หนุ่มร้อง ปอศ.ตรวจสอบ “กามิน” ทำงานถูกกฎหมายไหม

(26 พ.ย. 67) ที่หน้าตลาดนัดรถไฟ แดนเนรมิตเก่า นายทรงชัย เนียมหอม หรือ โอม ปภส.(ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน) เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถึง พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผบก.ปอศ.)พร้อมหลักฐานที่รวบรวมมาให้ให้ดำเนินการสอบสวนชาวต่างชาติชื่อ จี กามิน หรือ “กามิน” อินฟลูเอนเซอร์สาวชื่อดัง อดีตคู่จิ้น “แน็ก ชาลี”

ฐานต้องสงสัยว่า 1.ใช้หนังสือเดินทางเข้าเมืองผิดประเภท หรือหลีกเลี่ยงการขอวีซ่าแบบ NON-IMMIGRANT “B” 2.เดินทางเข้าเมืองเพื่อประกอบอาชีพโดยไม่มีใบอนุญาตการทำงาน (Work Permit) 3.เข้าเมืองเพื่อประกอบอาชีพโดยใบอนุญาตการทำงาน (Work Permit) หมดอายุ 4.หลีกเลี่ยงคำสั่งกรมสรรพากร

นายทรงชัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ย. เวลาประมาณ 20.00 น. ตนได้พบข่าวโดยบังเอิญเผยแพร่ทาง Google พาดหัว ““กามิน” ร่ำไห้เคลียร์ทุกดราม่า ฟ้องคนไทย 5 คนหมิ่นประมาท” จึงเกิดความตกใจ เนื่องจากตนเองก็เป็นแฟนคลับคนหนึ่งของ “แน็ก ชาลี ไตรรัตน์” จึงเห็นข่าวการปรากฎตัวของกามิน ตามสื่อโซเชียลต่าง ๆ และทราบว่าผู้กามิน เป็นชาวต่างชาติ โดยถือสัญชาติเกาหลีใต้ 

ด้วยความที่ตนทำงานด้านอาสาภาคประชาชนในการร่วมปกป้องความมั่นคงภายในประเทศ เมื่อปรากฎข่าวว่ามีคนต่างชาติดำเนินการฟ้องคดีความกับประชาชนชาวไทยจึงได้ค้นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกามิน ทั้งนี้ตนยังไม่ทราบว่ามีผู้ใดบ้างที่ถูกชาวต่างชาติรายนี้ฟ้องร้อง และยังไม่ทราบว่าฟ้องร้องเป็นคดีความข้อหาอะไร แต่สิ่งที่ชวนให้ต้องสงสัยว่าคนต่างชาติรายนี้อาจจะเข้าเมืองมาโดยไม่สุจริตกล่าวคือ ผู้ต้องหาเดินทางเข้าเมืองประเภทนักท่องเที่ยวแต่กลับพบว่าเป็นการเข้ามาเพื่อทำงาน

ตนได้ทำหนังสือประสานไปยัง กก.สส.ปป.บก.ตม.2 ชั้น 3 อาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิบางพลี สมุทรปราการ ขอให้ตรวจสอบประเภทหนังสือเดินทางเข้าเมือง ของกามิน แต่ถูกปฏิเสธการให้ข้อมูล โดยตอบกลับมาว่า “ตามที่ท่านได้ขอข้อมูลของ จี กามิน ว่าเป็นการขออนุญาตเข้าเมืองเพื่อประการใด ขอเรียนให้ทราบว่าทาง บก.ตม.2 ไม่สามารถให้ข้อมูลดังกล่าวได้” 

ตนจึงต้องมาขอพึ่งอำนาจของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ทั้งตรวจสอบถึงพฤติการณ์ทั้งหมดของกามิน ว่าเข้าเมืองมาถูกต้อง ได้รับอนุญาตให้ทำงานในประเทศ และเมื่อมีรายได้มีการยื่นเสียภาษีถูกต้องหรือไม่

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรับเรื่องไว้เสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป