อย่าหลงตามกระแส! บุหรี่ไฟฟ้าทำลายสุขภาพคุณในระยะยาว

อย่าหลงตามกระแส! บุหรี่ไฟฟ้าทำลายสุขภาพคุณในระยะยาว

34821 ก.พ. 68 15:55   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

EVALI โรคร้ายจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า อาจทำให้ปอดอักเสบรุนแรงและส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจในระยะยาว

(เรียบเรียงโดย อพัชชา ทองสนิท และ กัญญาณัฐ อาศัย)

ในปัจจุบัน บุหรี่ไฟฟ้าสามารถหาซื้อได้ง่ายมาก ทั้งทางออนไลน์และร้านค้าทั่วไป อีกทั้งยังมีดีไซน์หลากหลายที่ทำให้ดูดึงดูด เช่น การออกแบบเป็นตัวการ์ตูนหรือตุ๊กตาต่างๆ ซึ่งอาจทำให้ผู้ปกครองไม่สามารถแยกแยะได้ว่ามันคือบุหรี่ไฟฟ้า ในบางครั้งจึงไม่สามารถตักเตือนหรือระมัดระวังการใช้บุหรี่ไฟฟ้าจากลูกหลานได้ ส่งผลให้กลุ่มเด็กและวัยรุ่นที่อาจยังไม่มีความเข้าใจในผลกระทบของมันเริ่มหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้ากันมากขึ้น ซึ่งก็เป็นไปตามกระแสหรือการเลียนแบบพฤติกรรมจากเพื่อนหรือคนรอบข้าง ทำให้บุหรี่ไฟฟ้าได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น

 

บางคนมองว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจแทนการสูบบุหรี่แบบดั้งเดิม เพราะมีควันน้อยกว่า และบางคนก็เชื่อว่าไม่เป็นอันตรายเท่า แต่จริงๆ แล้ว การใช้บุหรี่ไฟฟ้าก็ยังมีความเสี่ยงต่อสุขภาพเช่นกัน ทั้งจากการสูดสารเคมีต่างๆ ที่อาจทำลายระบบทางเดินหายใจ

 

ถึงแม้การสูบบุหรี่ไฟฟ้าจะทำให้ได้รับนิโคตินในปริมาณที่น้อยกว่าการสูบบุหรี่ธรรมดาในแต่ละครั้ง แต่การสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพียงแค่ 1 ครั้ง ก็สามารถส่งนิโคตินถึงสมองในเวลาเพียง 10 วินาที ซึ่งเร็วกว่าเมื่อสูบบุหรี่ธรรมดา 1 มวน บุหรี่ไฟฟ้ายังประกอบไปด้วยสารเคมีหลายชนิด ที่อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายในระยะสั้น เช่น ทำให้เกิดปอดอักเสบรุนแรงจนกลายเป็นโรคที่เรียกว่า "EVALI" หรือส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจในระยะยาว นอกจากนี้ บุหรี่ไฟฟ้ายังอาจมีสารก่อมะเร็งที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งอีกด้วย

 

EVALI ย่อมาจาก E-cigarette or Vaping product use Associated Lung Injury หรือ อาการปอดอักเสบรุนแรงที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ไฟฟ้า

 

ผู้ป่วยที่เป็นโรค EVALI โดยส่วนใหญ่ 95% มักจะมีอาการคล้ายการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย เช่น ไข้หนาวสั่น ไอ หายใจลำบาก ปวดเมื่อยตามตัว และพบว่า 77% ของผู้ป่วยมีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย นอกจากนี้ผู้ป่วยทุกคนที่ได้รับการตรวจ X-ray และ CT Scan ปอด มักพบความผิดปกติในปอด เช่น การมีฝ้าขาว และมีอาการหายใจลำบากจนไม่สามารถหายใจได้อย่างปกติ

 

ที่มา: โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง