ชวนกันไปเล่นน้ำ ด.ช.12 ปี จมคลองดับต่อหน้าเพื่อนๆ

ที่ จ.หนองคาย เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. คืนที่ผ่านมา (3 ก.ค.67) ร.ต.ต.ปิยวัฒน์ กำเนิดเกิด หัวหน้าศูนย์บริการประชาชน ต.โคกคอน อ.ท่าบ่อ รับแจ้งเหตุเด็กจมน้ำเสียชีวิต ที่ "คลองอีเฮียง" พื้นที่หมู่ 7 บ้านกลางน้อย ต.บ้านว่าน จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย กำนัน-ผญบ.และผู้นำท้องถิ่น (อปท.) พร้อมประสานนักประดาน้ำ จากหน่วยกู้ภัยร่วมใจอำเภอท่าบ่อ และหน่วยกู้ภัยที่อยู่ใกล้เคียง รวมทั้งกู้ภัยตำรวจทางหลวงอุดรธานี จุดบริการ อ.บ้านผือ ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ เป็นพื้นที่ชลประทาน ของ ต.บ้านว่าน ที่มีคลองหลายสายเชื่อมต่อกันใน 2 ตำบล คือ ต.โคกคอน กับ ต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ โดย "คลองอีเฮียง" มีความยาวกว่า 2 กิโลเมตร ความลึกประมาณ 4-5 เมตร ขณะที่ช่วงนี้เกิดฝนตกในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำในคลองเพิ่มระดับสูงขึ้น เจ้าหน้าที่พบชาวบ้านยืนอยู่ริมคลอง พร้อมชี้จุดให้เจ้าหน้าที่ประดาน้ำลงค้นหาร่างของเด็กที่สูญหาย ทราบชื่อต่อมา ด.ช.รัชชานนท์ หรือ น้องเฟลม (สงวนนามสกุล) อายุ 12 ปี บ้านอยู่หมู่ 7 บ้านกลางน้อย ต.บ้านว่าน เจ้าหน้าที่ใช้เวลาค้นหาประมาณ 3 ชั่วโมง จึงพบร่างจมอยู่ใต้น้ำลึก ก่อนนำร่างขึ้นมาให้แพทย์จาก รพ.สมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ มาชันสูตรพลิกศพ และได้มอบให้ญาตินำศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

สอบถาม ด.ช.บอย (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี เพื่อนที่เล่นน้ำด้วยกัน ทราบว่า หลังเลิกเรียนพวกตนชวนกันมาเล่นน้ำ จำนวน 4 คน ขณะที่เล่นน้ำอยู่ ด.ช.รัชชานนท์ ได้จมหายไปต่อหน้าเพื่อนๆ โดยที่พวกตนไม่สามารถช่วยไว้ได้ จึงรีบขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในหมู่บ้าน เพื่อตามผู้ใหญ่มาช่วย

ด้านนายคม (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี ปู่ของ ด.ช.รัชชานนท์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า หลานชายเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ปกติเลิกเรียนแล้วก็จะเล่นกับเพื่อนๆที่บ้าน ตนไม่รู้ว่าวันนี้หลานได้แอบมาเล่นน้ำ ถ้าตนรู้ก็จะห้าม เพราะช่วงนี้ตามลำคลองในพื้นที่มีระดับน้ำที่สูง ส่วนพ่อกับแม่หลานทำงานอยู่ประเทศเกาหลีใต้ ตอนนี้ทราบเรื่องแล้ว ซึ่งทุกคนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายยงค์ยุทธ์ อุดมชัย กำนันตำบลบ้านว่าน กล่าวว่าที่ผ่านมาตนได้ประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนตลอด เรื่องห้ามเด็กๆ ไม่ให้ไปเล่นน้ำในช่วงนี้ เนื่องจาก น้ำตามลำคลองในพื้นที่มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น จากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับกรณีนี้ ตนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวที่สูญเสีย และจะได้ประชาสัมพันธ์แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านในพื้นที่ สอดส่องดูเด็กๆอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก