ด.ช.วัย 13 เตะก้านคอ ด.ช.วัย 15 สลบคาโรงเรียน
ด.ช.วัย 13 เตะก้านคอ ด.ช.วัย 15 สลบคาโรงเรียน

ด.ช.วัย 13 เตะก้านคอ ด.ช.วัย 15 สลบคาโรงเรียน ครอบครัวจี้เรียกร้องความเป็นธรรม ยันยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ด.ช.วัย 15 เผย รุ่นน้องมาตบหัวตน ตนจึงตบคืน ต่อมานุ่นน้องเรียกไปพบ ก่อนถูกทำร้าย
(24 มิ.ย.68) จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปวิดีโอลงในโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นภาพเหตุการณ์ภายในโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี โดยในคลิปจะเห็นนักเรียนชายที่สวมเสื้อแขนสั้นสีแดง เตะเข้าที่ใบหน้าของนักเรียนชายอีกคนที่สวมชุดนักเรียนจนสลบคาที่ ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะช่วยดึงร่างของเด็กที่ถูกทำร้ายขึ้นมา พร้อมโพสต์ข้อความว่า
“หลานชายถูกเตะหลับคากลางอากาศ ช่วยหน่อยนะครับ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ช่วยแนะนำด้วยครับ เด็กอายุ 13 ปี คู่อริเป็นลูกทหาร เหตุเกิดที่ จ.อุบลฯ”
โดยด.ช.ก ผู้บาดเจ็บโชว์บาดแผลตามร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหลัง ข้อศอก และริมฝีปากที่ยังคงแดงอยู่ ซึ่งสามารถเห็นบาดแผลได้ชัดเจน แม้เวลาจะผ่านไปเกือบ 1 เดือนแล้ว
ด.ช.ก เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 โดยเริ่มจากการที่รุ่นน้องมาตบหัวตน ตนจึงตบหัวกลับในวันนั้น วันถัดมารุ่นน้องได้เรียกตนไปพูดคุยที่บริเวณหลังพระใหญ่ ตนจึงไปคนเดียว โดยเข้าใจว่าอาจจะไปเล่นตะกร้อ เพราะรุ่นน้องได้พาเพื่อนในห้องอีก 2 คนมาด้วย ไม่คิดว่าจะถูกทำร้าย หลังจากนั้นจึงถูกทำร้ายร่างกายจนรู้สึกเหมือนหมดสติ จำเหตุการณ์ไม่ได้ และมารู้สึกตัวอีกครั้งประมาณ 2 ทุ่ม พบว่าตนเองปากแตก เจ็บท้ายทอย มีรอยช้ำบริเวณท้ายทอย ศอกทั้งสองข้าง และแผ่นหลัง
หลังเกิดเหตุ ตนและฝ่ายคู่กรณียังไม่ได้มีการพูดคุยกันแต่อย่างใด แต่เห็นว่าคู่กรณีโพสต์โน้ตในอินสตาแกรมว่า“เงินก็ให้ไปแล้ว ยังเอาคลิปไปลงอีก”ซึ่งตนไม่ทราบว่าอีกฝ่ายพูดถึงเงินจำนวนใด เพราะไม่ได้รับเงินเยียวยาแต่อย่างใด ทั้งที่พ่อของอีกฝ่ายได้พูดคุยทางโทรศัพท์ว่าจะโอนเงินค่าเยียวยาจำนวน 10,000 บาท ให้ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการนัดเจรจาใด ๆ
ด.ช.ก กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุฝ่ายคู่กรณีก็ไม่ได้มาขอโทษ และตนยังคงรู้สึกโกรธกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยหลังจากเหตุการณ์ตนได้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ และโรงพยาบาลเบญจลักษ์ ซึ่งแพทย์ระบุว่ามีอาการฟกช้ำตามร่างกายและเจ็บบริเวณท้ายทอย
ด้านนายสุรพล อายุ 44 ปี พ่อของ ด.ช.ก เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้ติดต่อผู้ปกครองของคู่กรณีก่อนเพื่อพูดคุย แต่ในตอนแรกอีกฝ่ายไม่ยอมเข้ามาไกล่เกลี่ย อ้างว่าปฏิบัติหน้าที่ที่ชายแดน จึงขอรอหมายเรียกหรือหมายศาลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ต่อมาผู้ปกครองของคู่กรณีได้ติดต่อกลับมาว่า หากกลับมาจากชายแดนเมื่อใด จะขอเปิดใจพูดคุยอีกครั้ง
นายสุรพลกล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่ได้รับการขอโทษใด ๆ จากทั้งฝ่ายนักเรียนคู่กรณีหรือผู้ปกครอง และทางโรงเรียนก็เพียงแจ้งว่าจะดำเนินการกับผู้ที่ปล่อยคลิปวิดีโอเท่านั้น ไม่มีการติดต่อหรือดูแลเยียวยานักเรียนผู้เสียหายแต่อย่างใด โดยหลังจากเหตุการณ์ลูกชายยังไม่ได้กลับไปเรียน และตนมีแผนจะย้ายบุตรมาเรียนในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ แทน เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัยของลูกชาย
ทั้งนี้ ครอบครัวของ ด.ช.ก ได้แจ้งความไว้ที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี ตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นวันถัดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โดยทางคู่กรณีได้นัดเจรจาไกล่เกลี่ยในวันที่ 28 มิถุนายน 2568 ที่จะถึงนี้
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
