จนท.ป่าไม้ และ ตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่ตรวจสอบ 'ไร่เชิญตะวัน'

วันที่ 21 ต.ค. 67 เจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้ ตำรวจสอบสวนกลาง ตัวแทนสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย ร่วมตรวจสอบที่ดินภายในศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน (ว.วชิรเมธี) ในพื้นที่ชุมชนบ้านสันป่าเลียง ม.25 ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย โดยได้รับความสนใจจากผู้สื่อข่าวหลายสำนักมาตั้งหลังถ่ายทำข่าว

นายประสิทธิ์ ท่าช้าง ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) และ พ.ต.ท.ยศวัฒน์ เอกกุล สว.กก.4 บก.ปทส. เผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่จากสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) กรมป่าไม้และเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง นำกำลังเจ้าหน้าที่ รวมประมาณ 30 นาย เข้าทำการตรวจสอบศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวันฯ ตามคำสั่งของนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ และ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. 

โดยมีแนวทางปฏิบัติคือ วันนี้ทางเจ้าหน้าที่จะทำการเดินวัดพิกัด GPS ตามการนำชี้แนวเขตของตัวแทนผู้ขออนุญาตใช้สถานที่ ซึ่งสำหรับในกรณีนี้ก็คือ มูลนิธิวิมุตตยาลัย และ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้ยื่นขออนุญาติใช้พื้นที่กับสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) โดยวันนี้จะทำการเดินชี้แนวเขตจากพื้นที่ที่ขออนุญาตทั้งหมด 143 ไร่ และหลังจากได้ข้อมูลตรงนี้ ทางเราจะนำข้อมูลที่ได้ไปเข้าสู่ที่ประชุมร่วม เพื่อพิจารณาว่ามีพื้นที่ตรงกับที่ได้ขออนุญาตไว้หรือไม่ และมีพื้นที่ที่รุกล้ำเขตป่าสงวนเพิ่มเติมกี่ไร่หรือไม่อย่างไร 

ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้ก็ต้องนำเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบโดยละเอียดเสียก่อน ตอนนี้ยังคงบอกไม่ได้ว่ามีการกระทำผิดกฏหมายหรือไม่อย่างไร เป็นเพียงการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งเราจะพยายามทำการตรวจสอบตามคำสั่งอย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ตามข้อมูลเอกสาร พบว่าที่ดินของศูนย์วิปัสนาไร่เชิญเชิญตะวัน (ว.วชิรเมธี) มีการขออนุญาตทั้งหมด 3 แปลง ประกอบด้วย ที่ดินเนื้อที่ 113 ไร่ 1 งาน 83 ตารางวา อยู่ในเขตป่าสงวนป่าดอยปุย ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย ขออนุญาตโดยมูลนิธิวิมุตตยาลัย เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 66 เพื่อใช้เป็นมหาวิชชาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์ ธรรมสมโภช 750 ปี รัตนบุรีเชียงราย โรงเรียนชาวนาพุทธเศรษฐศาสตร์ และเพื่อใช้เป็นสถานที่วิปัสสนากรรมฐาน ระยะเวลาขออนุญาต 30 ปี จากวันที่ 13 มี.ค. 66 ไปจนถึง 12 มี.ค. 96

ที่ดินแปลงที่ 2 เนื้อที่ 14 ไร่ 3 งาน 97 ตารางวา ขออนุญาตโดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อใช้เป็นที่ตั้งวัดไร่เชิญตะวัน ขออนุญาตเป็นระยะเวลา 30 ปี ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. 66 ไปจนถึง 22 พ.ย. 96 และแปลงสุดท้าย ขออนุญาตโดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เนื้อที่ 11 ไร่ 3 งาน 01 ตารางวา เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์วิปัสสนาไร่เชิญตะวัน ระยะเวลา 30 ปี ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. 66 ไปจนถึง 22 พ.ย. 96 

แต่จากข้อมูลในเบื้องต้นที่ตรวจพบว่ามีการใช้พื้นที่จริงไป 190 ไร่ ซึ่งถือว่าเกินจากที่ได้ขออนุญาตใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ 143 ไร่ ซึ่งพื้นที่ป่า 47 ไร่ ที่เกินมานั้นจะต้องมีการตรวจสอบเพื่อหาความชัดเจนว่ามีการรุกล้ำพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่ หากตรวจสอบรังวัดแล้วพบว่า ใช้พื้นที่เกินอนุญาตจริงและพื้นที่ ที่เกินมานั้นอยู่ในพื้นที่ป่าสงวน เจ้าหน้าที่ก็จะสามารถแจ้งความเอาผิดฐานบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ม.14 ห้ามมิให้ผู้ใดยึดถือครอบครอง ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ หรือกระทำการใดๆอันเป็นการทำให้ป่าเสื่อมโทรม มีโทษ จําคุก 1-20 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท ถ้าได้กระทําเกินเนื้อที่เกินกว่า 25 ไร่ จําคุกตั้งแต่ 4 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาทถึง 2,000,000 บาท