ปอศ.เปิด 4 ยุทธการ 5 จังหวัดใหญ่ทั่วประเทศ ปราบนายทุนเงินกู้นอกระบบ
ปอศ.เปิด 4 ยุทธการ 5 จังหวัดใหญ่ทั่วประเทศ ปราบนายทุนเงินกู้นอกระบบ

ปอศ.เปิด 4 ยุทธการ 5 จังหวัดใหญ่ทั่วประเทศ ปราบนายทุนเงินกู้นอกระบบ จับผู้ต้องหาได้ 8 ราย ยึดของกลางจำนวนมาก
(23มี.ค.68) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. , พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ. , พ.ต.ท.ภาคิน สุขพรหม รอง ผกก.5 บก.ปอศ. นำกำลังตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. เปิดยุทธการปูพรมปราบปรามนายทุนเงินกู้นอกระบบรวบและผู้กระทำผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ในพื้นที่ กทม. , จ.ปทุมธานี , จ.ชลบุรี , จ.ขอนแก่น และ จ.เชียงใหม่ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 8 ราย ตรวจยึดของกลางหลายรายการ
สำหรับ ยุทธการที่ 1 ขุดรากถอนโคนเครือข่ายเงินกู้แก๊ง “พลอยสยาม เงินทุน” ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ย ร้อยละ 2 ต่อวัน หรือร้อยละ 730 ต่อปี พื้นที่ จ.ชลบุรี ดำเนินคดี กับผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย ดังนี้
- นายป๋อง อายุ 32 ปี
- นางสาวอัญชลี อายุ 29 ปี
- นายพิมพ์พันธุ์ หรือ ติ๊ก อายุ 48 ปี (นายทุนใหญ่)
การจับกุมสืบเนื่องจากมีผู้เสียหายได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ว่า นายป๋อง ได้ปล่อยเงินกู้ให้กับตน โดยเสนอคิดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 2 ต่อวัน หรือร้อยละ 730 ต่อปี จากการสืบสวนพบว่า นายป๋อง อยู่ในเครือข่าย “แก๊งป๋อง สายบันเทิง” มีพฤติกรรมปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด มีอาวุธปืนข่มขู่ทวงหนี้ ชอบรวมกลุ่มแต่งและแข่งรถจักรยานยนต์บนท้องถนนรบกวนประชาชน อีกทั้งมักจะโพสต์ภาพอาวุธปืนและซื้อขายอาวุธปืนลงโซเชียลทำให้ผู้เสียหายหวาดกลัว
ทั้งนี้ยังพบว่ากลุ่มผู้กระทำความผิดมีการแบ่งหน้าที่กันทำเป็นกระบวนการ คือ 1.หน้าที่ในการหาลูกค้า โดยวิธีโปรยนามบัตรเงินกู้ตามหน้าบ้าน และสถานที่สาธารณะในเวลากลางคืน 2.หน้าที่คัดกรองลูกหนี้ และไปดูที่พักและที่ทำงานของลูกหนี้ 3. หน้าฝ่ายอนุมัติและทำสัญญา ทำหน้าที่ดูเอกสารพร้อมกับทำเอกสารสัญญาเงินกู้กับลูกหนี้ 4.ฝ่ายติดตามทวงถามหนี้ ทำหน้าที่ตามเก็บเงินกับลูกหนี้ในทุกวัน
ขณะที่เส้นทางการเงินพบเครือข่ายดังกล่าวมีเงินหมุนเวียน กว่า 12 ล้าน โดยมี นายพิมพ์พันธุ์ เป็นนายทุนใหญ่ และมีนายป๋อง , น.ส.อัญชลี เป็นเครือข่ายในแก๊งดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำหมายค้นตรวจค้นบ้านพักของนายป๋อง และ น.ส.อัญชลี โดยพบนามบัตรพิมพ์คำว่า “พลอยสยาม เงินทุน”จำนวนกว่า 2 แสนใบ และเอกสารลูกหนี้ที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินอีกจำนวนหลายรายการ ส่วนบ้านของ นายพิมพ์พันธุ์ ที่เป็นนายทุนใหญ่ของกลุ่มปล่อยเงินกู้ใบปลิว "พลอยสยาม เงินทุน" ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จากนั้นจึงได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป โดยทั้งหมดถูกแจ้งข้อหา “ร่วมประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด”
ด้าน ยุทธการที่ 2 “ทลายแก๊งวัยรุ่นสร้างตัว เปิดเพจปล่อยเงินกู้ ดอกเบี้ยโหด MC Credits” พื้นที่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น จับกุม นายณัฐนันท์ อายุ 31 ปี โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาตและเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด”
การจับกุมสืบเนื่องจากเมื่อเดือน พ.ย.2567 มีผู้เสียหายได้แจ้งเบาะแสต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ว่ามีเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ “MC Money Credit” มีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้ผู้นอกระบบ ร้อยละ 1.546 ต่อวัน หรือร้อยละ 564.43 ต่อปี ต่อมาเมื่อผู้เสียหายเริ่มผ่อนชำระดอกเบี้ยคืนไม่ตรงกำหนด กลุ่มผู้กระทำความผิดได้ส่งข้อความทวงถามหนี้ ต้องการที่จะให้ผู้เสียหายชำระดอกเบี้ยที่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ทั้งที่ซึ่งผู้เสียหายชำระหนี้จนเกินยอดเงินต้นไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้เสียหายเกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัย จึงได้เข้าร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ต่อมาได้ขออนุมัติหมายค้นเพื่อเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว ก่อนจับกุมตัว นายณัฐนันท์ โดยเจ้าตัวยอมรับว่าเฟซบุ๊กชื่อ “MC Money Credit” เป็นเพจปล่อยเงินกู้ให้กับบุคคลที่สนใจกู้ยืมเงิน โดยจะเน้นลูกค้าที่มีอาชีพเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือมีกิจการเป็นของตนเอง โดยจะเดินทางไปดูกิจการและหน้างานของลูกค้าด้วยตนเอง และใช้บัญชีตนเองปล่อยเงินต้นและรับดอกเบี้ย จากนั้นจึงได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป
ด้าน ยุทธการที่ 3 “รวบแก๊งเงินกู้คอปกขาว” หัวหมอไม่แคร์สื่อ ปล่อยกู้ 50,000 บาท ทวงคืน 250,000 บาท อัดดอกเบี้ยไม่ยั้ง ผู้เสียหายโดนยึดทรัพย์ระนาว พบเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาท พื้นที่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี และ พื้นที่ เขตวังทองหลาง กทม. จับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย ประกอบด้วย นายสุรทิน อายุ 63 ปี , น.ส.รัสรินทร์ อายุ 59 ปี , น.ส.ภัทราพร อายุ 24 ปี
การจับกุมสืบเนื่องจากมีกลุ่มผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ว่ามีนายทุนนอกระบบปล่อยเงินกู้ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน หรือร้อยละ 120 ต่อปี และบังคับให้เขียนสัญญากู้ไม่ตรงกับความเป็นจริง เช่น โอนเงิน ให้ลูกหนี้ 50,000 บาท แต่ให้เขียนสัญญา 250,000 บาท หากลูกหนี้ชำระหนี้ ไม่ตรงเวลาก็จะนำสัญญาดังกล่าว ไปฟ้องต่อศาล และบังคับคดียึดทรัพย์ อายัดทรัพย์สินจำนวนหลายราย
ตรวจสอบเส้นทางการเงินพบเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาท และมีผู้ร่วมกระบวนการจำนวนหลายราย จึงได้ขออนุมัติต่อศาลเพื่อตรวจค้น 2 จุด พบหลักฐานเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้นอกระบบ และการฟ้องร้องคดีลูกหนี้อย่างไม่เป็นธรรมจำนวนหลายรายการ จากนั้นจึงได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป ทั้งหมดถูกแจ้งข้อหา“ร่วมประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด”
สุดท้าย ยุทธการที่ 4 บุกทลายที่พักนายทุนเงินกู้นอกระบบสาวเมืองเหนือ ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด รับจำนำรถจักรยานยนต์ เรียกดอกร้อยละ 186 ต่อปีพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ สามารถจับกุมตัว นางกัลยา อายุ 46 ปี ในข้อหา “ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด”
การจับกุมสืบเนื่องจากมีผู้เสียหายได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ว่า นางกัลยา ได้ปล่อยเงินกู้ โดยเสนอคิดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 186 ต่อปี และมีการให้นำรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์มาจำนำกับตนเพื่อเป็นค้ำประกันให้ชำระหนี้ตามที่ต้องการ เมื่อผิดนัดชำระหนี้จะบังคับยึดรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่นำมาค้ำประกัน ผู้เสียหายจึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ.
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ได้นำหมายค้นของศาล เข้าค้นบ้านพักของนางกัลยา พบ รถจักรยานยนต์ และรถยนต์ จอดอยู่ภายในบ้านจำนวนมาก ซึ่งคาดว่ามีผู้เสียหายรายอื่นๆที่มากู้เงินอีกหลายราย นอกจากนี้ยังพบเอกสารเกี่ยวกับการจำนำรถ , โทรศัพท์มือถือ , เอกสารข้อมูลลูกหนี้ และสมุดบัญชีธนาคาร จำนวนกว่า 20 รายการ จากนั้นจึงได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป
สอบสวน นางกัลยา ยอมรับว่า ปล่อยเงินกู้นอกระบบในอัตราร้อยละ 186 จริง โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องนำรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์มาจำนำกับตน เพื่อให้สามารถยึดทรัพย์สินดังกล่าวได้ หากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามที่กำหนด
ข่าวเวิร์คพอยท์23
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
