ยายแทบขาดใจ หลานชายถูกยิงดับก่อนจะกลับมาเคาท์ดาวน์ที่บ้าน
ยายแทบขาดใจ หลานชายถูกยิงดับก่อนจะกลับมาเคาท์ดาวน์ที่บ้าน
ยายร่ำไห้แทบใจจพขาด หลังทราบข่าวหลานชายวัย 22 ถูกยิงเสียชีวิตกลางดึก ขณะขี่ จยย.จะกลับมาเคาท์ดาวน์ที่บ้าน ตำรวจรวบมือปืนอายุ 15 ปี อ้างป้องกันตัว
วันที่ 1 ม.ค.68 หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมจุด อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ นำร่างของนายธนทัต หรือ นัท (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี มาส่งที่บ้านในพื้นที่หมู่ 3 ต.ประเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านของนางหนู (สงวนนามสกุล) อายุ 84 ปี ยายของผู้เสียชีวิต หลังถูกวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่งยิงขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
โดยเมื่อนางหนู เห็นศพหลานตัวเองถึงกับร่ำไห้แทบเป็นจะขาดใจ เนื่องจาก มีหลานเพียงคนเดียวและเลี้ยงมาด้วยตัวเอง พร้อมเปิดเผยว่า ช่วงหัวค่ำ (31 ธ.ค.67) หลานบอกว่าจะไปเคาท์ดาวน์กับเพื่อนในหมู่บ้าน ตนไม่ว่าอะไร เพราะเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ตอนดึกมามีคนมาแจ้งว่าหลานถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ตนตกใจมากทำอะไรไม่ถูก จึงให้เพื่อนบ้านพาไปดูที่โรงพยาบาล พบว่าหลานเสียชีวิตจริงๆ ยอมรับว่า เสียใจมากเพราะตนมีหลานเพียงคนเดียว ตอนนี้ไม่อยากได้อะไรแล้ว อยากให้คนก่อเหตุตายตามหลานชายไปด้วย สำหรับตนชีวิตไม่เหลืออะไรอีกแล้ว
ขณะที่ นายนพวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี เพื่อนของผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลว่า พวกตน 6 คนขี่รถจักรยานยนต์ไปเที่ยวดูรถแห่อีกหมู่บ้านหนึ่ง เวลาประมาณ 23.30 น. (31 ธ.ค.67) เพื่อนบอกว่าจะรีบกลับไปเคาท์ดาวน์ที่บ้านตามที่นัดกันไว้ เมื่อขี่ จยย.มาตามถนนสาธารณะ ระหว่างบ้าน ดงย่อ-หนองขุนพรม ต.ปะเคียบ ได้มีกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่ง ขี่ จยย.สวนมาด้วยกัน 5 คัน ยิงใส่ตนซึ่งขี่นำหน้ารถเพื่อนที่เสียชีวิต แต่กระสุนไม่โดน จากนั้น ได้ยินเสียงปืนดังอีก 2 นัด เพื่อนที่เสียชีวิตคิดว่า กระสุนของกลุ่มคนร้ายน่าจะหมด จึงจอดรถแล้วพยายามเข้าไปหาวัยรุ่นกลุ่มที่ก่อเหตุ แต่โดนยิงสวนถูกกลางอกเสียชีวิตคาที่ดังกล่าว
ต่อมา ชุดสืบสวน สภ.คูเมือง อ.คูเมือง ได้ตามจับกุมกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดมาได้ 8 คน หนึ่งในนั้นคือนายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ชาว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ พร้อมอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก ซึ่งสารภาพว่าเป็นคนยิง เพราะเห็นผู้เสียชีวิตวิ่งเข้ามาจะทำร้าย จึงใช้ปืนที่พกมายิงไปหนึ่งเดียว แต่ไม่รู้ว่าโดนจุดไหน ส่วนปืนตนซื้อมาในราคา 2,000 บาท ตอนที่ไปกรุงเทพฯ
ตำรวจตรวจสอบอาวุธปืน พบว่า เป็นปืนไทยประดิษฐ์ แต่มี 2 ลำกล้อง ใส่กระสุนปืนลูกซองได้ และอีกลำกล้องหนึ่งใช้กระสุนขนาด.38 คาดว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะพอเข้าใจเรื่องปืน ว่าเสียงที่ดังขึ้นเป็นปืนลูกซอง ซึ่งส่วนใหญ่จะยิงได้นัดเดียว เมื่อเสียงปืนสงบลง จึงวิ่งเข้าไปหามือปืนหวังจะต่อสู้ จึงโดนยิงสวนด้วยลำกล้องขนาด .38 กระสุนตัดขั้วหัวใจเสียชีวิตดังกล่าว หลังสอบสวนนำตัวส่ง พ.ต.ท.ชนะมาร เต็นปักษี สารวัตร(สอบสวน) สภ.คูเมือง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นตั้งข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" และความผิดตาม "พ.ร.บ.อาวุธปืน" - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน