"สาวขับเบนซ์" งัดหลักฐาน เปิดคลิปวงจรปิดวันเกิดเหตุ โต้หนุ่มขับแท็กซี่
"สาวขับเบนซ์" งัดหลักฐาน เปิดคลิปวงจรปิดวันเกิดเหตุ โต้หนุ่มขับแท็กซี่
ดูชัดๆ "สาวขับเบนซ์" งัดหลักฐาน เปิดคลิปวงจรปิดวันเกิดเหตุ โต้หนุ่มขับแท็กซี่
จากกรณีเหตุวิวาทระหว่างสาวขับเบนซ์และหนุ่มขับแท็กซี่ ภายในคอนโดแห่งหนึ่งย่านพระราม 9 และได้มีการไลฟ์สด อ้างว่า สาวขับเบนซ์เมาแล้วขับ อีกทั้งพยายามขับรถพุ่งชนตนเองอีกด้วย ลงในสื่อโซเชียล โดยมีการตะโกน ซึ่งหลังเกิดเหตุ มีเพียงฝ่ายแท็กซี่หนุ่ม ที่ออกมาให้ข้อมูล กับสื่อมวลชนแขนงต่างๆ
(13 ส.ค.67) นางสาวบี คู่กรณี เล่าว่า ในวันเกิดเหตุเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ ตนได้ขับรถ เพื่อจะกลับที่พักภายในคอนโดแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 9 กระทั่งมาถึงทางเข้าคอนโดได้มีรถแท็กซี่ ขับย้อนเลนมาบนถนนพระราม 9 ด้วยความเร็ว เพื่อจะเลี้ยวเข้าคอนโดด้วยเช่นกัน โดยตนเองก็ได้มีการเปิดกระจกแล้วตะโกนไปว่า "ขับรถแบบนี้ได้อย่างไร" ซึ่งยืนยันว่า ตอนเกิดเหตุช่วงแรก ไม่ได้มีการด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรง
จากนั้นตนเองจึงขับรถเข้าคอนโดตามปกติ ซึ่งการที่แท็กซี่คันดังกล่าวขับย้อนเลนมา สามารถสอบถาม รปภ.ที่ทำหน้าที่อยู่ตอนนั้นได้ ระหว่างที่กำลังถอยรถอยู่นั้นเอง แท็กซี่คันดังกล่าวก็ขับเข้ามาด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้าเป็นเรื่องปกติรถคันที่ขับตามมาจะเบี่ยงขวาเพื่อหลบ หรือไม่ก็จอดรอ ให้รถคันที่กำลังถอย ถอยเข้าช่องจอดให้เรียบร้อย ตามมารยาทของคนขับรถทั่วไป แต่แท็กซี่คันดังกล่าว กลับเข้ามาด้วยความเร็ว โดยเฉียดหน้ารถตัวเองไปนิดเดียว ลักษณะเหมือนจะหาเรื่อง
หลังจากเลยหน้ารถตัวเองไปจึงชะลอและกลับรถด้วยความโมโห เหมือนแท็กซี่คันดังกล่าวจะไม่ยอมจบ ตนเองจึงเดินรถไปชี้หน้าและถามว่า "ยังไม่จบใช่ไหม" แท็กซี่คันดังกล่าวก็ได้ตอบโต้มาด้วยถ้อยคำที่หยาบคายมีการด่าทอถึงบุพการี จึงเพิ่มโทสะ เดินไปกระชากคอเสื้อ ต่อจากนั้น คนขับแท็กซี่คันดังกล่าว ได้ลงมาจากรถและเริ่มทำร้ายร่างกายตนเอง จนกระทั่ง รปภ. ที่เห็นเหตุการณ์เริ่มเข้ามากันเยอะขึ้นชายคนดังกล่าวก็ได้หยิบมีดในรถออกมาทำร้ายตนเอง ด้วยซึ่งทำให้เกิดบาดแผลที่แขน แล้วได้มีการไปตรวจร่างกาย ที่โรงพยาบาลตำรวจ ไว้เพื่อเป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว
ส่วนกรณีประเด็น ที่มีการตะโกนว่าตนเองเมาแล้วขับนั้น ยอมรับว่าในวันดังกล่าว ตนเองได้ไปดื่ม สังสรรค์มาจริง แต่ก็เป็นการดื่มเพียงเล็กน้อย ซึ่งจะเห็นได้จากกล้องวงจรปิดถ้าตนเองมีอาการเมามากจะสามารถขับรถถอยเข้าช่องจอดได้อย่างไร และที่มีการอ้างอิงว่าตนเองขับรถไล่ชน ยืนยันว่าไม่ได้เป็นความจริงแต่อย่างใด
ซึ่งคลิปหลักฐานกล้องวงจรปิดจะสามารถอธิบายได้ชัดเจน ตนมีเจตนาแค่เพียงกลัวแท็กซี่คันดังกล่าวจะหลบหนี หลังจากทำร้ายร่างกายแล้ว จึงตัดสินใจขึ้นไปขับรถแท็กซี่คันดังกล่าว ไปเกยไว้กับทางเท้าและไม่ได้มีการขับชนกำแพงอย่างที่กล่าวอ้าง
ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวอ้างว่าตนเองควงมีดก็ไล่แทงรอบรถ ในคลิปวงจรปิดก็อธิบายได้ชัดเจนเช่นกัน เพราะหลังจากที่ตนหยิบมีดที่คนขับแท็กซี่คันดังกล่าวทำหล่น ก็ได้มีเพื่อนบ้าน ที่เป็นตำรวจที่ผ่านมาพอดี และ รปภ. มาช่วยกันจับตนเองออกไปก่อน ซึ่งต้องยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนา ที่จะไล่แทง เพียงแต่หยิบมา เพื่อให้รปภ.ช่วยเก็บไว้ก่อน เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับตัวเอง
ส่วนในกรณีที่มีการอ้างในไลฟ์สด และให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆ ถึงบุคคลที่ 3 ว่าเป็นสามีตนเอง และเป็นตำรวจที่มาเข้าข้าง และคอยช่วยเหลือนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะตำรวจคนดังกล่าว เป็นเพียงเพื่อนร่วมคอนโดที่ผ่านมาประสบเหตุ และเข้าห้ามปรามเท่านั้น ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆนั้น ใครทำอะไรบ้าง ในเหตุการณ์ดังกล่าวกล้องวงจรปิด สามารถบันทึกภาพพฤติกรรมไว้ได้ทั้งหมด
นางสาวบี ยังยืนยันอีกว่า การเป่าตรวจวัดแอลกอฮอล์ในวันนั้น ไม่ได้มีการประวิงรอเวลาเหมือนที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด หากไล่เวลาดู เหตุเกิดตั้งแต่ 24.40 น. กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมา ระงับเหตุ จนกระทั่งไปถึง สน. ซึ่งตนเองมั่นใจว่า เวลาที่เป่าเพื่อตรวจวัดแอลกอฮอล์ น่าจะประมาณ 02:00 น . กว่าๆ ไม่ใช่เป่า ตอนตี 4 เหมือนกับที่คนขับแท็กซี่ กล่าวอ้างอย่างแน่นอน เพราะจำได้ว่าตอน 04:00 น. ตนเองอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจแล้ว
ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ได้จากทาง พ.ต.อ. ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง ว่าเวลา บันทึกการเป่า ได้มีการระบุ วัน-เวลา ไว้อย่างชัดเจน เป็นเวลา 02:44 น. พ.ต.อ.ประสพโชค ยังฝากยืนยันอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะยืนยันตามข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานที่ปรากฏ และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย