เปิดใจ ฮีโร่ วัย 12 ปี ช่วยเหลือหญิงโดดสะพานกรุงเทพฯไว้ได้

จากกรณีในโลกโซเชียล ได้มีการแชร์คลิปเหตุการณ์ ที่กลุ่มเด็กชายวัย 12 ปี ได้เข้าช่วยเหลือ หญิงสาววัย 17 ปี กระโดดสะพานกรุงเทพฯ ฝั่งบางคอแหลม โดยมีการแชร์ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวและชื่นชม กลุ่มเด็กๆดังกล่าวเป็นอย่างมาก 

(24 พ.ย.67) ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบน้องวัย 12 ปี กับคุณแม่ของที่บ้านพัก ซึ่งเปิดเป็นร้านขายข้าวต้ม ชื่อ ร้าน3ท ข้าวแกง&ข้าวต้มกุ้ย 3 บาท ภายในซอยเจริญกรุง 107 แยก 14 ถนนเจริญกรุง แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร เพื่อไปพบกับ น้องเกล้า หรือ เด็กชายธนภัทร อายุ 12 ปี โรงเรียนลาดบัวขาว ป.3/1 และ น.ส.ศุภวรรณ อายุ 31 ปี แม่น้องเกล้า ฮีโร่ที่เข้าช่วยเหลือ 

โดยน้องเกล้า เปิดเผยว่า ในช่วงแรกตนตกปลาอยู่ด้านบนสะพานเบ็ดดันไปเกี่ยวติดสิ่งของ จึงเดินลงไปใต้สะพาน เพื่อทำการแก้ไข ปรากฏว่าได้ยินเสียงสิ่งของตกลงมาดังตูม พบว่ามีคนกระโดดลงมาจากสะพาน จึงว่ายน้ำไปช่วยเหลือ ดึงแขนผู้หญิงดังกล่าวเข้าฝั่ง โดยมีบางช่วงบางตอน หญิงสาวดังกล่าวได้พูดขึ้นว่า "พี่อยากตาย" แต่ตอนนี้คิดได้แล้วไม่อยากตาย ช่วงที่ว่ายน้ำออกไปช่วยก็ไกลพอสมควร (ระยะจากฝั่งถึงต่อหม้อ 50 เมตร ความสูงจากสะพานลงน้ำ ประมาณ 20 เมตร )

โดยเสียงแรกหลังจากตกน้ำ คือ ช่วยกูด้วย กูไม่อยากตาย ช่วงที่ดึงหญิงสาวดังกล่าวเข้าฝั่งพบว่าหญิงดังกล่าวยังไม่หมดสติ ในช่วงบนฝั่ง มีเพื่อนที่อยู่ด้วยกัน 4 คน ซึ่งเป็นเพื่อนโรงเรียนเดียวกัน โดยมีตนคนเดียวที่ว่ายน้ำเป็น พอหลังจากขึ้นฝั่งได้ หญิงดังกล่าวให้พวกตนไปเอาโทรศัพท์บนสะพาน เพื่อนโทรหาเพื่อนของหญิงดังกล่าว โดยบอกว่า น้องช่วยโทรศัพท์หาเพื่อนพี่หน่อย หลังจากนั้นโทรให้โดยปลายสายพอคุยแล้วไม่ค่อยเชื่อ 

ตนเองเลยยื่นโทรศัพท์ให้ รปภ. ช่วยคุยก่อนที่จะหายาดมมาให้หญิงดังกล่าวดม เพราะหญิงสาวดังกล่าวลักษณะหมดแรง โดยมีบางจังหวะ หญิงได้พูดว่า อยากตายแล้ว และร้องไห้ ตนเองก็ได้ปลอบใจ หลังจากนั้นก็มีกลุ่มเพื่อนของหญิงดังกล่าวมา โดยกล่าวคำขอบคุณกับตนเอง ก่อนที่พ่อจะมารับกลับบ้าน ตอนที่ลงไปช่วยตนเองก็กลัวว่าจะจมน้ำเหมือนกัน ตนเองอยากบอกกับหญิงดังกล่าวว่า อย่าทำแบบนี้อีก ถ้าตนไม่อยู่ตรงนั้นจะไม่มีใครช่วย

ด้านน.ส.ศุภวรรณ คุณแม่ อายุ 31 ปี ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนแรกตนเองก็ไม่เชื่อว่าลูกชายตนเองจะกระโดดน้ำไปช่วยหญิงสาวดังกล่าว เพราะว่าเด็กเกิน และอีกอย่างเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย ที่ทราบเรื่องเพราะมีคนโทรศัพท์มาบอก เลยให้พ่อเขาไปรับกลับ โดยหลังจากกลับบ้าน ไม่ได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น คาดว่าจะกลัวโดนตี ตนเองจึงเลยถาม ก่อนที่น้องจะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น 

ตนเองก็รู้สึกดีใจ ที่ได้มีลูกชายที่ช่วยเหลือคนอื่น และมีความกล้าหาญ ดีใจกับการกระทำของลูก ตนเองก็ได้แต่เพียงบอกให้ระวังในการช่วยเหลือคนอื่น ตนเองก็ไม่คิดว่าลูกชายที่กล้ากระโดดลงไปแบบนั้น ตนเองก็อยากจะบอกกับหญิงสาวดังกล่าวว่า จะทำอะไรให้คิดและไตร่ตรองให้ดี เพราะชีวิตคนเราสามารถแก้ไขปัญหาและเดินได้ต่อไปเรื่อยๆ