รวบหนุ่มบัญชีม้า คาป่าละเมาะติดฝั่งปอยเปต อ้างถูกหลอกไปสแกนใบหน้าให้แก๊งคอลฯชาวจีน งานเสร็จถูกไล่กลับ
รวบหนุ่มบัญชีม้า คาป่าละเมาะติดฝั่งปอยเปต อ้างถูกหลอกไปสแกนใบหน้าให้แก๊งคอลฯชาวจีน งานเสร็จถูกไล่กลับ
![/_next/static/media/account.c274b286.png](/_next/static/media/account.c274b286.png)
รวบหนุ่มบัญชีม้าชาวเชียงราย คาป่าละเมาะสระแก้วติดฝั่งปอยเปต อ้างถูกเพื่อนชาวกัมพูชาหลอกไปสแกนใบหน้า ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน งานเสร็จถูกไล่กลับ
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 5 ก.พ.68 พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา (ผบ.ฉก.อรัญประเทศ กกล.บูรพา) ได้สั่งการให้ พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 (ผบ.ชค.ทพ.12) จัดกำลังพล ร้อย ทพ.1201 ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว สนธิกำลังร่วมกับ จนท.ทหารชุดปฏิบัติการข่าวที่ 2 (ชปข.2) และ หน่วยเฝ้าระวังชายแดนที่11 (นฝด.11) ออกทำการลาดตะเวณป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้า-ออกเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามช่องทางธรรมชาติริมชายแดน ด้าน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตามนโยบายป้องกันเข้มชายแดน สกัดขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ลักลอบเข้า-ออกเมืองฯ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ ได้ตรวจพบชายต้องสงสัย สวมเสื้อยืดคอกลมแขนยาว สีเทา กางเกงขายาว สีดำ สะพายกระเป๋าเป้ สีฟ้า เดินเท้าลัดเลาะมาตามป่าละเมาะช่องทางธรรมชาติจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย ระหว่างจุดตรวจชายแดน จต.อ.20-จต.อ.21 ชายแดนบ้านท่าข้าม ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จึงนำกำลังเข้าตรวจพบพบว่า เป็นชาวไทย ทราบชื่อนายภาณุวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ XX ม.3 ต.เวียงชัย อ.เวียงชัย จ.เชียงราย ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารอนุญาตเดินทางเข้า-ออกประเทศ แต่อย่างใด
โดยนายภาณุวัฒน์ อ้างว่า ถูกเพื่อนชาวกัมพูชาหลอกไปสแกนหน้าบัญชีม้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนในฝั่งปอยเปต เมื่อเสร็จกิจถูกไล่กลับ จึงลักลอบข้ามแดนมาตามช่องทางธรรมชาติ และมาถูกทหารพรานจับกุมได้ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาร่วมกันซักถามที่กองร้อยทหารพรานที่ 1201 จต.อ.20 ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
จากการซักถามเบื้องต้น นายภาณุวัฒน์ อ้างว่าเป็นชาวจังหวัดเชียงราย แต่มาทำงานที่ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม มีเพื่อนชาวกัมพูชาชื่อ "นายใส" ชักชวนให้ไปเที่ยวบ้านเกิดในกัมพูชา โดยนายใส บอกให้นำสมุดบัญชีธนาคารติดตัวไปด้วย อ้างว่า จะหาเงินให้ ตนจึงนำสมุดบัญชีธนาคารของตนซึ่งมีอยู่ 3 บัญชี
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 ก.พ.68 เวลาประมาณ 15.00 น.ได้มีคนไทยเพศชายขับรถโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ ไม่ทราบทะเบียน มารับตนจากบ้านพักใน จ.นครปฐม บอกว่า "นายใส ว่าจ้างให้มารับในราคา 1,200 บาท" จากนั้น คนขับได้จอดแวะที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จ.ฉะเชิงเทรา และบอกให้ตนไปเปิดบัญชีธนาคารอีกแห่งเพิ่มอีก 1 บัญชี แต่ตนไม่ยอม คนขับรถได้ขับพาตนมาส่งที่หน้าห้างสรรพสินค้าสตาร์พลาซ่า ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เวลาประมาณ 19.00 น. และได้เจอกับนายใส ที่ยืนรออยู่
จากนั้นได้มีหญิงชาวไทย ขี่รถจักรยานยนต์มารับไปส่งยังบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ช่องทางธรรมชาติ ไม่ทราบพื้นที่ที่แน่นอน เนื่องจาก โดนปิดตาด้วยผ้า สีดำ เมื่อไปถึงฝั่งกัมพูชา มีชาวกัมพูชาขี่รถจักรยานยนต์มารับไปส่งที่พักของนายใส ซึ่งเป็นห้องแถว จากนั้นนายใสได้ยึดโทรศัพท์และสมุดบัญชีธนาคารของตนไป โดยบอกว่า "ที่นี่ไม่มีสัญญานโทรศัพท์" และคุมขังบังคับให้ตนอยู่แต่ในห้องพัก
โดยวันที่ 3 ก.พ.68 ได้มีชาวไทยนำโทรศัพท์ของตนมาทำการสแกนหน้า หลายครั้ง ต่อมาวันที่ 4 ก.พ.68 นายใส ได้มาบอกตนว่า "เสร็จภารกิจแล้ว" ให้ตนกลับประเทศไทยได้ โดยนายใส ได้พาตนมาที่ชายแดนช่องธรรมชาติ แล้วให้ตนเดินเท้าข้ามชายแดนจากฝั่งปอยเปต กลับเข้าประเทศไทย กระทั่งมาถูกทหารพรานจับตัวได้ดังกล่าว
หลังซักถามเบื้องต้นแล้ว จนท.ร้อย ทพ.1201 ได้ควบคุมตัวนายภาณุวัฒน์ ไปส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ดำเนินคดี และสอบสวนขยายผลว่า ถูกหลอกลวงมาหรือมีส่วนร่วมกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน