คืบฆ่า 3 ศพ! เผยอาศัยอยู่กับศพพ่อแม่ 2 วัน ก่อนลงมือกับน้องชาย ล่าสุดตรวจฉี่ไม่พบสารเสพติด
คืบฆ่า 3 ศพ! เผยอาศัยอยู่กับศพพ่อแม่ 2 วัน ก่อนลงมือกับน้องชาย ล่าสุดตรวจฉี่ไม่พบสารเสพติด

คืบฆ่า 3 ศพ! เผยลูกคลั่งฆ่าพ่อแม่อาศัยอยู่กับศพ 2 วัน ก่อนลงมือกับน้องชาย จับตรวจฉี่ไม่พบสารเสพติด พบประวัติการรักษาป่วยจิตเวช ล่าสุด ตร.ยังไม่แจ้งข้อหา ต้องส่งตรวจสรุปผลทางจิตก่อน
(2 เม.ย.68) จากกรณีเหตุการณ์สลด ลูกชายวัย 51 ปี ก่อเหตุฆาตกรรมพ่อแม่ของตัวเอง และน้องชายที่เข้าไปพบว่าพ่อแม่ถูกฆาตกรรมแล้ว กลายเป็นศพที่ 3 โดยมีผู้ก่อเหตุคือนายอั้น (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พ.ต.อ.สุทัศน์ สงสยม รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พร้อมนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เข้าติดตามตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เนื่องจากเป็นเหตุสะเทือนขวัญ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบุคลคลแล้ว พบว่า ในห้องนอนมีอยู่ 2 ศพบนที่นอน คือนายสะอาด (สงวนนามสกุล) อายุ 82 ปี อีกรายคือนางปลื้ม (สงวนนามสกุล) อายุ 71 ปี เป็นพ่อและแม่ของผู้ก่อเหตุ ส่วนอีกศพที่อยู่ประตูหน้าบ้านคือ นายอนันตศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี เป็นน้องชายของผู้ก่อเหตุ จากการประมวลเวลาการก่อเหตุ เจ้าหน้าที่เชื่อว่า นายสะอาดและนางปลื้ม ซึ่งเป็นพ่อแม่นั้น ถูกฆาตกรรมก่อน เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 48 ชั่วโมง โดยมีนายอั้น ผู้ก่อเหตุอาศัยอยู่ในบ้านกับศพของพ่อแม่ ต่อมา นายอนันตศักดิ์ น้องชายได้มาที่บ้านและพบว่า พ่อแม่เสียชีวิตไปแล้ว จึงถูกนายอั้น พี่ชาย ก่อเหตุฆาตกรรมเสียชีวิตไปอีกราย หลังจากนั้นนายอั้น อาศัยอยู่ในบ้านกับศพพ่อแม่และน้องชาย กระทั่งมีผู้มาพบเห็นแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่
พ.ต.อ.สุทัศน์ เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบการใช้อาวุธของนายอั้น ผู้ก่อเหตุ พบว่า มี 2 ชนิดคือ เหล็กแทงปาล์ม และมีดพร้า เมื่อตรวจสอบประวัติผู้ก่อเหตุพบว่าเมื่อ 4 ปีก่อน ป่วยจิตเวชรุนแรง ครอบครัวได้นำไปรักษาที่ รพ.สงขลา และรับยามารับประทานเรื่อยมา หลังจากคุมตัวได้นำไปตรวจสารเสพติด ไม่พบว่ามีสารเสพติดในปัสสาวะ
ซึ่งตลอด 4 ปีที่ไปรักษาตัวนั้น ไม่มีประวัติการทำร้ายคนในครอบครัว เพื่อนบ้านไม่เคยพบเห็นการมีปากเสียงหรือวิวาทในครอบครัว ตำรวจท้องที่ไม่เคยรับแจ้งเหตุมาก่อนเลย ก่อนที่จะพบศพเพื่อนบ้านสงสัยว่า ในครอบครัวไม่มีใครออกจากบ้านมา 2-3 วันแล้ว มีเพียงนายอั้นเดินอยู่บ้าง จึงเดินมาดูและได้กลิ่นศพ จากนั้นได้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช กล่าวด้วยว่า ขณะนี้แม้คุมตัวนายอั้นไว้ได้ แต่ยังไม่สามารถแจ้งข้อหาตามฐานความผิดได้ ยังอยู่ระหว่างคุมตัวไปยัง รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช เพื่อให้แพทย์ตรวจชี้ว่า ผู้ก่อเหตุรายนี้อยู่ในภาวะป่วยจิตเวชหรือไม่ อยู่ในภาวะปกติรับรู้ผิดชอบชั่วดีหรือไม่ หากไม่สามารถชี้ชัดได้ต้องส่งต่อไปยัง รพ.สราญรมย์สุราษฎร์ธานี เพื่อให้แพทย์ชี้สภาพอาการก่อน หากพบว่าป่วยจิตเวชจะต้องรักษาให้หาย แล้วจึงแจ้งข้อกล่าวหา และหากพบว่าขณะเกิดเหตุและตรวจแล้วไม่พบว่ามีอาการจิตเวช สามารถแจ้งข้อหาดำเนินคดีได้เลย ทั้งนี้ต้องผลสรุปการตรวจนายอั้น จากแพทย์อย่างเป็นทางการก่อน - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
