คนเมืองจัด “ปอยหลวงปิดเหมือง” ทวงคืนลำน้ำสะอาด
คนเมืองจัด “ปอยหลวงปิดเหมือง” ทวงคืนลำน้ำสะอาด

คนเชียงราย-เชียงใหม่ นับพันคนร่วมใจประกาศเจตนารมณ์ในงาน “ปอยหลวง ปิดเหมือง” เรียกร้องยุติเหมืองแร่ฝั่งเมียนมา ต้นเหตุทำลำน้ำสำคัญในภาคเหนือเจอปัญหาสารหนูปนเปื้อนสูงเกินมาตรฐาน
(5 มิ.ย. 68) ที่บริเวณสวนสาธารณะแม่ฟ้าหลวง ใกล้สะพานแม่น้ำกกและยังอยู่ใกล้ศาลากลางจังหวัดเชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย ได้มีประชาชนทั้งจากเชียงรายและเชียงใหม่จำนวนประมาณ 1,000 คน ได้เดินทางมาร่วมงาน “ปอยหลวง ปิดเหมือง” แสดงเจตนารมณ์ ปิดเหมืองที่ต้นเหมืองอยู่ในประเทศเมียนมา
ซึ่งมีนักเรียนนักศึกษา ชาวบ้านหลากหลายอาชีพ รวมไปถึงกลุ่มอนุรักษ์ต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากแหล่งน้ำโดยตรง และผู้ที่ต้องการปกป้อมแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อแสดงพลังให้ถึงรัฐบาลนายกรัฐมนตรี ซึ่งกิจกรรมมีการนำปลาแค้ ไปติดปลาแค้ตัวให้แสดงให้เห็นว่า ปลาในแม่น้ำป่วย มีการแสดงของกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับน้ำโดยตรง มีการทำพิธีกรรมต่างๆ ทางชนเผา และพิธีทางศาสนา ไหว้ขอขมาแม่น้ำกก.ตามพิธีชนเผ่า
ด้านครูตี๋ หรือนายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว ผอ.โฮงเฮียนแม่น้ำของ เผยว่า ในวันนี้ซึ่งตรงกับวันสิ่งแวดล้อมโลก ทุกคนในจังหวัดเชียงราย ได้มาแสดงเจตนารมณ์ หยุดเหมืองที่ปล่อนสารพิษลงในแม่น้ำกก.แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง ทำให้ชาวเชียงราย ได้รับผลกระทบในการใช้ชีวิต เพื่อให้กลับคืนมาเหมือนเดิม ต้องให้รัฐบาลลงมาแก้ไขอย่างจริงจังและชัดเจน ซึ่งการขับเคลื่อนครั้งนี้ยังเป็นเพียงแค่เริ่มต้น ยังจะมีการขับเคลื่อนต่อทุกอย่าง ซึ่งครูตี๋ยังกล่าวอีกว่า วันนี้คนเชียงรายมาแสดงพลังจำนวนมาก ซึ่งก็สื่อถึงรัฐบาลว่าคนเชียงรายยอมไม่ได้ ขณะเดียวกันที่มีหน่วยงานออกมาบอกว่าน้ำไม่มีสารพิษ ซึ่งผลการตรวจออกมาจากกรมมลพิษ ก็บอกว่ามีสารพิษ ทำให้ประชาชนสับสน จึงอยากให้มีการแจ้งข่าวสารให้ชัดเจนไม่ให้ประชาชนสับสน จะได้ระวังตัว
ด้านอาจารย์ลลิตา หาญวงษ์ อาจารย์คณะวิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ปรึกษาคณะกรรมธิการความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดนยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศสภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวว่า ทางรัฐบาลต้องศึกษาตีโจนย์ให้แตกว่า จะไปคุยกับใครที่ไหน อย่างไร ซึ่งเร่งด่วนที่ต้องไปคุยมีพม่า-จีน-ว้า ซึ่งการเจรจาอาจจะให้ไปคุยผ่านรัฐบาลพม่า เพื่อถือว่าไม่ได้ข้ามหน้า และให้พม่าประสานไปยังกลุ่มว้า ซึ่งการเข้าไปคุยกับจีน ก็ถือเป็นเรื่องยากมาก ซึ่งแร่เหล่านี้จะตีกลับเข้าไปประเทศจีน และมีบางส่วนเข้ามาประเทศไทย ซึ่งการที่จะเข้าไปคุยกับว้าแดง ที่เมืองใหญ่ที่ปางซาง(พม่า) นั้น จะต้องคิดก่อนว่าใครจะเป็นคนเข้าไปเจรจากับกลุ่มว่า ซึ่งว้าไม่มีสถานะเป็นประเทศ ต้องหาตัวแทนที่เหมาะสม ต้องใช้กลไกรธุรกิจการค้า หรือการทหาร หรือส่วนที่เกี่ยวข้องกับว้า ซึ่งต้องให้มีสายสัมพันธ์ที่ดี ทุกเครือข่าย
อาจารย์ลลิตา หาญวงษ์ ยังกล่าวอีกว่า การสร้างฝาย สร้างเขื่อนไม่ใช้การแก้ไขปัญหา ซึ่งตอนนี้มันเป็นปัญหาหลายประเทศไปแล้ว กระจายไปทั่วทุกภูมิภาค ซึ่งผลระยะยาว หากมีการเปิดหน้าเหมืองเพิ่มจะมีปัญหาตามมามากขึ้น ปัญหามากขึ้น แก้ไขยากขึ้น ซึ่งพืชผลทางการเกษตร จะกระทบไปหลายประเทศในอนาคต อาหารในอานาคตอาจจะใช้รับประทานไม่ได้ จึงให้รัฐบาลทำการบ้านให้ดี
ซึ่งขบวนได้เดินถึงบนสะพานน้ำกก ได้ยื่นหนังสือให้ นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายชรินทร์ ทองสุข. ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมกับอ่านสารหลายภาษา ส่งไปถึงนายกแพทองธาร ชินวัตร