สู้ไม่ได้! ชายห้ามศึกพี่สาวทะเลาะพี่เขย โดนกัดใบหูขาดหาชิ้นส่วนไม่เจอ

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางบัวทอง ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อคือ โชคสมบูรณ์ อายุ 52 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหูข้างซ้ายฉีกขาด หลังเข้าห้ามศึกพี่สาว น.ส.วรเนตร อายุ 54 ปี ที่กำลังทะเลาะมีปากเสียงกับแฟนหนุ่ม คือ นายทรงพล หรือชิน อายุ 57 ปี ระหว่างห้ามปรามพลาดท่าล้มลง ทำให้ถูกนายทรงพลกัดหูฉีกขาด ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ภายในหมู่บ้านรัตนาธิเบศร์ ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมหาชิ้นส่วนของใบหูที่ฉีกขาดแต่ไม่พบ จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์รัตนาธิเบศร์

(18 ก.ย.67) ความคืบหน้าล่าสุด นายทรงพล หรือชิน อายุ 57 ปี ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า เหตุการณ์วันเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 20.40 น. ตนได้มีปากเสียงกับแฟนสาวกันในห้องตน ไม่มีการทำร้ายร่างกายใดๆ โดยแฟนสาวจะขอออกไปทำงานต่างจังหวัด แต่ตนไม่ให้แฟนไป จึงมีปากเสียงกัน แต่คนเจ็บได้เปิดประตูเข้ามาทำท่าทางไม่พอใจโมโห เข้ามาชกต่อยตนได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผล จนทีวีในห้องพัง ด้วยที่ตัวตนเล็กคู่กรณีตนตัวใหญ่ ตนสู้ไม่ได้อาศัยจังหวะคนเจ็บล้มตนจึงกัดหู และยืนยันว่าไม่ได้เคี้ยวหูของคนเจ็บคาดว่าอยู่แถวตะกร้าในห้อง ตอนนี้ตนก็ได้ย้ายออกไปอยู่ที่อื่นก่อนชั่วคราว แฃะก็ยังไม่ทราบว่าทางคนเจ็บได้แจ้งความดำเนินคดีกับตน ตอนนี้ตนขับจยย.รับจ้าง อยู่ในกทม.

ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงสอบถามรายละเอียดอีกครั้งกับทางด้านน.ส.ส้ม (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี ภรรยาผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2567 พี่สาวของผู้บาดเจ็บได้เปิดเผยว่า เธอถูกข่มขู่โดยคนร้ายไม่ให้ย้ายออกจากบ้านตามกำหนดเดิม โดยอ้างว่าตนยังไม่สามารถหาที่พักใหม่ได้ และต้องการให้เธอรออีก 3-4 วันก่อน

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567 พี่สาวได้แจ้งให้คนร้ายทราบว่าเธอจะย้ายไปทำงานต่างจังหวัด เพื่อหาเงินมาใช้จ่ายและต้องการจบความสัมพันธ์กับคนร้ายดังกล่าว การเจรจาในวันนั้นดูเหมือนจะเป็นไปด้วยดี โดยคนร้ายได้ขอเวลาสักหนึ่งสัปดาห์เพื่อหาที่พักใหม่ ซึ่งหมายถึงจะย้ายออกภายในวันที่ 20-21 กันยายน 2567 เนื่องจากยังต้องขนย้ายข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 15 กันยายน 2567 ได้เกิดปากเสียงกันจนถึงขั้นมีการกระแทกจานชามจนแตก ทำให้พี่สาวโกรธและตัดสินใจย้ายออกทันทีในวันที่ 16 กันยายน โดยไม่ได้แจ้งให้คนร้ายทราบล่วงหน้า เมื่อคนร้ายรู้ว่ารถตู้กำลังจะมารับพี่สาว จึงเกิดความไม่พอใจอย่างรุนแรง

คนร้ายได้ข่มขู่พี่สาวว่าจะทำลายทรัพย์สินและกีดขวางการย้ายออก หากพี่สาวยังคงตัดสินใจไปตามกำหนด รวมถึงขู่ทำร้ายคนขับรถตู้ด้วย พี่สาวกลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นเนื่องจากเธอเป็นผู้หญิงและไม่มีใครปกป้อง จึงได้ขอความช่วยเหลือจากน้องของเธอ ซึ่งพยายามเข้าไปห้ามปราม แต่สุดท้ายก็เกิดเหตุร้ายขึ้น

น.ส.ส้ม กล่าวต่อว่า ว่า ผู้บาดเจ็บเป็นคนใจเย็นมาก และไม่คาดคิดว่าจะถูกทำร้ายอย่างรุนแรงขนาดนี้ รู้สึกเสียใจและเสียขวัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งตอนนี้บ้านหลังที่เกิดเหตุไม่มีใครอาศัยอยู่ ตอนนี้ทั้งตนและแฟนตนหวาดกลัวกับผู้ก่อเหตุเรื่องความปลอดภัย ไม่กล้ามาที่บ้าน กลัวจะถูกทำร้ายอีก ตอนนี้ต้องอาศัยที่อื่นอยู่ชั่วคราวก่อน