เปิดใจ “หลวงพี่น้ำฝน” หลังลูกศิษย์ร่วมวงทำร้าย “พระปีนเสา”
เปิดใจ “หลวงพี่น้ำฝน” หลังลูกศิษย์ร่วมวงทำร้าย “พระปีนเสา”
เปิดใจ “หลวงพี่น้ำฝน” หลังมีข่าวลูกศิษย์เข้าร่วมวงทำร้ายร่างกาย “พระปีนเสา” ยืนยันไม่เคยสนับสนุนการใช้ความรุนแรง
(23 ธ.ค. 67) จากกรณีที่ลูกศิษย์ของพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ไปร่วมก่อเหตุทำร้ายพระปลัดธีระ หรือพระปีนเสา ผู้สื่อข่าว จ.นครปฐมได้ลงพื้นที่ วัดไผ่ล้อม อ.เมืองนครปฐม เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าวกับหลวงพี่น้ำฝน
โดยหลวงพี่น้ำฝนระบุว่าวาทะในการพูดของพระ และเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบของผู้กระทำ ขณะนี้วัดไผ่ล้อมถูกสังคมมุ่งเป้าและมองมาทางที่วัดไผ่ล้อม เนื่องจากคนที่ไปเป็นลูกศิษย์ของอาตมา ที่อยู่ระหว่างเดินทางไปทำงานที่ กทม. และใช้รถกระบะเก่าๆ ของทางวัดเดินทางไปดูแลงานก่อสร้างให้โยมที่อยู่ที่ กทม.
ในวันที่เกิดเหตุกลุ่มลูศิษย์ของอาตมานั้นทราบว่า อาตมาจะเดินทางไปที่ช่อง 8 แต่ได้ยกเลิกไป เนื่องจากเอกสารต่างๆ ไม่ครบ แต่ก็มีลูกศิษย์ส่วนหนึ่งที่ไปนั่งรออยู่ และเมื่อได้ดูรายการก็เกิดอารมณ์โมโหเนื่องจากมีการพูดพาดพิงและก้าวล่วงถึงอาตมา นี่คือสิ่งที่อาตมาได้รับฟังจากลูกศิษย์ที่ไปด้วยในวันดังกล่าว
หลังจากที่ทราบเรื่องว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น อาตมาได้สั่งสอนลูกศิษย์ ทุกอย่างอยู่ที่อารมณ์ เข้าใจว่าทุกคนมีอารมณ์ อาตมภาพได้พูดกับพระรูปนี้ ถ้าเราไม่วางสติอารมณ์ ก็จะเกิดบันดาลโทสะอย่างแน่นอน ฉะนั้นเวลาพูดจาก็จะกวน ยียวนให้เกิดอารมณ์ โดยอาตมภาพจะไม่เกิดอารมณ์สามารถระงับได้ แต่กรณีนี้เคยสอนลูกศิษย์แล้วว่าอย่าใช้อารมณ์ การชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการชนะใจตัวเอง เราเห็นว่าเกิดจากความไม่พอใจและเข้าใจว่าเกิดจากความเคารพรักศรัทธาในตัวอาตมา แต่ทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง
อาตมาได้สั่งและสอนแล้ว จากเหตุการณ์ ไม่ได้เป็นการรุมทำร้าย จากภาพจะเห็นได้ว่า พระถูกกระโดดถีบไป 1 ที แล้วเดินออกไป แต่หากเกิดบันดาลโทสะมากกว่านี้ น่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงมากกว่านี้ แล้วมากล่าวอ้างว่ามีชายฉกรรจ์ไป 3 คนไปรุมทำร้าย แต่นี่ไม่ใช่ กระโดดถีบด้วยการบันดาลโทสะ อาตมาได้เรียกมาตักเตือน และขอโทษทางสถานีด้วย ที่ลูกศิษย์ของอาตมาไปกระทำเช่นนั้น
อาตมา มีมาตรการในการอบรมอยู่แล้ว และไม่เคยสนับสนุนให้ใช้ความรุนแรง แต่สิ่งที่ทำอาตมาไปห้ามไม่ได้ เพราะลูกศิษย์พูดว่าเกิดจากความเคารพศรัทธาในครูบาอาจารย์ และเกิดจากความที่ลูกศิษย์ไม่สบายใจที่อาตมาถูกพาดพิง เฉกเช่นเดียวกัน หากโยมถูกกล่าวหาผิดๆ และเราไม่ได้ผิดจริงก็ทำให้เกิดอารมณ์ได้ เพราะฉะนั้นอาตมาไม่ได้สนับสนุนให้ใครมาใช้ความรุนแรงและอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ โดยห้ามในการใช้บันดาลโทสะ
สำหรับในเรื่องของด้านกฎหมายนั้น ต้องดู หากมีการพูดหมิ่นประมาทก็จะว่ากันไป แต่เราเป็นพระ ไม่อยากไปฟ้องร้องอะไรทั้งสิ้น และอาตมาไม่เคยไปทำอะไร หรือไปก้าวล่วงไปว่าคนนู้นคนนี้ จะสังเกตได้ว่าไม่เคยไปกล่าวว่าใคร สิ่งสำคัญที่สุดการที่ไม่กล่าวว่าใครปัญหาก็จะไม่เกิด และสิ่งที่เกิดขึ้นมาเพราะเราไปว่าคนโน้นไม่ดีและไปสร้างศัตรูขึ้นมาให้กับตัวเราเอง
แม้กระทั่ง กัน จอมพลัง ก็ถูกพาดพิงเช่นกัน หาว่าเป็นผู้บงการหลวงพี่น้ำฝน กัน จอมพลัง ไม่สามารถมาบงการหลวงพี่น้ำฝนได้ มาดูถูกดูแคลนเรามากเกินไป เรามีสมองและสติปัญญา ไม่ใช่วัวควายให้ใครมาสนตะพายในการที่จะควบคุมเรา แต่อาตมาเป็นพระสงฆ์จะไม่ทำเช่นนั้น ไม่มีการฟ้องร้องใดๆเราทำตามกฎของสงฆ์และภายใต้กฎมหาเถระสมาคม ทุกสิ่งทุกอย่างจบ หากท่านปฏิบัติอยู่ภายในวัดอยู่ภายในกรอบ อยู่ในขอบเขตของวัด ปัญหาไม่มีเกิดอย่างแน่นอน ปัญหาเกิดเพราะท่านออกมา จึงทำให้มีปัญหาอยู่ร่ำไป
อย่างที่ กันจอมพลัง เคยบอก ทุกอย่างมันอยู่ที่ปากของท่าน จะนำไปสู่ปัญหา ไม่ว่าจะเรียกแขก ก็มาจากการใช้ปาก ปัญหาจะเกิดอย่างแน่นอน เราเป็นพระสงฆ์อยู่ในกรอบอยู่ในระเบียบวินัยของคณะสงฆ์ อยู่ในการปกครองของเจ้าคณะพระสังฆาธิการในปกครองปัญหาไม่มีเกิดแน่นอน เกิดจากปากทุกอย่าง ปากของท่านจะนำไปสู่ความหายนะ อาตมาภาพขอเตือน อยากจะฝากไว้ขอให้อยู่ในกรอบของความเป็นพระ จะได้ไม่เกิดปัญหา คน 1 ล้านคนบอกว่าเราผิด เราจะยังบอกว่าตัวเราถูกมันก็คงเป็นไปไม่ได้ ท่านควรปรับปรุงตัว