รวบ “เสือเนตรพลังม้า” ลักประตูรั้วยาว 6 ม. หนัก 200 กก. ใส่สามล้อเครื่องไปขายซื้อยาเสพ

(28 ม.ค.68) ร.ต.อ.อุดมโชค สิงหกุลศิริ รอง สว.สส.สภ.ย่อยโนนสูง อ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมตัวนายชัยเนตร์ ฉายาเสือเนตรพลังม้า อายุ 50 ปี ในข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการพาทรัพย์นั้นไป , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย 

พร้อมด้วยของกลาง ประตูรั้วเหล็กขนาด 6 คูณ 2 เมตร จำนวน 1 บาน สามล้อเครื่องที่ใช้ขนไปขาย จำนวน 1 คัน พร้อมด้วยล้อรถเข็นต่อพ่วง จำนวน 1 ชุด และผลการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดมีผลเป็นบวก จำนวน 1 ชุด โดยคลิปจากกล้องวงจรปิดระบุเวลา 21.09 วันที่ 24 มกราคม 2568 พบนายชัยเนตร์ฯ ใช้สามล้อเครื่องพ่วงด้วยล้อรถเข็น เพื่อขนไปขาย แต่ประตูเหล็กมีขนาดใหญ่และยาว จึงทำให้ขอบประตูขูดไปกับพื้นถนนในหมู่บ้าน จนเกิดแสงสะเก็ดไฟและมีเสียงดัง 

หลังเกิดเหตุ นายอัฑฒ์วิชญ์ อายุ 46 ปี ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.นิวัฒน์ แจงกระโทก รอง สว.สอบสวน สภ.ย่อยโนนสูง และร.ต.อ.อุดมโชค สิงหกุลศิริ รอง สว.สส.สภ.ย่อยโนนสูง ให้ช่วยติดตามประตูรั้วเหล็ก และจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงไล่กล้องวงจรปิดพร้อมกับสืบสวนหาข่าว จนสามารถจับกุมตัวนายชัยเนตร์ฯ ได้ที่บ้านพัก และนำไปตรวจยึดประตูรั้วเหล็กที่บ้านคนรับซื้อ ควบคุมตัวพร้อมของกลางมาสอบสวนที่โรงพัก

จากการสอบสวนนายชัยเนตร์ฯ หรือเสือเนตรพลังม้า ให้การรับสารภาพด้วยอารมณ์ดีว่า เมื่อหลายปีที่ผ่านมาตนเคยถูกจับในข้อหาเสพยาบ้า และทำร้ายร่างกายผู้อื่น แต่ไม่ติดคุก กระทั่งมาก่อเหตุลักทรัพย์ ตนคิดว่าครั้งนี้คงไม่รอดคุกแน่ๆ และที่ทำไปเนื่องจากอารมณ์ชั่ววูบ เพราะไม่มีเงินซื้อยาบ้าเสพ ประกอบกับช่วงนี้ไม่มีคนว่าจ้างไปทำงาน จึงตัดสินใจขับสามล้อเครื่องคู่ใจไปขโมยถอดยกเอาประตูรั้วเหล็ก ในพื้นที่ว่างเปล่า ที่อยู่ใกล้กับบ้านของตน ซึ่งตนคิดว่าพื้นที่ดังกล่าวคงถูกธนาคารยึดไปแล้ว จึงตัดสินใจก่อเหตุถอดประตูรั้ว และยกขึ้นสามล้อเครื่องพ่วงด้วยรถเข็นนำไปขายให้กับคนที่กำลังจะสร้างบ้านในราคา 1,000 บาท 

โดยบอกคนรับซื้อว่าประตูรั้วเหล็กที่ขโมยมาขายนั้นเป็นของตนเอง ที่มีน้ำหนักประมาณ 200 กก. ที่ตนยกขึ้นรถขนไปขายได้ เนื่องจากอยากเสพยาบ้ามาก หลังจากนำไปขายได้เงินมาก็ไปซื้อยาบ้ามาเสพ 10 เม็ด ในราคาเม็ดละ 50 บาท เสพวันละ 5 เม็ด หากเวลาอยากเสพยาบ้า เมื่อเปรียบเทียบอยากกินข้าว ตนคิดว่าอาการอยากเสพยาบ้าจะมากกว่าอยากกินข้าว และอยากฝากขอโทษผู้เสียหายในสิ่งที่ตนทำลงไป สัญญาว่าพ้นโทษออกมาจะเลิกเสพยาบ้า และไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ฝากถึงผู้ที่ติดเสพยาบ้าในขณะนี้ ให้ลดละเลิกเสพจะดีกว่า เพราะหากไม่เลิกเสพ เวลาไม่มีเงินซื้อก็จะไปหาลักเล็กทรัพย์คนอื่นไปขาย สุดท้ายก็จะถูกจับดำเนินคดีเหมือนกับตนเอง

ด้าน ร.ต.อ.อุดมโชค สิงหกุลศิริ รอง สว.สส.สภ.ย่อยโนนสูง เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะได้ส่งตัวผู้ก่อเหตุพร้อมของกลางให้ ร.ต.อ.นิวัฒน์ แจงกระโทก รอง สว.สอบสวนฯ เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนคนรับซื้อจะได้ให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกมาสอบสวนข้อเท็จจริง หากเข้าข้อกฎหมายก็จะดำเนินคดีในข้อกล่าวหา “รับซื้อของโจร” ตามขั้นตอนของกฎหมายเช่นกัน