ร่างทรงลวงสองสาวทำพิธีพิสดาร ก่อนล่วงละเมิดฯ

(30พ.ย.67)กรณีที่เพจ“กำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่”ได้โพสต์ข้อความ สาวใหญ่ร้องถูกร่างทรง ล่วงละเมิดทางเพศ ทักโดนของเขมร...ต้องเอาของเขมรแก้ 

ต่อมา สิบเอกประจักรกฤษ สายทิพย์ แอดมินเพจฯ พร้อมทีมงาน ได้เดินทางพาผู้เสียหาย 2 ราย คือ น.ส.เอ(นามสมมติ) อายุ 38 ปี และ น.ส.บี(นามสมมติ) อายุ 27 ปี เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกำแพงเพชร    

น.ส.เอ ให้การว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ไปรับน้ำมันจากพระวัดหนึ่งมาบูชาเพื่อให้ค้าขายดี แต่ชีวิตกลับแย่ลงเรื่อย ๆ จึงได้เข้าไปหาร่างทรงที่ตำหนักแห่งนี้ให้ช่วยเหลือ ซึ่งก็โดนทักกลับมาว่าตนเองนั้นถูกทำของเขมรใส่ ซึ่งน้ำมันดังกล่าวที่นำมาจากพระเป็นน้ำมันผีตายโหง ทำให้ชีวิตต้องย่ำแย่ โดยต้องทำพิธีอาบน้ำมนต์ถอนของ 

น.ส.เอ ให้การต่อไปว่า ร่างทรงได้บอกว่าสำหรับตนนั้นต้องทำพิธีอาบน้ำมนต์พิเศษกว่าคนอื่นเพราะของเขมรที่โดนทำใส่นั้นแรงมาก หากไปที่อื่นทำพิธีจะเรียกเงินครั้งละ 4 - 5 พันบาท แต่ที่นี่จะทำให้ฟรี โดยให้ตนเข้าไปในห้องน้ำและได้ทำน้ำมนต์อาบให้กับตน จากนั้นให้เปลี่ยนใส่ชุดขาว ซึ่งก็ให้ตนถอดเสื้อผ้าออกให้หมดที่ละชิ้น พรัอมทั้งนำเทียนมาจุดไฟและนำมาเขียนยันต์ลงตามร่างกายของตน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ทำแบบนี้มา 1 ครั้ง แต่ครั้งนี้ได้มีเพศสัมพันธ์กับตนด้วย 

น.ส.เอ กล่าวอีกว่า หลังจากร่างทรงได้นำเทียนมาเขียนยันต์ลงกายตนเอง จากนั้นก็ได้ออกไปนำสีผึ้งและน้ำมันพืชมาทำพิธีต่อ ระหว่างนั้นภรรยาของร่างทรงได้ผลักประตูห้องน้ำเข้ามาเห็นตนแก้ผ้าจนหมดจึงได้ถามว่าแก้หมดเลยหรือ ซึ่งจากนั้นก็ได้เรียกร่างทรงที่เป็นสามีมาทำพิธีให้ต่อ โดยได้ปิดไฟและล็อกประตูห้องน้ำทำพิธีต่อ 

“เริ่มเอะใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จากนั้นก็ถูกถอดชุดชั้นในและใช้น้ำมันพืชลูบไล้และล้วงไปในอวัยวะเพศ จนตนตกใจและปัดมือออก ซึ่งร่างทรงก็ห้ามตนส่งเสียงดัง เพราะตนถูกของเขมรเต็ม ๆ พระที่ตนไปเอาน้ำมันมาได้ทำของใส่แรงมาก ต้องทำพิธีถอนของครั้งใหญ่” น.ส.เอ กล่าว

น.ส.เอ กล่าวด้วยว่า จากนั้นร่างทรงได้ถอดกางเกงของตัวเองออก ซึ่งจากนั้นร่างทรงก็ได้ใช้เทียนเขียนยันต์ตามร่างกายและลูบไล้ไปทั่วพร้อมท่องคาถาไปมา โดยตะโกนบอกว่า“โหงพราย”มาช่วยพ่อที ตนก็กลัวของเข้าตัวจึงไม่ร้องเสียงดัง โดยวันนั้นใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง ในการทำพิธี 

“สังเกตเห็นว่าอวัยวะเพศของร่างทรงแข็งตัวและถูกจับสอดใส่เข้ามาในอวัยวะเพศของตนและทำจนเสร็จกิจสำเร็จความใคร่ จากนั้นร่างทรงได้บอกกับตนว่ารู้ไหมของเขมรต้องแก้ด้วยวิธีนี้” น.ส.เอ กล่าว

น.ส.เอ บอกด้วยว่า นอกจากนี้ยังสังเกตเห็นแสงแฟลชจากโทรศัพท์ในร่องของประตูห้องน้ำ จึงผลักตัวของร่างทรงออกและรีบใส่เสื้อผ้าแต่กลับถูกดึงให้ไปทำพิธีต่อ ตนรู้สึกว่ามีคนแอบถ่ายอยู่นอกห้องน้ำจึงรีบออกมาทันที ซึ่งร่างทรงก็ทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

“ตนรู้สึกกลัว ไม่กล้าสู้หน้ากลัวจะมีเรื่อง เพราะออกมาเจอหน้าภรรยาของร่างทรงก็ทำหน้าไม่ดีกับตน กลัวว่าสามีจะรู้เรื่องดังกล่าวจึงเก็บเรื่องราวไว้เพียงคนเดียว แต่ก็ได้ไปพูดเตือนให้ลูกศิษย์ของตำหนักอีกคนฟังเพื่อระวังตัว” น.ส.เอ ระบุ

น.ส.เอ บอกอีกว่า จนวันนี้ตนทนไม่ไหวแล้วและได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ที่ถอยออกมาเพราะว่าร่างทำอัปรีย์จัญไร เทวดาครูอาจารย์ก็ยังคงรักเหมือนเดิม แต่ไม่นับถือร่าง พร้อมทั้งแท็กลูกสาวและลูกเขยของตน จากนั้นภรรยาและร่างทรงพรัอมคนในครอบครัวได้มาต่อว่าลูกสาวและตนเองถึงห้องพักและจะแจ้งความที่ตนโพสต์ข้อความหมิ่นประมาท 

“ได้ย้อนถามกลับไปว่ารู้ไหมว่าผัวของ..ทำอะไรกับ..บ้าง อาบน้ำมนต์ทำอัปรีย์จัญไร และ.. ซึ่งภรรยาของร่างทรงก็ได้บอกว่าตนพยายามจะแย่งสามีและจะไปแจ้งความกลับด้วย จึงนำเรื่องนี้ร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกับแอดมินเพจ กำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่” น.ส.เอ ระบุ

น.ส.เอ บอกด้วยว่า ตนทนไม่ไหวแล้วกับการถูกกระทำดังกล่าว แม้คนในครอบครัวหรือสามีจะรู้ก็ยอม แต่ต้องออกมาเปิดเผยเรื่องทั้งหมดเพื่อขอความเป็นธรรม โดยตนถูกกระทำมาทั้งหมด 2 ครั้ง จากนั้นก็เริ่มออกห่างร่างทรง ตนทราบว่ามีผู้เสียหายอีกหลายรายแต่ก็ไม่กล้ามาแสดงตัว 

“ร่างทรงท้าทายให้ไปแจ้งความได้เลย พร้อมอ้างว่ามีลูกศิษย์เป็นตำรวจยศใหญ่มากมายไม่มีใครทำอะไรได้ ตนกลัวความไม่ปลอดภัยและอยากจะได้รับความเป็นธรรมจึงนำเรื่องทั้งหมดออกมาเปิดเผยครั้งนี้” น.ส.เอ กล่าว

ด้าน น.ส.บี เล่าว่า ตนได้ไปร่วมงานไหว้ครูที่ตำหนักร่างทรงดังกล่าว ซึ่งก็ได้ถูกทักว่าโดนทำของเขมรใส่ ต้องทำพิธีอาบน้ำมนต์ถอนของ โดยให้ตนเข้าไปในห้องน้ำภายในตำหนักและร่างทรงได้ล็อกประตู และพยามจะถอดเสื้อผ้าของตนออก ตนปัดมือและบอกว่าไม่ขอถอด จากนั้นก็ได้ออกมาจากห้องน้ำทันที พร้อมเดินไปบอกเมียของร่างทรงว่าร่างทรงจะให้ตนถอดเสื้อผ้า 

น.ส.บี บอกอีกว่า ร่างทรงก็พยายามจะให้ตนกินเหล้าครึ่งกลม แต่ตนกินไปนิดเดียว ซึ่งวันนั้นเป็นวันไหว้ครูภายในตำหนัก โดยเจ้าของตำหนักอ้างว่าเป็นร่างทรงปู่ฤๅษี พรานบุญสายใต้ และสายยักษ์ ตนดูข่าวแนวนี้เลยไหวตัวทัน ซึ่งได้บอกกับแม่ตนเองว่าตนนั้นโดนของอยากให้อาบน้ำมนต์ แต่ตนไม่อาบจึงได้ทำน้ำมนต์ฝากกับแม่มาให้ตนอาบที่บ้านแทน โดยตนได้ถ่ายคลิปบางช่วงบางตอนขณะทำพิธีในตำหนักที่เกิดเหตุไว้

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับร่างทรงดังกล่าว ปรากฏว่าร่างทรงได้ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลพร้อมทั้งบอกว่าจะติดต่อกลับมา โดยยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นก็วางสายไป 

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกำแพงเพชร ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหาย และรวบรวมหลักฐานเพื่อที่จะออกหมายเรียกร่างทรงดังกล่าวมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี 

เบื้องต้นผู้เสียหายทั้ง 2 ราย จะเดินทางไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร เพื่อนำผลตรวจส่งประกอบสำนวนคดีเพื่อเอาผิดร่างทรงผู้ก่อเหตุต่อไป