ร้อง ทหารพราน ถูก "ผบ.ร้อย" รุมยำ ใส่กุญแจมือ-ล่ามโซ่
ร้อง ทหารพราน ถูก "ผบ.ร้อย" รุมยำ ใส่กุญแจมือ-ล่ามโซ่
ทำเหมือนไม่ใช่คน! ร้อง ทหารพราน ถูก "ผบ.ร้อย" รุมยำ ใส่กุญแจมือ-ล่ามโซ่ คาดฉุนปมเตือนน้องชาย ผบ.ร้อย เสพยา
(4 ธ.ค.67) ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องทุกข์จาก คุณแม่รายหนึ่ง อายุ 64 ปี ว่าตนได้รับแจ้งจากภรรยาของลูกชาย ซึ่งลูกชายของตนเป็นทหารพรานยศสิบเอกประจำการอยู่ฐานปฏิบัติการทหารพรานที่ 4306 อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ได้ถูก ผบ.ร้อย รองผบ.ร้อย และอาสาสมัครทหารพรานเมาสุรา บุกถีบประตูห้องนอนส่วนตัวของลูกชาย จากนั้นได้รุมทำร้ายร่างกายจนสะบักสะบอม
ก่อนนำตัวลูกชายจับใส่กุญแจมือและนำตัวมาล่ามโซ่ไว้ด้านนอกห้องนอน ตั้งแต่ช่วงกลางดึกจนถึงเช้า ต่อมาภรรยาของลูกชายได้นำตัวส่งโรงพยาบาลโคกโพธิ์ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี หลังมีอาการแน่นหน้าอกอย่างรุนแรง จากการถูกรุมทำร้ายร่างกายอย่างหนักและยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
หลังตนเองเห็นคลิปวิดีโอลูกชายถูกล่ามโซ่ใส่กุญแจมือ ตนถึงกับรับไม่ได้และอยากรู้สาเหตุที่ถูกลงโทษแบบนั้นเพราะอะไร จึงเป็นสาเหตุได้เข้าร้องทุกข์ต่อสื่อ เข้ามาเพื่อขอความเป็นธรรม
ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับ คุณแม่ อายุ 64 ปี ของสิบเอกคิรากร ผบ.หมู่ทหารพรานที่ 4306 เผยว่า เบื้องต้นลูกชายได้รับบาดเจ็บที่บริเวณจมูก ซึ่งถูกต่อยจนจมูกเบี้ยว มีเลือดไหลอาบหน้า ส่วนที่หน้าอกมีรอยช้ำจากการถูกกระทืบอย่างรุนแรง
โดยลูกชายตนเป็นทหารพรานอยู่ที่ 4306 ประจำอยู่ที่อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เป็นทหารพรานมา 18 ปี ยศสิบเอก ซึ่งเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ลูกสะใภ้ได้โทรมาหาตนและบอกว่าลูกชายอยู่โรงพยาบาลโดนรุมทำร้ายร่างกายและถูกล่ามโซ่ไว้ เบื้องต้นไม่ทราบว่าสาเหตุเพราะอะไร จากนั้นลูกสะใภ้ได้ส่งคลิปวิดีโอมาให้ตนดู ตนได้เปิดดูคลิปวิดีโอถึงขั้นช็อกว่าลูกชายของตนไปทำอะไรผิดมา ถึงขั้นนายทำแบบนี้จับใส่กุญแจมือและล่ามโซ่ ตนรับไม่ได้เลยทำแบบนี้มันผิดมนุษย์และละเมิดสิทธิมนุษยชน ลูกชายเป็นถึงขั้นทหารพรานยศสิบเอก
ปัจจุบันลูกชายตนมีครอบครัวอยู่อำเภอโคกโพธิ์อยู่บ้านภรรยาและประจำการอยู่กรมทหารพรานที่ 4306 ส่วนคนที่รุมทำร้ายร่างกายลูกชายนั้นมี 3 คน มี ผบ.ร้อย รอง ผบ.ร้อย และ อาสาสมัครทหารพราน หลังรุมทำร้ายก็จับล่ามโซ่ตากฝนทั้งคืน แล้วก็จับไปซ้อมอีก ตอนนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลโคกโพธิ์ และลูกชายได้รับบาดเจ็บตรงจมูกซึ่งถูกต่อยจนจมูกเบี้ยว มีเลือดไหลเต็มหน้าและบริเวณหน้าอกโดนกระทืบจนแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก อยากฝากถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูงผ่านสื่อให้ตรวจสอบหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไรที่ทำแบบนี้และขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายตนด้วย
ด้านนางสุชาดา อายุ 42 ปี ภรรยาของสิบเอกคิรากร หรือ หมู่อรรถ เปิดเผยว่า ปกติช่วงเวลา 21.00 ถึง 01.00 น. หมู่อรรถจะวิดีโอคอลมาทุกวันเพื่อคุยกับลูกและตน และก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุหมู่อรรถได้เล่าว่า มีปัญหากับน้องชายของ ผบ.ร้อย ซึ่งอยู่ฐานเดียวกันและห้องพักก็อยู่ติดกัน ซึ่งน้องชายของ ผบ.ร้อย ได้เสพยาบ้าทำให้ควันของยาบ้าลอยข้ามมาในห้อง จากนั้นหมู่อรรถก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนไปว่าให้ไปเสพยาบ้าที่อื่นทำให้น้องชาย ผบ.ร้อย ไม่พอใจหมู่อรรถ ก่อนที่หมู่อรรถจะรายงานให้ ผบ.ร้อย ทราบถึงพฤติกรรมของน้องชายแต่ทาง ผบ.ร้อย กลับนิ่งเฉย ไม่มีการลงโทษแต่อย่างใด
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม หมู่อรรถไม่ได้วิดีโอคอลตามเวลาที่คอลกันทุกวัน ตนจึงได้โทรไปหาหมู่อรรถทุกๆ 1 ชม. หมู่อรรถก็ยังไม่รับสายจนกระทั่งช่วงเวลา 02.00 น. ตนได้โทรไปอีกรอบหมู่อรรถก็ยังไม่รับสาย ตนจึงเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี เพราะทุกครั้งเวลาหมู่อรรถมีภารกิจจะโทรบอกก่อนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ผิดสังเกตจึงตัดสินใจไปที่ฐานของหมู่อรรถ เพื่อสอบถามหาหมู่อรรถว่าเป็นอะไรหรือไม่ พอไปถึงหน้าฐานช่วงเวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่ที่เข้าเวรอยู่ด้านหน้าได้โทรรายงาน ผบ.ร้อยว่าภรรยาของหมู่อรรถมาที่ฐาน
จากนั้นผบ.ร้อย และ รอง ผบ.ร้อย ก็เดินออกมาหน้าฐานและถามว่ามาทำไม ตนจึงได้ตอบกลับไปว่า มาหาหมู่อรรถเพราะโทรมาไม่รับสายเลยกลัวว่าจะเป็นอะไรจึงได้มาหา ทาง ผบ.ร้อย ได้ตอบกลับว่า หมู่อรรถสบายดีไม่เป็นอะไร รถจอดอยู่ตรงไหน ก็เดินกลับไปขึ้นรถทางนั้น แล้วรีบกลับบ้านไป ซึ่งทาง ผบ.ร้อย ใช้น้ำเสียงกริยาไม่โอเค ตนจึงได้ขับรถกลับมาบ้านและเวลานั้นคิดต่างๆ นานาว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับหมู่อรรถ
ตนจึงตัดสินใจไปหาผู้ใหญ่บ้าน เพื่อขอช่วยผู้ใหญ่บ้านไปหาหมู่อรรถเป็นเพื่อนตน เพราะคิดว่าคงเกิดอะไรขึ้นกับหมู่อรรถแน่นอน จากนั้นผู้ใหญ่บ้านก็ได้พาลูกน้องอีก 2 คน ไปเป็นเพื่อนด้วย ตอนนั้นเวลาเกือบจะ 6 โมงเช้าแล้ว และมาถึงหน้าฐานเป็นรอบที่ 2 จู่ๆ ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของหมู่อรรถอยู่ข้างใน ตนจึงได้ตะโกนเรียกหมู่อรรถและหมู่อรรถวิ่งออกมาและตะโกนว่า อยู่ตรงนี้ อยู่ตรงนี้ มาช่วยไขกุญแจมือออกหน่อย
ตนเห็นมีกุญแจมืออยู่ที่ข้อมือหมู่อรรถและมีโซ่ล่ามเอาไว้ ตนตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่ตนจะวิ่งไปหาหมู่อรรถพร้อมกับถ่ายวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน และเมื่อตนวิ่งไปถึงที่หมู่อรรถยืนโดนล่ามโซ่ ปรากฏว่าหน้าของหมู่อรรถมีเลือดไหลออกมาทางจมูกเหมือนกับโดนซ้อมทำร้ายร่างกาย ตนจึงได้ตะโกนถามหา ผบ.ร้อย ตามในคลิปที่ปรากฏ
ส่วนสาเหตุตนได้ถามหมู่อรรถว่ามาจากสาเหตุอะไรถึงโดนล่ามโซ่ หมู่อรรถเล่าว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ผบ.ร้อย และ รอง ผบ.ร้อย ได้ชวนหมู่อรรถกินเหล้า ซึ่งปกติแล้วหมู่อรรถไม่ค่อยกินเหล้าเท่าไร นานๆทีจะกิน ถ้ากินแล้วเวลาเมาอารมณ์มักจะหลุด หมู่อรรถเลยไม่ค่อยกินเหล้าทำแต่งานซะมากกว่า
จากนั้นหมู่อรรถก็เล่าต่อ ช่วงที่กินเหล้าอาการเมาเริ่มได้ที่แล้วก็มีการพูดโต้เถียงกันในวงเหล้าหลายๆเรื่อง ทำให้หมู่อรรถที่อยู่ในอาการเมาจึงเกิดการโต้เถียงเรื่องน้องชายของ ผบ.ร้อย เรื่องเสพยาบ้าในฐาน ทำให้น้องชาย ผบ.ร้อย ไม่พอใจขึ้นไปอีก พอทะเลาะมีปากเสียงถึงขั้นจะลงไม้ลงมือ ผบ.ร้อยได้ไล่ให้หมู่อรรถเข้าห้องกลับไปนอน พอหมู่อรรถเดินกลับมาถึงห้องด้วยนิสัยของหมู่อรรถ ถ้าไม่ผิดก็คือไม่ผิด จะเถียงหัวชนฝาทันที
เมื่อหมู่อรรถเดินกลับมาถึงห้องด้วยอารมณ์โกรธของหมู่อรรถยังคงค้างอยู่จึงได้เอะอะโวยวายตามประสาหมู่อรรถในห้องเพียงคนเดียว จากนั้น ผบ.ร้อยคงทนไม่ไหว จึงเดินมาถีบประตูห้องจนพังและภาพสุดท้ายที่หมู่อรรถเห็นก่อนภาพตัดโดนล่ามโซ่ คือ เห็น ผบ.ร้อย ถีบประตูเข้ามาพร้อมน้องชายและ รอง ผบ.ร้อย