โวยทุนต่างชาติตั้งโรงปลูกกัญชากลางชุมชน กลิ่นเหม็นกระทบชาวบ้าน
โวยทุนต่างชาติตั้งโรงปลูกกัญชากลางชุมชน กลิ่นเหม็นกระทบชาวบ้าน
ชาวบ้าน 3 ชุมชนในพื้นที่เทศบาลเมืองชัยภูมิ ร้องเรียนนายทุนต่างชาติแห่ตั้งโรงปลูกกัญชากลางชุมชน ส่งกลิ่นเหม็นเป็นมลพิษทางอากาศ กระทบคนในพื้นที่
(5 ธ.ค. 67) ชาวบ้านใน 3 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ประกอบด้วยชุมชนใหม่พัฒนา ชุมชนคลองเรียงและชุมชนโคกน้อย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ กำลังได้รับความเดือดร้อนหนักจากกลิ่นเหม็นของโรงงานปลูกกัญชา ที่มาสร้างโรงเรือนในพื้นที่กลางชุมชน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างรุนแรง
นอกจากปัญหาด้านสุขภาพ ยังส่งผลกระทบการดำเนินชีวิตของประชาชนคนในชุมชนในด้านเศรษฐกิจ การสูญเสียรายได้ เนื่องจากชุมชนนี้ได้ชื่อว่าเป็นชนบทในเมือง ลักษณะทางกายภาพสิ่งแวดล้อมสุขสงบ อากาศบริสุทธิ์ เป็นหมู่บ้านที่มีผู้ป่วย ผู้สูงอายุและเด็กเล็ก จำนวนมาก แต่เมื่อมีการทำโรงเรือนปลูกกัญชากลางชุมชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นพืชควบคุม และต้องขออนุญาตการปลูก โดยทั้ง 3 ชุมชนเป็นชุมชน ที่มีประชากรค่อนข้างหนาแน่น และเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ มากกว่าอาชีพเกษตรกร มีหมู่บ้านและบ้านเช่าจำนวนมาก จึงไม่ควรมีการอนุญาตปลูกกัญชาในพื้นที่
การอนุญาตปลูกกัญชา ทำให้วิถีชีวิติของชุมชนต้องเปลี่ยนไป ต้องใช้ชีวิตที่เสี่ยงต่อมลพิษจากกลิ่นกัญชาตลอดเวลา ทั้งกลางวันและกลางคืน จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน จึงต้องการเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบและพิจารณาระงับหรือยกเลิกใบอนุญาตการปลูกกัญชาเชิงพาณิชย์ของผู้ประกอบการในพื้นที่ชุมชนแห่งนี้เป็นการด่วนด้วย
ชาวบ้านในชุมชนรายหนึ่งที่ได้รับความเดือดร้อน ระบุว่าโรงงานปลูกกัญชาของนายทุนต่างชาติได้มาเช่าที่ก่อสร้างโรงงานปลูกกัญชาอยู่ติดบ้านของชาวบ้านรายหนึ่ง โดยเจ้าของบ้านเป็นผู้ป่วยที่นอนพักฟื้น หลังการผ่าตัด จึงได้รับกลิ่นโดยตรง ซึ่งนอกจากเจ้าของบ้านหลังนี้แล้ว ยังมีชาวบ้านในชุมชนอีกหลายรายที่มีอาการป่วยและแพ้กลิ่นกัญชา
ชาวบ้านหลายรายต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หลังจากโรงงานของชาวต่างชาติมาเช่าที่ดินก่อสร้างปลูกกัญชาในพื้นที่ ประชาชนในหมู่บ้านต่างได้รับผลกระทบจากกลิ่นและเสียงจากเครื่องปรับอากาศเป็นบริเวณกว้างนับ 100 เมตร กลิ่นเหม็นที่รุนแรงมากตลบอบอวลไปตามสายลม ทำให้ทุกคนต้องปิดบ้านกันไม่ให้กลิ่นลอยเข้าบ้าน แล้วก็ใช้เครื่องฟอกอากาศอยู่ตลอดเวลา
นานวันเข้า ชาวบ้านได้ร้องเรียนแจ้งเหตุถึงเดือดร้อนรำคาญ ที่ศูนย์ดำรงธรรม และกองสิ่งแวดล้อม สำนักงานเทศบาลฯ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด แม้เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบและสั่งแก้ไขแล้ว แต่สถานการณ์ก็ไม่ดีขึ้น
ชาวบ้านในชุมชนหลายรายไม่กล้าออกมาต้านโรงงานดังกล่าว เพราะเกรงกลัวอิทธิพลของนายทุนข้ามชาติ และยอมรับว่าโรงงานกัญชาขออนุญาตตามกฎหมาย แต่เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องกฎหมายแต่เป็นเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย โรงงานไม่ควรมาตั้งที่กลางชุมชนตั้งแต่แรก เพราะส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน ความต้องการของชาวบ้านในตอนนี้อยากให้โรงงานกัญชาย้ายออกจากพื้นที่ชุมชน
---------------
ข่าวเวิร์คพอยท์23