ประกบยิงอดีตนายก อบต.นิคมลำนารายณ์ 2 สมัย ดับอนาถ

เมื่อช่วงเช้า วันที่ 5 กันยายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยบาดาล รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิตกลางถนน ซอย 130 ม.5 ต.นิคมลำนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย จนท.หน่วยกู้ภัยพ้งไล้ 16 ลำนารายณ์ 

ที่เกิดเหตุ พบศพของนายธวัชชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี เสียชีวิตในสภาพนอนหงาย ใกล้กันพบรถ จยย.ยี่ห้อ ยามาฮ่า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน XXยร-XX00 ลพบุรี ของผู้เสียชีวิตล้มอยู่ และรองเท้าแตะตกอยู่กลางถนน 

จากการตรวจสอบ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ลพบุรี พบว่า ผู้เสียชีวิตถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่บริเวณกลางหลัง 1 นัด และบริเวณศีรษะ (ท้ายทอย) อีก 1 นัด ต่อมา ผู้บังคับการ ภจ.ว.ลพบุรี และ ผกก.สภ.ชัยบาดาล พร้อมตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่ไล่กล้องวงจรปิดและหาข่าว เพื่อติดตามล่าตัวคนร้าย

นายไพศาล (สงวนนามสกุล) ซึ่งบ้านอยู่ริมถนนใกล้กับจุดเกิดเหตุ กล่าวว่า ขณะที่ทำงานอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 4 นัด จึงเดินออกมาดู ก็พบว่า มีคนร้ายจำนวน 2 คน สวมเสื้อแจ็คเก็ต สีดำ สวมหมวกกันน็อก ขัขขี่รถ จยย.ขนาดใหญ่ เหมือนพวกเก็บเงินกู้รายวัน ออกจากจุดเกิดเหตุด้วยความเร็ว มุ่งหน้าเข้าไปท้ายซอยด้านตะวันออก ตนเดินออกไปดูที่นอกรั้วบ้าน จึงได้พบอีกว่า มีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ก่อนจะรีบแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ด้านนายมนัส (สงวนนามสกุล) พี่ชายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า หลังจากเลิกเล่นการเมือง ผู้เสียชีวิตก็เก็บตัวเงียบๆ อยู่ในบ้านสวนเพียงคนเดียว ส่วนภรรยาไปทำงานที่ต่างจังหวัด มีลูกชาย 2 คน แต่ไม่ได้อยู่ร่วมกับผู้ตาย ส่วนเรื่องการเมือง ผู้เสียชีวิตเคยพูดว่า จะไม่หันลงไปเล่นการเมืองอีกแล้ว และเท่าที่ทราบ ก็ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใครแต่อย่างใด

สำหรับประวัติของนายธวัชชัย ผู้เสียชีวิตนั้น เคยดำรงตำแหน่ง นาย อบต.นิคมลำนารายณ์ 2 สมัย เมื่อปี 2549-2557 เป็นที่ยอมรับของคนในพื้นที่ว่า เป็นคนตรงไปตรงมา ไม่ยอมก้มหัวให้กับใคร ชอบทำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่ก่อนหน้านั้น ทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนค่อนข้างเจ้าชู้ ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เคยถูกคนร้ายรอบยิง แต่รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด แต่ก็มาโดนประกบยิงอีกจนเสียชีวิตในครั้งนี้

ด้าน พ.ต.อ.ชัยมิตร ผกก.สภ.ชัยบาดาล กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ส่วนปัญหาเรื่องการเมืองน่าจะตัดทิ้งไป คงมีประเด็นอื่นๆที่ต้องขอเวลา ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งหาข่าว สืบสวนสอบสวนเพื่อเร่งติดตามตัวคนร้าย มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป