เปิดใจ “หลวงพี่น้ำฝน” หลังลูกศิษย์ร่วมวงทำร้าย “พระปีนเสา”

เปิดใจ “หลวงพี่น้ำฝน” หลังลูกศิษย์ร่วมวงทำร้าย “พระปีนเสา”

19323 ธ.ค. 67 15:24   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

เปิดใจ “หลวงพี่น้ำฝน” หลังมีข่าวลูกศิษย์เข้าร่วมวงทำร้ายร่างกาย “พระปีนเสา” ยืนยันไม่เคยสนับสนุนการใช้ความรุนแรง

(23 ธ.ค. 67) จากกรณีที่ลูกศิษย์ของพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ไปร่วมก่อเหตุทำร้ายพระปลัดธีระ หรือพระปีนเสา ผู้สื่อข่าว จ.นครปฐมได้ลงพื้นที่ วัดไผ่ล้อม อ.เมืองนครปฐม เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าวกับหลวงพี่น้ำฝน


โดยหลวงพี่น้ำฝนระบุว่าวาทะในการพูดของพระ และเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบของผู้กระทำ ขณะนี้วัดไผ่ล้อมถูกสังคมมุ่งเป้าและมองมาทางที่วัดไผ่ล้อม เนื่องจากคนที่ไปเป็นลูกศิษย์ของอาตมา ที่อยู่ระหว่างเดินทางไปทำงานที่ กทม. และใช้รถกระบะเก่าๆ ของทางวัดเดินทางไปดูแลงานก่อสร้างให้โยมที่อยู่ที่ กทม.


ในวันที่เกิดเหตุกลุ่มลูศิษย์ของอาตมานั้นทราบว่า อาตมาจะเดินทางไปที่ช่อง 8 แต่ได้ยกเลิกไป  เนื่องจากเอกสารต่างๆ ไม่ครบ แต่ก็มีลูกศิษย์ส่วนหนึ่งที่ไปนั่งรออยู่ และเมื่อได้ดูรายการก็เกิดอารมณ์โมโหเนื่องจากมีการพูดพาดพิงและก้าวล่วงถึงอาตมา นี่คือสิ่งที่อาตมาได้รับฟังจากลูกศิษย์ที่ไปด้วยในวันดังกล่าว


หลังจากที่ทราบเรื่องว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น อาตมาได้สั่งสอนลูกศิษย์  ทุกอย่างอยู่ที่อารมณ์  เข้าใจว่าทุกคนมีอารมณ์  อาตมภาพได้พูดกับพระรูปนี้  ถ้าเราไม่วางสติอารมณ์  ก็จะเกิดบันดาลโทสะอย่างแน่นอน  ฉะนั้นเวลาพูดจาก็จะกวน ยียวนให้เกิดอารมณ์  โดยอาตมภาพจะไม่เกิดอารมณ์สามารถระงับได้  แต่กรณีนี้เคยสอนลูกศิษย์แล้วว่าอย่าใช้อารมณ์  การชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการชนะใจตัวเอง   เราเห็นว่าเกิดจากความไม่พอใจและเข้าใจว่าเกิดจากความเคารพรักศรัทธาในตัวอาตมา  แต่ทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง


อาตมาได้สั่งและสอนแล้ว  จากเหตุการณ์ ไม่ได้เป็นการรุมทำร้าย   จากภาพจะเห็นได้ว่า  พระถูกกระโดดถีบไป 1 ที  แล้วเดินออกไป   แต่หากเกิดบันดาลโทสะมากกว่านี้  น่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงมากกว่านี้  แล้วมากล่าวอ้างว่ามีชายฉกรรจ์ไป 3 คนไปรุมทำร้าย  แต่นี่ไม่ใช่  กระโดดถีบด้วยการบันดาลโทสะ  อาตมาได้เรียกมาตักเตือน   และขอโทษทางสถานีด้วย  ที่ลูกศิษย์ของอาตมาไปกระทำเช่นนั้น



อาตมา มีมาตรการในการอบรมอยู่แล้ว  และไม่เคยสนับสนุนให้ใช้ความรุนแรง  แต่สิ่งที่ทำอาตมาไปห้ามไม่ได้   เพราะลูกศิษย์พูดว่าเกิดจากความเคารพศรัทธาในครูบาอาจารย์ และเกิดจากความที่ลูกศิษย์ไม่สบายใจที่อาตมาถูกพาดพิง   เฉกเช่นเดียวกัน  หากโยมถูกกล่าวหาผิดๆ  และเราไม่ได้ผิดจริงก็ทำให้เกิดอารมณ์ได้  เพราะฉะนั้นอาตมาไม่ได้สนับสนุนให้ใครมาใช้ความรุนแรงและอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ โดยห้ามในการใช้บันดาลโทสะ


สำหรับในเรื่องของด้านกฎหมายนั้น  ต้องดู  หากมีการพูดหมิ่นประมาทก็จะว่ากันไป  แต่เราเป็นพระ  ไม่อยากไปฟ้องร้องอะไรทั้งสิ้น  และอาตมาไม่เคยไปทำอะไร   หรือไปก้าวล่วงไปว่าคนนู้นคนนี้  จะสังเกตได้ว่าไม่เคยไปกล่าวว่าใคร  สิ่งสำคัญที่สุดการที่ไม่กล่าวว่าใครปัญหาก็จะไม่เกิด  และสิ่งที่เกิดขึ้นมาเพราะเราไปว่าคนโน้นไม่ดีและไปสร้างศัตรูขึ้นมาให้กับตัวเราเอง


แม้กระทั่ง กัน จอมพลัง  ก็ถูกพาดพิงเช่นกัน   หาว่าเป็นผู้บงการหลวงพี่น้ำฝน กัน จอมพลัง ไม่สามารถมาบงการหลวงพี่น้ำฝนได้   มาดูถูกดูแคลนเรามากเกินไป  เรามีสมองและสติปัญญา ไม่ใช่วัวควายให้ใครมาสนตะพายในการที่จะควบคุมเรา   แต่อาตมาเป็นพระสงฆ์จะไม่ทำเช่นนั้น  ไม่มีการฟ้องร้องใดๆเราทำตามกฎของสงฆ์และภายใต้กฎมหาเถระสมาคม  ทุกสิ่งทุกอย่างจบ  หากท่านปฏิบัติอยู่ภายในวัดอยู่ภายในกรอบ  อยู่ในขอบเขตของวัด ปัญหาไม่มีเกิดอย่างแน่นอน  ปัญหาเกิดเพราะท่านออกมา  จึงทำให้มีปัญหาอยู่ร่ำไป  


อย่างที่ กันจอมพลัง  เคยบอก  ทุกอย่างมันอยู่ที่ปากของท่าน   จะนำไปสู่ปัญหา  ไม่ว่าจะเรียกแขก  ก็มาจากการใช้ปาก  ปัญหาจะเกิดอย่างแน่นอน   เราเป็นพระสงฆ์อยู่ในกรอบอยู่ในระเบียบวินัยของคณะสงฆ์  อยู่ในการปกครองของเจ้าคณะพระสังฆาธิการในปกครองปัญหาไม่มีเกิดแน่นอน  เกิดจากปากทุกอย่าง  ปากของท่านจะนำไปสู่ความหายนะ  อาตมาภาพขอเตือน  อยากจะฝากไว้ขอให้อยู่ในกรอบของความเป็นพระ จะได้ไม่เกิดปัญหา  คน 1 ล้านคนบอกว่าเราผิด  เราจะยังบอกว่าตัวเราถูกมันก็คงเป็นไปไม่ได้  ท่านควรปรับปรุงตัว



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง