ชาวบ้านกว่า 400 คนลุกฮือเข้าแจ้งความถูกเหรัญญิกกลุ่มเงินสัจจะออมทรัพย์ยักยอกเงินร่วม 10 ล้านบาท

(6 ม.ค.68) ที่ สถานีตำรวจภูธรมะขาม จังหวัดจันทบุรี ชาวบ้านกว่า 400 คนรวมตัวกันเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.มะขาม จากการถูกเหรัญญิกของกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ หมู่ที่4 บ้านท่าหลวงล่าง ตำบลมะขาม อ.มะขาม ยักยอกเงินของกลุ่มหายไป 10,380,000.บาท 

นายบุญลือ ศรัทธาธรรม ประธานกลุ่มสัจจะออมทรัพย์เพื่อการผลิต หมู่4 บ้านท่าหลวงล่าง ต.มะขาม อ.มะขาม พาชาวบ้านกว่า 400 คน เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจภูธรมะขาม กรณีถูกเหรัญญิกของกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ที่ตนเองเป็นประธานของกลุ่ม ยักยอกเงินสูญหายไปจากบัญชี ร่วม 10 ล้านบาท 

โดยนายบุญลือ ให้ข้อมูลว่า ข้อมูลนี้ชาวบ้านเพิ่งรับทราบเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากจะต้องได้รับเงินค่าตอบแทนปันผล แต่กลับไม่ได้รับเงิน จึงมีการติดตามสอบถาม จนทำให้ความแตกว่าเงินในบัญชีเหลือแค่ 620,000 บาท แต่ต้องจ่ายปันผลให้กับสมาชิกทั้งหมด 700,000 บาท เท่ากับว่าเงินยังขาดอีก 80,000 บาท จึงทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับชาวบ้านได้ 

จากการเปิดเผยข้อมูลของนายบุญลือ ศรัทธาธรรม อดีตผู้ใหญ่บ้าน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นประธานกลุ่มสัจจะออมทรัพย์เพื่อการผลิต ตนเองตั้งกลุ่มกันมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2544 จนปัจจุบัน 2567 มีชาวบ้านในชุมชนกว่า 400 คน นำเงินมาฝากออม เพื่อเก็บไว้กินดอกเบี้ยและเป็นเงินก้อนสุดท้ายบั้นปลายชีวิต บางคนก็สามารถกู้ยืมเพื่อไปต่อยอดธุรกิจของตนเอง ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหา 

จนมาถึงเมื่อปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ชาวบ้านไม่ได้รับเงินปันผลที่ควรจะได้ จึงมีการสงสัย และสอบถามเป็นเหตุให้ทราบว่าเงินที่ฝากมาทั้งหมดหายไปจากบัญชีของกลุ่มสัจจะ หลังจากมีการทวงถามหลายครั้ง ทำให้ผู้ที่ดูแลเงินของกลุ่มสัจจะ ทราบชื่อว่า นายมานพ ดำรงตำแหน่งเป็นเหรัญญิก ยอมรับกับทางกลุ่มว่าตนเองได้ใช้เงินไปหมดแล้ว จนเป็นเหตุให้ชาวบ้านต้องรวมตัวกันมาแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อติดตามเงินของตนเองคืน

นายบุญลือ ยังกล่าวอีกว่าตัวของเหรัญญิก ยังเคยสร้างสถานการณ์ ว่าเกิดไฟไหม้รถของตัวเองขึ้น โดยมีการนำหลักฐานเท็จเข้าไปไว้ในรถ เพื่อที่จะสร้างสถานการณ์ว่าเอกสารต่างๆที่เกี่ยวกับกลุ่มสัจจะถูกไฟไหม้จนหมด แต่เหตุการณ์เป็นไปตามนั้น มีชาวบ้านไปพบจึงช่วยกันดับไฟ เอกสารที่อยู่ภายในรถ ปรากฏว่าเป็นลอตเตอรี่ จำนวนมากอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ตลอดจนเอกสารที่เกี่ยวกับกลุ่มสัจจะทั้งหมด ถูกไฟไหม้บางส่วนเท่านั้น ชาวบ้านมั่นใจว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการจัดฉากขึ้น เพื่อที่จะลบล้างความผิดว่าเอกสารได้ถูกไฟไหม้ไปหมดแล้วไม่สามารถตรวจสอบได้ ด้วยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา

ชาวบ้านผู้เสียหาย คนที่ 1 นางเวียงดาว เผยว่า มีเงินฝากอยู่ 105,000 บาท ซึ่งเป็นเงินเก็บออมตลอดชีวิตเผื่อไว้ยามแก่เฒ่า เอาไว้ให้ลูกหลาน ก่อนหน้านี้ตนเอง รักและไว้ใจคนคนนี้มาก แต่ตอนนี้หมดศรัทธาแล้ว ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น อยากจะให้สื่อฯช่วยนำเสนอเผื่อว่าตัวเองจะได้เงินคืน

ด้านชาวบ้านผู้เสียหายคนที่ 2 นางทัศพร ให้ข้อมูลว่าตนเองขณะนี้เป็นผู้กู้ รู้สึกเห็นใจและสงสารผู้ที่ฝากเงิน บางคนออมอย่างเดียวไม่ได้กู้เลย ผู้เสียหายมีตั้งแต่ ครอบครัวละ 500,000 ,  300,000 , 200,000 , มีหลายครอบครัว ตนเองอยากให้ผู้กระทำออกมารับผิดชอบ ชดใช้ค่าเสียหายให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องร้องทุกข์ของชาวบ้านไว้แล้ว โดยมีทนายของฝ่ายโจทก์คือชาวบ้านเป็นผู้ดำเนินการเรื่องเอกสารการแจ้งความทั้งหมด