ตำรวจแถลงเหตุคนไข้คลุ้มคลั่งหลั่งผ่าตัดถูกวิสามัญฯ

ตำรวจแถลงเหตุคนไข้คลุ้มคลั่งหลั่งผ่าตัดถูกวิสามัญฯ

72504 ม.ค. 68 21:06   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ตำรวจสุรินทร์แถลงเหตุคนไข้คลุ้มคลั่งหลังผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบ ยันคนไข้ถือขวานพุ่งใส่ ยิงพื้นขู่-ยิงขาสกัด ยังเอาไม่อยู่สุดท้ายต้องยิงลำตัวจนเป็นเหตุให้คนไข้เสียชีวิต

(4 ม.ค. 68) เวลา 15.30 น. พล.ต.ตสุคนธ์ ศรีอรุณ (ผู้บังคับการตรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์) พร้อม นายแพทย์ ชวมัย สืบนุการณ์ (ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์) อาคาร ชั้น2 สถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ได้มีการแถลงข่าว จากกรณีข่าวดังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไประงับเหตุผู้ป่วยผ่าตัดไส้ติ่งคลุ้มคลั่งอาละวาด ใช้ขวานจากตู้ดับเพลิงเป็นอาวุธ จะเข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่และผู้ป่วย สุดท้ายตำรวจต้องยิงระงับเหตุ จนทำให้คนไข้รายดังกล่าวเสียชีวิต


พล.ต.ตสุคนธ์ ศรีอรุณ (ผู้บังคับการตรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์) กล่าวว่า เมื่อวาน (3 ม.ค.) สถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ ได้รับแจ้งเหตุมีคนอาละวาดอยู่ที่โรงพยาบาลสุรินทร์  และได้สั่งการให้สายตรวจไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุที่โรงพยาบาลสุรินทร์อยู่ภายในตึก 9 ชั้น 4


เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบชายดังกล่าวอยู่ในอาการอาละวาด ในมือถือขวานซึ่งเป็นอุปกรณ์ผจญเพลิงซึ่งติดตั้งอยู่ที่โรงพยาบาล เป็นอาวุธด้วยที่ถือด้วยมือข้างขวา แล้วก็มือข้างซ้ายถือเสาน้ำเกลือ สายตรวจที่ลงพื้นที่ทั้ง 2 นาย ก็ดำเนินการตามหลักยุทธวิธีที่ได้รับการฝึกฝนมา และได้มีการพูดเจรจาเพื่อให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธลงเพื่อให้อยู่ในภาวะที่จะให้ควบคุมได้



แต่ปรากฏว่าการเจรจาไม่เป็นผล ผู้ก่อเหตุได้ตรงเข้าหาทางเข้าหาสายตรวจและกลุ่มเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่อยู่อยู่เกือบ 20 คน ผู้ก่อเหตุได้พุ่งตรงเข้าหาเจ้าหน้าที่สายตรวจ 2 คน จะใช้อาวุธขวานในมือ จะทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถอย แล้วก็ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงลงพื้น เพื่อจะให้ชายที่ก่อเหตุหยุดอาละวาด แล้วก็ลดอาวุธตามสั่ง


ปรากฏว่าก็ยังไม่หยุด ก็เลยยิงไปถูกบริเวณขาก่อน แล้วก็ไล่มาโดนแขนจนนัดสุดท้ายก็โดนบริเวณลำตัว แล้วก็ล้มลง หลังจากนั้นก็ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้าควบคุมแล้วก็ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่สุดท้ายผู้ก่อเหตุทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิต


ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ผู้ก่อเหตุก็ได้เข้าไปพยายามที่จะทำร้ายร่างกายคนป่วยคนอื่นๆ ซึ่งในนั้นยังมีคนป่วยอยู่เป็นจำนวนมาก แล้วก็ยังมีผู้ป่วยที่เป็นผู้ป่วยสูงอายุมากถึง 80 ปีแล้วก็ผู้ป่วยติดเตียงด้วย


นพ.ชวมัย สืบนุการณ์ (ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์) กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ป่วยที่มีลักษณะนิสัยแบบนี้พบได้ค่อนข้างที่จะมากขึ้น ซึ่งเคสดังกล่าวเป็นเคสที่ได้รับการส่งตัวมาจากโรงพยาบาลจอมพระ เนื่องด้วยมีอาการไส้ติ่งอักเสบ และได้มีการผ่าตัดเรียบร้อยและทราบว่าทางผู้ตายนั้นมีประวัติเสพติดสุรา


พอช่วงเช้าวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา เริ่มให้รับประทานอาหารได้หลังจากเวลา 12.00 น. ได้รับการรายงานมาจากเจ้าหน้าที่ว่ามีอาการพูดจาสับสน และมีการตรวจประเมินอาการขาดสุรา หลังจากการประเมินคะแนนในการประมาณอยู่ที่ระดับ 4 เป็นระดับที่เฝ้าระวัง และได้มีการดูแลผู้ป่วยรายนี้อย่างใกล้ชิด และมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยมาอยู่บริเวณใกล้ชิดเจ้าหน้าที่เพื่อความปลอดภัย



ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ยาเพื่อระงับอาการแต่ผู้ป่วยก็ยังไม่สงบ ก่อนจะลุกขึ้นบนเตียงพร้อมกับกระชากสายน้ำเกลือออกและคว้าเสาน้ำเกลือเดินออกไปทำร้ายบุคลากรและคนไข้ มีอุปกรณ์การแพทย์เสียหายเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ผู้ก่อเหตุพยายามจะเข้าไปดึงสายท่อช่วยหายใจออกจากปากผู้ป่วยวิกฤตด้วย โชคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาระงับเหตุได้ทันเวลา


หลังจากเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นทางโรงพยาบาลได้เร่งช่วยชีวิตผู้ก่อเหตุอย่างสุดความสามารถ มีการส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดและมีทีมแพทย์นับ 10 ชีวิต แต่ก็ยื้อเอาไว้ไม่ได้


ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สิ่งที่สำคัญก็คือการเยียวยาจิตใจเจ้าหน้าที่ที่ดูแลและปกป้องชีวิตของคนไข้ และไม่อยากให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก จึงอยากฝากเตือนคนที่เสพติดการดื่มสุราหรือบุหรี่ไฟฟ้า ใครที่เสพติดเป็นจำนวนมากอยากให้ลดลงเพื่อกันเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก


ขณะที่หัวหน้าวอร์ดที่เกิดเหตุเล่าว่าขณะเกิดเหตุได้ย้ายผู้ป่วยติดเตียงไปในที่ที่ปลอดภัย และได้มีเสียงทุบกระจกเสียงดัง นางงพยาบาลที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เล่าบอกว่าตอนนั้นได้หลบอยู่ในห้องน้ำ ซึ่งผู้ก่อเหตุได้อาละวาดทุบกระจก และได้ยินเสียงมือบิดลูกดประตู และในขณะนั้นได้มีญาติของคนไข้ได้ช่วยกันดันประตูไม่ให้ผู้ก่อเหตุเปิดประตูเข้ามายังห้องเจ้าหน้าที่ได้ ซึ่งถ้าเกิดว่าคนก่อเหตุสามารถเปิดประตูเข้าไปได้น่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม เพราะผู้ก่อเหตุมีอาวุธติดมือไปด้วย



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง