ตำรวจเร่งรวบรวมหลักฐานเอาผิด “บอสพอล”

ตำรวจเร่งรวบรวมหลักฐานเอาผิด “บอสพอล”

82812 ต.ค. 67 19:25   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ตำรวจตรวจบริษัท “ดิ ไอคอน” เร่งรวบรวมพยานและหลักฐานเอาผิด “บอสพอล” ถึงวันนี้ผู้เสียหายให้ปากคำแล้ว 488 ราย ความเสียหาย 178 ล้านบาท - ชี้ บอสคนดังที่เข้าให้ปากคำแล้วยังไม่พบความผิด ยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหา ต้องรอรวบรวมข้อมูลเพิ่ม

(12 ต.ค. 67) พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดี ดิไอคอน กรุ๊ป ว่า ในวันนี้มีผู้เสียหายเดินทางเข้ามาให้ปากคำทั้งหมด 235 คน ยอดรวมผู้เสียหายทั้งหมด 488 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 178 ล้านกว่าบาท


นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม เป็นต้นมา พนักงานสอบสวนได้หลักฐานที่เป็นพยานบุคคล ซึ่งเรากำลังตามหาพยานวัตถุที่เป็นเอกสาร ที่มีความเชื่อมโยงของแต่ละเครือข่ายของบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป ซึ่งในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขอหมายตรวจค้นกับทางศาลอาญารัชดา ทั้งหมด 9 จุด ยังอยู่ในระหว่างตรวจค้นหาหลักฐานความเชื่อมโยงทั้งหมด


อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ , กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง , กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI , สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. และ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ได้ประชุมร่วมกันเพื่อหาทางคลี่คลายคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด


ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป สามารถเข้าให้ปากคำกับสถานีตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อความสะดวกในการเดินทาง  ส่วนที่กองบังคับการปราบปราม ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมพนักงานสอบสวนไว้ 70 นาย คอยสอบปากคำกับผู้เสียหายที่มาร้องเรียน โดยมีอาหารและเครื่องดื่มคอยบริการ


ส่วนเรื่องการออกหมายจับกับผู้บริหารของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป และดาราคนอื่นที่เกี่ยวข้อง พล.ต.ต.โสภณ รอง ผบช.ก เผยว่า ตอนนี้ผู้บริหารที่ถูกกล่าวหา คือ บอสพอล ที่ เข้าข่ายความผิด พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน 2547 อาจเป็นช่องว่างทางกฎหมาย ที่ทางผู้ถูกกล่าวหาอาจไม่มีความผิด ซึ่งการออกหมายจับใรตอนนี้ยังทำไม่ได้ ยังอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานที่เป็นเอกสารโดยเฉพาะการสอบปากคำผู้เสียหายรายบุคคล  ซึ่งแต่คนละคนมีพฤติการณ์ที่แตกต่างกันไป รวมไปถึงการบุกเข้าตรวจค้นในครั้งนี้ที่เป็นสิ่งที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังพยายามจะหาหลักฐานที่เป็นเอกสารเชื่อมโยงของบริษัทฯ เพื่อนำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหากับผู้บริหารบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 


ส่วนบุคคลอื่นๆที่ทยอยเข้าพบพนักงานสอบสวนในตอนนี้ ยังไม่เข้าข่ายความผิดใดๆและยังไม่ถูกกล่าวหา นอกจากนี้ทางพนักงานสอบสวนยังตรวจพบว่ามีบุคคลของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป บางรายมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อีกด้วย


ส่วนกรณีที่ผู้บริหาร ดิไอคอน กรุ๊ป เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ก่อนถูกออกหมายเรียกนั้น ทุกอย่างก็เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 วรรคหนึ่ง เขาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน จึงไม่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานก่อนถึงจะดำเนินการขั้นตอนต่อไปโดยเป็นการออกไม่เรียกหรือเป็นการออกหมายจับ


ส่วนเลขบัตรประชาชนของ บอสพอล หรือ วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ผู้บริหาร ดิไอคอนกรุ๊ป ที่ขึ้นต้นด้วยเลข 5 นั้น สมมติฐานว่าไม่ได้เป็นคนไทยใช่หรือไม่นั้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องไปถามผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงให้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว ส่วนจะยึดหนังสือเดินทางหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับทางเจ้าตัว ว่าจะให้ยึดเอกสารดังกล่าวหรือไม่ เพราะในตอนนี้ยังไม่มีพฤติการณ์หลบหนี



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง