รวบ 3 คนไทยแก๊งสแกนหน้า รับจ้างเปิดบัญชีม้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

(16 มี.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.อรัญประเทศ , พ.อ.เมธี คำเต็ม ผบ.ชค.ทพ.12 ประสานงาน พ.ต.อ.ภัทรกร ขาวนวล ผกก.สภ.คลองลึก ให้กำลังพลร่วมกัน ทำการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจในพื้นที่ล่อแหล่ม บริเวณ บ.ท่าข้าม ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยตรวจพบบุคคลต้องสงสัยเป็นชาย จำนวน 3 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระ ขณะกำลังเดินเท้าจากบริเวณแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย มุ่งหน้าเข้ามายังประเทศไทย จึงได้ทำการเข้าตรวจสอบ ทราบว่า เป็นชาวไทย ตรวจไม่พบหนังสือเดินทาง (Passport) ทราบชื่อต่อมาคือ 

1. นายการน์ภัส (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ชาวบ้านหมู่ 10 บ.วิถีสวรรค์ ต.วัดไทร อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 
2. นายอำนวย (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ชาวบ้านหมู่ 11 บ.หนองบัวเงิน ต.โพนแพง อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย 
3. นายบารมี (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 บ.บางแพใต้ ต.บางแพ อ.บางแพ จ.ราชบุรี 

สอบสวนให้การว่า มีคนไทยชื่อ "นายโก้" ได้ติดต่อชักชวนให้ไปทำงานที่ประเทศกัมพูชา เป็นงานคอยสแกนใบหน้าผ่านแอปพลิเคชั่นธนาคาร และให้ไปเปิดบัญชีธนาคาร จำนวน 5 ธนาคาร แล้วจะได้ค่าจ้างในราคาที่สูง โดยทั้ง 3 คน ได้ถูกชักชวนจากบริเวณสถานีกลางบางซื่อ กทม.เหมือนกัน เนื่องจาก นายโก้เป็นนายหน้า คอยหาคนไปทำงานอยู่แถวบริเวณสถานีกลางบางซื่อเป็นประจำ เมื่อนัดแนะเสร็จสิ้น จึงได้แยกย้ายกันเพื่อไปดำเนินการเปิดบัญชีธนาคาร จำนวน 5 บัญชี 

ต่อมา วันที่ 8 มี.ค.68 เวลา 15.00 น.นายการน์ภัส , นายอำนวย และนายบารมี พร้อมนายโก้ เดินทางออกจาก กทม. ด้วยรถแท็กซี่ มาถึงที่บ้านของนายโก้ ในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี นายโก้จึงให้ทั้ง 3 คน เข้าไปพักในบ้านโดยล็อกประตูห้องเอาไว้ และให้คอยสแกนใบหน้าเป็นเวลา 2 วัน  

จากนั้น วันที่ 10 มี.ค.68 เวลา 16.00 น.นายโก้ ให้ทั้ง 3 คนนั่งรถ Toyota Fortuner คนขับเป็นคนไทยเพศหญิง ออกเดินทางจาก อ.กบินทร์บุรี ไปยังอีกจุดแล้วเปลี่ยนขึ้นรถยนต์กระบะ Toyota Hilux Vigo สีบอรนซ์ มีคนขับเป็นชาวกัมพูชาเพศชาย ขับมาถึงบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ลักษณะเป็นสวนลำไย ติดคลองแนวชายแดนไทย-กัมพูชา 

โดยมีชาวกัมพูชาพาเดินเท้าข้ามลำคลองแนวชายแดน ออกไปยังประเทศกัมพูชา แล้วมีรถสามล้อรับจ้างมารับจากแนวชายแดน เดินทางมาถึงที่พัก ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และวันที่ 11 มี.ค.68 เวลา 11.00 น. มีคนมานำตัวไปยังสถานที่ทำงาน เป็นบ้านชั้นเดียว โดนชาวกัมพูชายึดโทรศัพท์มือถือพร้อมเอกสารประจำตัวทั้งหมด และให้เริ่มทำงานคอยทำการสแกนใบหน้า ทำงานตั้งแต่เวลา 08.00 – 23.00 น. ของทุกวัน จนถึงวันที่ 14 มี.ค.68 เวลาประมาณ 16.00 น. ซึ่งชาวกัมพูชาได้แจ้งว่า เสร็จสิ้นงานและจะส่งกลับภูมิลำเนา และไม่มีการจ่ายเงินค่าจ้างแต่อย่างใด

คนไทยทั้ง 3 ราย ให้ข้อมูลด้วยว่า หลังเสร็จสิ้นงานสแกนใบหน้า ได้มีรถยนต์เก๋งมารับและออกเดินทางมายังบริเวณ บ.ปอยเปต กรุงปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ก็นั่งพักจนถึงเวลา 24.00 น.ก็ไม่มีผู้มารับ จึงพากันเดินหาช่องทางธรรมชาติ แล้วข้ามแนวลำคลองจากแนวชายแดนกัมพูชา -ไทย เข้ามายังประเทศไทย จนถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบและจับกุมตัว หลังสอบสวนแล้วจึงได้นำตัวทั้งหมด ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน