ผู้ว่าฯ สงขลาโยนเรื่องกลับ สภา อบจ. จะฟัน ‘สจ.กอล์ฟ’ ไหม
ผู้ว่าฯ สงขลาโยนเรื่องกลับ สภา อบจ. จะฟัน ‘สจ.กอล์ฟ’ ไหม

ผู้ว่าฯ สงขลา ส่งหนังสือกลับสภา อบจ. ดำเนินการตามกฎหมายกรณีถอดถอน “สจ.กอล์ฟ” พ้นตำแหน่ง หลังก่อนหน้านี้ อบจ.โยนเรื่องให้ผู้ว่าฯ ตัดสินใจ
(15 พ.ค. 68) จากกรณีที่นายสิรดนัย พลายด้วง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา หรือ สจ.กอล์ฟ ถูกกล่าวหาว่าสั่งการให้ลูกน้องรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำหน่วยเลือกตั้ง ขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยแก่ประชาชน หลังเข้าไปตักเตือนเรื่องการห้ามถ่ายภาพภายในหน่วยเลือกตั้งนั้น ซึ่งทางด้านประธานสภา อบจ.สงขลา โยนผู้ว่าพิจารณาคุณสมบัติสจกอล์ฟ หลังศาลไม่อนุญาตประกันตัวชั่วคราวคดีสั่งการทำร้ายตชด ประจำหน่วยเลือกตั้ง
นายทวีศักดิ์ อรัญดร ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เปิดเผยถึงกรณีที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัติของนายสิรดนัย พลายด้วง หรือสจ.กอล์ฟ ผู้ต้องหาคดีสั่งการให้ ลูกน้องรุมทำร้าย ดาบตำรวจ นิสาธิต คงเทพ สังกัดกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 ระหว่างรักษาความสงบเรียบร้อยที่หน่วยเลือกตั้งใน ต.พะวง อ.เมืองสงขลา เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ว่า หลังจากเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม นาย ทนายอาร์ม สุวรรณรักษา ในฐานะภาคประชาชนในจังหวัดสงขลา ยื่นหนังสือต่อสภา อบจ.สงขลาขอให้ตรวจสอบจริยธรรมทางการเมืองของนายสิรดนัย ที่ถูกดำเนินคดี ข้อหา ร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยใช้อาวุธ ,ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่หรือเพราะเหตุที่จะกระทำหรือได้กระทำตามหน้าที่โดยเป็นตัวการ(ผู้ใช้) และ ข้อหาซ่องโจรนั้น
หากจะเรียกประชุมสภา อบจฯ สงขลา ก็ต้องให้สมาชิก อบจ. 1 ใน 3 หรือ 12 คน เข้าขื่อให้เปิดประชุม และเปิดประชุมสภา อบจ.ได้ ก็ต้องใช้เสียงของสมาชิก 3 ใน 4 ลงคะแนนว่า นายสิรดนัยผิดจริยธรรมหรือไม่ ซึ่งต้องให้นายสิรนัย อยู่ในประชุมเพื่อให้ชี้แจงข้อกล่าวหาได้ แต่ขณะนี้ นายสิรดนัย ถูกนำตัวฝากขังที่เรือนจำจังหวัดสงขลา จึงไม่สามารถเข้าร่วมประชุมสภา อบจ. เพื่อชี้แจงเรื่องที่ถูกยื่นหนังสือให้ตรวจสอบได้ ทำให้ต้องทำหนังสือ ถึงนายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ดูแลควบคุม อบจ. เพื่อพิจารณาคุณสมบัติของนายสิรดนัย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่าง การร่างหนังสือฉบับดังกล่าว ทั้งนี้ การพิจารณามีหลายแนวทาง และขณะที่ศาลก็ยังไม่ได้พิพากษาคดีดังกล่าวว่านายสิรดนัยมีความผิดหรือไม่ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ก็อาจที่จะมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก็ได้
ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ในเขตอำเภอเมืองสงขลา โดยตนได้มอบหมายให้นายอำเภอสงขลาดำเนินการควบคุมสถานการณ์ ในฐานะเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ ซึ่งเป็นภารกิจตามหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยและฝ่ายปกครอง ขณะนี้การดำเนินการของจังหวัดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
สำหรับความคืบหน้า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดสงขลา ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมสนับสนุนกระบวนการสืบสวนสอบสวนให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมาย ทั้งนี้ การพิจารณาคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาเป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งอยู่ภายใต้ดุลยพินิจของฝ่ายตุลาการ
ในส่วนของการพิจารณาถอดถอนสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด เป็นไปตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 ในข้อบัญญัติในเรื่องของสภาว่าในมาตรา 11 (7) ว่า “สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมีมติให้พ้นจากตำแหน่ง โดยเห็นว่ามีความประพฤติในทางที่นำมาซึ่งความเสื่อมเสียหรือก่อความไม่สงบเรียบร้อยแก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือกระทำอันเสื่อมเสียประโยชน์ของสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยมีสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั้งหมดเท่าที่มีอยู่เข้าชื่อเสนอให้สภาองค์การบริหารจังหวัดพิจารณา และมติดังกล่าวต้องมีคะแนนไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ทั้งนี้ ให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลงนับแต่วันที่สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมีมติ ซึ่งดำเนินการโดยฝ่ายนิติบัญญัติ องค์การบริหารส่วนจังหวัด”
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจกำกับดูแลการปฏิบัติราชการขององค์การบริหารส่วนจังหวัดตามมาตรา 77 โดยจะมีหนังสือแจ้งไปยังสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ในกรณีที่มีข้อมูลปรากฏว่าอาจมีการใช้วุฒิการศึกษาปลอมจากประเทศมาเลเซียเพื่อใช้ในการสมัครรับเลือกตั้งโดยไม่ได้ผ่านการตรวจสอบคุณวุฒิเดิมนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสงขลา (กกต.สงขลา) ตรวจสอบข้อมูลการยื่นสมัครเลือกตั้ง รวมถึงเอกสารและวุฒิการศึกษาที่ใช้ประกอบการสมัคร นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้สำนักงานท้องถิ่นจังหวัดสงขลาตรวจสอบว่าใช้วุฒิจากสถาบันใด โดยอยู่ภายใต้การกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ หากพบว่าเอกสารเป็นเท็จ ก็จะเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป