โดนผัวกัดแก้มเสียโฉม ผัวสำนึกผิดก้มกราบเท้าขอโทษ กอดหอมแก้มเมียต่อหน้า ตร. จนเมียให้อภัย
โดนผัวกัดแก้มเสียโฉม ผัวสำนึกผิดก้มกราบเท้าขอโทษ กอดหอมแก้มเมียต่อหน้า ตร. จนเมียให้อภัย
โดนผัวกัดแก้มเสียโฉม ลั่นจากความรัก กลับกลายเป็นเกลียด ยันเอาเรื่อง ผัวสำนึกผิดก้มกราบเท้าขอโทษ กอดหอมแก้มเมียต่อหน้า ตร. จนเมียให้อภัย
(6 พ.ย.67) ร.ต.อ.สถาพร สวัสดี รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังตำรวจสายตรวจออกปฏิบัติหน้าที่ ในพื้นที่รับผิดชอบ รับแจ้งเหตุสามีถือมีดไล่ทำร้ายภรรยา เกรงว่าจะได้รับอันตราย และรุนแรง เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถหน้าแฟลตร้าง ด้านหลังสถานีรถไฟอุดรธานี ชุมชนหนองเหล็ก ม.9 ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงนำกำลังรุดออกไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นแฟลตร้าง 3 ชั้น ซึ่งเคยเป็นที่พัก จนท.รถไฟอุดรธานี พบนายสรศักดิ์ หรือเปิ้ล อายุ 39 ปี สาวประเภท 2 อยู่ที่หน้าแฟลต ให้การกับตำรวจว่า ขณะตนกำลังปูเสื่อนั่งล้อมวงกินข้าว และดื่มเหล้าขาวขวดเล็ก เพื่อเรียกน้ำย่อยกับเพื่อนๆ และสามีชื่อนายจำลอง หรือบอล อายุ 34 ปี ที่อยู่กินกันมา 6 เดือน และตนได้ใช้นายบอลไปเอากระเป๋าเงินภายในห้องพัก ปรากฏว่าเงินหายไป 200 บาท เดิมทีมีเงินอยู่ 300 บาท
ตนจึงถามนายบอลว่าทำไม่เงินในกระเป๋าเหลือเพียง 100 บาท มันหายไปไหน 200 บาท นายบอลก็ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้ลักเงินของตนไป และทำท่าทางไม่พอใจตน โดยการเตะสำรับข้าว หรือพาข้าวกระจาย โต้เถียงสักพัก นายบอลก็กระโดดกัดที่โหนกแก้วซ้ายเป็นแผล ไม่รู้จะเสียโฉมหรือไม่ ตนสู้ไม่ได้จึงคว้ามีดพร้าไล่ขู่ให้นายบอลหนีออกไปข้างนอกเฟลต พร้อมกับเหวี่ยงมีดใส่นายบอล แต่ไม่โดน นายบอลจึงเก็บมีดไปซ่อนไว้ แล้วมีพลเมืองดีผ่านมาเห็นโทร ช่วยโทรแจ้งตำรวจ
"อยู่กินกันฉันสามีภรรยามาได้ 6 เดือน โดยการอาศัยแฟลตร้างหลังสถานีรถไฟอุดรธานี มีอาชีพรับจ้างทั่วไป และเก็บของเก่าขาย ทำร้ายร่างกายตนมาตลอด แต่ไม่รุนแรงขนาดนี้ และทุกครั้งที่ทะเลาะลงไม่ลงมือกัน ส่วนมากสามีก็สู้ตนไม่ได้ เพราะตัวเล็กกว่า แต่วันนี้บังเอิญตนเสียท่าหกล้ม และยืนยันว่าจะไปแจ้งความเอาผิดฐานถูกทำร้ายร่างกายจนเสียโฉม เมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา นายบอลเมาเหล้าและยา ถือมีดพร้าไปขู่ทำร้าย รปภ.สถานีรถไฟ ทำให้ถูกจับ ตนก็ไปเจรจาไกล่เกลี่ยให้ เพราะรักเขามาก จนได้ออกมาอยู่ด้วยกันต่อ แต่วันนี้จากความรัก กลับกลายเป็นความขี้เดียด หรือรักเกลียดไปเลย กับในสิ่งที่เขาทำกับตน"
ตำรวจจึงเข้าไปเรียกนายบอล ที่หลบซ่อนตัวอยู่บนห้องพักในเฟลตร้าง ให้ลงมาพูดคุยตกลงกัน ซึ่งนายบอลก็เกินลงมาด้วยสีหน้าสำนึกผิด และยืนยันว่าไม่ได้ลักเงินในกระเป๋าภรรยาไป และสำนึกผิดที่ใจร้อน เพราะดื่มเหล้าขาวไปหลายก๊ก แต่ไม่ได้เสพยา เพราะต้องไปรายงานตัวในคดีเก่า ที่เอามีดไปขู่ไล่ทำร้าย รปภ.สถานีรถไฟอุดรธานี หากเขาจะเลิกกับตนก็ห้ามเขาไม่ได้ แต่ตนก็ยังรักเขาอยู่เหมือนเดิม ส่วนนายเปิ้ล สาวประเภทสองที่ยังอยู่ในอารมณ์ร้อน และกลัวว่าตนเองจะเสียโฉมจากรอยกัดของสามี ยังยืนยันว่าจะไปลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานที่โรงพัก
แต่พอตำรวจปลดกุญแจมือให้นายบอลได้มีโอกาสขอโทษเมีย โดยการก้มลงกราบเท้าที่พื้น ทำให้เมียประเภทสองเริ่มใจอ่อน ก่อนที่นายบอลจะเข้าไปโอบและหอมแก้ม เมียต่อหน้านักข่าวและตำรวจ ทำให้นายเปิ้ลผู้เป็นภรรยา ถึงกับเขิน แต่ยังมีอาการงอนสามีอยู่นิดๆ เพื่อเป็นการยืนยันว่าสามียอมรับผิดทุกอย่าง จึงทำให้นายเปิ้ล ภรรยาใจอ่อนให้อภัย และพากันไปทำแผลกันเอง เนื่องจากบาดเจ็บเล็กน้อย.