่อนมาจากเมื่อวานนี้ เบื้องต้นทั้ง 2 ราย ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา กรรโชกทรัพย์ และ ทำร้ายร่างกาย ขณะที่อีก 6 รายที่เหลือ ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันกรรโชกทรัพย์

แม่ยุ้ยและพ่อของพีม เดินทางเข้ามาเยี่ยมลูกชายพร้อมนำข้าวเหนียวหมูเข้ามาให้ โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่เปิดให้ญาติได้คุยกับผู้ต้องหา พีมได้บอกกับแม่ว่าอยากได้แปรงสีฟันกับยาสีฟัน ซึ่งแม่ยุ้ยยังได้ให้กำลังใจลูกชาย โดยบอกว่าอยากให้ลูกอดทน และใช้ชีวิตที่เหลือต่อไปให้ได้ ทั้งนี้แม่ยุ้ยยังคงยืนยันว่าไม่ได้มีการเตรียมหลักทรัพย์ในการประกันตัวลูกในชั้นศาลแต่อย่างใด ที่ผ่านมาตนเองยอมรับว่าอาจจะเป็นแม่ที่บกพร่อง แต่ในส่วนเรื่องของการเรียน แม่ก็พยายามเติมเต็มให้ดีที่สุด ต้องหากู้ยืมเงินจากบริษัทมาเพื่อจ่ายเป็นค่าเทอมให้ลูก ส่วนเรื่องที่ลูกเรียนจบไปแล้ว แต่มีการลงเรียนใหม่ ตัวแม่เองก็เพิ่งทราบข่าวเมื่อวานนี้จากทางมหาลัย แต่ด้วยเหตุผลอะไรนั้นตนเองไม่ทราบ รู้เพียงแต่ลูกชายบอกว่ามีปัญหาเรื่องฝึกงาน

ต่อมาเวลาในไล่เลี่ยกันได้มีกลุ่มเพื่อนของพีมเดินทางเข้ามาเยี่ยม โดยตัวแทนของกลุ่มเพื่อนพีม อายุ 24 ปี เป็นเพื่อนของนายพีม เผยว่า พีมก่อเหตุจริงตามคลิปวิดีโอ ส่วนตัวเองรู้จักกับพีมมานานแล้วตั้งแต่สมัยยังแต่งหญิง ซึ่งก่อนหน้านี้พีมไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนี้ แต่หลังจากเรียนจบก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย ตอนนี้รู้สึกไม่โอเคที่เพื่อนที่เคยรู้จักกัน มาก่อเหตุทำร้ายคนอื่น ตัวเองไม่สนับสนุนความรุนแรง แต่ก็ยังไม่ทราบว่านายพีม มีเหตุจูงใจอะไรที่ก่อเหตุแบบนี้ เชื่อว่าถึงขั้นนี้แล้วพีมก็ต้องสำนึกกับการกระทำของตัวเอง และอยากให้พีมกลับมาเป็นคนดีคนเดิม

นอกจากนี้ยังมี นายรัมย์ ธนษา ทนายความส่วนตัว ของ นายดลลธี หรือ (พอล) ได้เข้ามาเยี่ยมลูกความ โดยเปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากพี่สาวของพอล ให้เข้ามาช่วยเหลือด้านคดี เป็นทนายความให้นายพอลเพียงคนเดียว ไม่ได้เป็นทนายความให้กับคนอื่นๆ ก่อนที่จะไปพูดคุยกับนายพอล ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อเตรียมต่อสู้คดีหลังจากนี้